วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560

พิมพ์นามบัตร

พิมพ์ นามบัตรติดต่องาน
การพิมพ์นามบัตรในการแนะนำตัวเป็นมารยาทพื้นฐานสำคัญในการแนะนำตัวหรือการติดต่องานที่เป็นทางการ
ท่านต้องมีการพิมพ์นามบัตรเตรียมพร้อมไว้เป็นนิสัยไม่สมควรให้ห่างจากตัวแม้ว่าจะเป็นวันส่วนตัวธรรมดาก็ได้ เพราะท่าน
ไม่สามารถทำนายได้ว่าจะต้องใช้มันเมื่อไหร่ คุณอาจจะได้เจอคู่ค้าทางธุรกิจในวันเหล่านี้ก็เป็นได้ ดังนั้นอย่างน้อย
ท่านควรแบ่งพิมพ์นามบัตรไว้ในกระเป๋าเงิน บนรถ หรือสอดไว้ตามที่ต่างๆ เป็นต้น เนื่องด้วยจำนวนการพิมพ์นามบัตร
ควรสังเกตความเหมาะสมให้ดีและเมื่อนามบัตรใกล้หมดควรจะสั่งพิมพ์ล่วงหน้าโดยคิดถึงระยะเวลาในการจัดทำด้วย
เพราะหากพิมพ์นามบัตรไม่เพียงพอต่อการใช้งานอาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อการงานและธุรกิจที่สำคัญได้
การแจกนามบัตรนั้นท่านเชื่อหรือไม่ว่าถูกจัดลงในหลักสูตรการศึกษาด้านธุรกิจเกือบทั่วโลก บางคราวคุณอาจจะ
คิดว่าการพิมพ์นามบัตรเป็นการเปลืองเงินหรือใช้ผลประโยชน์ไม่ได้ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศเช่นนี้ แต่ทว่าแม้แต่บริษัทผู้นำ
ด้านไอทีระดับโลกยังคงต้องใช้นามบัตรกันอยู่ทั้งนั้น เนื่องด้วยความหมายโดยนัยในการแจกนามบัตรนั้นเป็นการแสดงให้เห็น
ถึงความอยากที่ให้ความช่วยเหลือ การแจกนามบัตร หรือติดต่อพบปะกันในหนหน้า ทำให้ผู้รับรