ป้ายธงญี่ปุ่น
สำหรับป้ายที่กำลังมาแรงมาในตอนนี้คงไม่พ้นป้ายธงประเทศญี่ปุ่นที่ทุกท่านจะสามารถพบเจอได้ตามงานมหกรรม อีเวนท์ หรือแม้กระทั้งตามข้างทาง ป้ายจำพวกนี้จะมีลักษณะเป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้าในแนวดิ่งโดยจะถูกนำติดอยู่บนฐานตั้ง โดยป้ายประเภทนี้มีแนวคิดประยุกต์มาจากญี่ปุ่นโดยจากมายุคซามูไร ซึ่งเชื่อว่าผู้คนจำนวนมากอาจเคยเห็นตามภาพยนตร์ย้อนยุคที่ซามูไรญี่ปุ่นในการทำศึกจะชูป้ายที่มีเครื่องหมายกลุ่มไว้วางเรียงในกองทัพหรือติดไว้ตามแนวกำแพงเมืองเรียงกันเป็นแถวสะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่แล้วก็สง่างามโดยป้ายจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวดิ่งยึดติดกันเสาซึ่งนับว่าแตกต่างจากธงลักษณะเดิมที่มาจากตะวันตกที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพราะความสง่างามตามที่กล่าวมาจึงเริ่มมีการปรับใช้นำป้ายธงประเทศญี่ปุ่นทำนองเดียวกันนี้มาใช้สำหรับในการโปรโมทและโฆษณาร้านค้ากันถัดมาในวันหลัง
สำหรับป้ายธงญี่ปุ่นนั้นควรจะมีส่วนประกอบรวม 2 ส่วนหลักด้วยกันซึ่งจะต้องครบส่วนประกอบโน่นเป็น 1.ป้ายที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าในแนวตั้งโดยวัสดุนั้นจะเป็นชนิดในก็ได้ ซึ่งโดยตอนนี้นิยมใช้พลาสติกไวนิลด้วยเหตุว่าราคาแพงถูกแล้วก็ทนต่อสิ่งแวดล้อม แสงแดดก้าวหน้า เพื่อความสบายสำหรับในการใช้งานกลางแจ้ง 2.ขาตั้ง ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่จะฐานให้สามารถห้อยป้ายประเทศญี่ปุ่นได้ ซึ่งลักษณะองค์ประกอบของขาตั้งก็จะมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับการออกแบบของผู้จัดทำ แต่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ถ้าหากกล่าวถึงป้ายธงญี่ปุ่นต้องระลึกถึงป้ายทรงสี่เหลี่ยมแนวตั้งที่มีขาตั้งรวมอยู่ด้วยเสมอ ซึ่งบรรดาผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายป้ายชนิดนี้ก็ชอบขายพร้อมกันเป็นชุด
ส่วนของตัวป้ายธงประเทศญี่ปุ่นนั้นขนาดที่นิยมใช้งานจะมีขนาดด้านกว้าง (ความยาวแนวระดับ) ที่ประมาณ 50 – 60 cm. ไม่เกินนี้เพื่อให้พอดิบพอดีกับความยาวของแขนของขาตั้งที่ชอบถูกออกแบบให้เหมาะกับป้าย แม้กระนั้นส่วนความสูง (ความยาวแนวตั้ง) จะมีนานาประการขนาดขึ้นอยู่กับการออกแบบซึ่งจะมีตั้งแต่ 140 – 200 cm. อย่างยิ่งจริงๆ สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้นั้นชอบเป็นไวนิลทึบแสงโดยความละเอียดสำหรับการพิมพ์ชอบมีความละเอียดสูงตั้งแต่ 1200 dpi ขึ้นไปเพราะว่าตั้งอยู่พอดิบพอดีกับสายตาลายเส้นก็เลยจำต้องชัดแจ๋วระดับหนึ่ง นอกนั้นป้ายธงประเทศญี่ปุ่นชอบพิมพ์ลายทั้งสองด้านด้วยเหตุว่าตัวป้ายนั้นถูกแขวนอยู่ลอยๆไม่ต้องนำไปยึดกับฉากหรือกำแพงทำให้สามารถหันตำแหน่งมุมมองของป้ายให้สามารถเห็นจากทั้งคู่ฝั่งได้
ต่อมาส่วนของขาตั้งป้ายธงประเทศญี่ปุ่นที่สามารถแบ่งส่วนประกอบออกมาได้เป็น 3 ส่วน 1.ส่วนฐาน ซึ่งเป็นส่วนรับน้ำหนักและสมดุลของขาตั้ง โดยควรจะมีความกว้างของฐานที่เหมาะสมเพื่อให้ป้ายไม่ล้มหรือเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง วัสดุที่ใช้นิยมใช้เป็นเหล็กหรือโลหะที่มีความแข็งแรง อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีรูปร่างแต่งต่างกันออกไป อย่างเช่น รูปวงกลม ทรงสี่เหลี่ยม ทรงสามเหลี่ยม ฯลฯ นอกจากนี้เพื่อความแข็งแรงรวมทั้งคงทนอาจจะมีการหล่อปูนลงบนฐานทำให้สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีลมแรงก้าวหน้า แต่สำหรับป้ายที่ใช้ในที่ร่มบางครั้งอาจจะใช้โลหะชนิดอลูมิเนียมแทนเพราะเหตุว่ามีน้ำหนักเบารวมทั้งย้ายที่ได้ง่าย 2.ส่วนของเสา ซึ่งจะมีความสูงที่จำต้องไม่น้อยกว่าความสูงของป้ายเป็นหลัก ส่วนมากจะนิยมที่ความสูง 2 เมตรเพื่อไม่สูงมากเกินความจำเป็นอยู่ในระดับสายตาที่เห็นได้และก็สบายต่อการติดตั้งป้าย 3.ส่วนแขนของขาตั้ง ส่วนนี้จะยึดติดอยู่กับเสาโดยจะมีแขนอยู่ 2 ข้างยื่นออกมาเพื่อยึดติดกับป้ายได้ด้านบนและด้านล่างได้เพื่อสามารถยึดป้ายได้แน่นหนาไม่ขยับหรือลอยละล่องได้ง่าย สำหรับความยาวของตอนแขนโดยหลักจะต้องพอดีกับความกว้างของป้าย เนื่องด้วยหากแขนสั้นจนกระทั่งเหลือเกินก็อาจจะส่งผลให้ป้ายไม่ตึงและพับได้ แต่ถ้าเกิดมีความยาวมากจนเกินความจำเป็นก็จะแขนยื่นโผล่ออกมาจากป้ายทำให้มองขวางและไม่งาม นอกจากแขนของขาตั้งด้านล่างน่าจะถูกออกแบบให้สามารถสไลด์ปรับระดับได้เพื่อพอดีกับความสูงของป้ายในเรื่องที่ความสูงของป้ายน้อยเกินไปดีหรือใช้ซ้ำได้ในกรณีมีการเปลี่ยนแปลงป้าย
ในด้านการใช้แรงงานป้ายธงประเทศญี่ปุ่นนั้นสามารถใช้งานได้ทั้งยังนอกและก็ด้านในตึก ซึ่งจำต้องพิเคราะห์ด้านการเลือกใช้อุปกรณ์ก่อนการออกแบบ เช่น ถ้าเกิดใช้นอกอาคารจำต้องใช้ป้ายที่มีทนต่อสภาพภูมิอากาศและแดด ตัวขาตั้งต้องแข็งแรงมั่นคงสามารถต้านแรงลม พายุฝน รวมทั้งต้องทนต่อการกัดกร่อนจากสนิม เป็นต้น ทั้งหมดเพื่อให้สามารถใช้นานได้นานและคุ้ม รูปแบบของการใช้ป้ายธงญี่ปุ่นนั้นส่วนมากมักใช้ในการอีเวนท์และนิทรรศการต่างๆเพราะเหตุว่าขนได้ง่าย มัธยัสถ์พื้นที่ และไม่ต้องหาตำแหน่งปิดป้ายเนื่องจากว่าสามารถนำไปวางได้โดยทันที ไม่เพียงเท่านั้นยังนิยมนำไปวางเรียงกันเพื่อเพิ่มความงามและก็เย้ายวนใจความพึงพอใจของลูกค้าได้ดี ซึ่งมักจะพบเจอได้ตามงานจัดบูท หน้าแผนการต่างๆซึ่งจะมีผลให้โครงการนั้นดูสง่างาม น่าเชื่อถือได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งพบเจอได้ตามแผนการหมู่บ้านจัดสรร บูทพิเศษของธนาคารต่างๆเป็นต้น สำหรับผู้ประกอบชนิดร้านขายของก็นิยมใช้ป้ายชนิดนี้ตีหน้าร้านเพื่อนำเสนอโปรโมชั่น โฆษณาสินค้า ที่ไม่ได้อยากต้องการติดเป็นการถาวร สามารถแปลงหรือเก็บเข้าร้านได้สะดวกและนำออกมาได้ง่ายอีกด้วย โดยเหตุนั้นป้ายธงประเทศญี่ปุ่นก็เลยนับเป็นโอกาสใหม่ของโฆษณาที่ไม่ควรละเลย
ที่มา : http://www.pimde.com/

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น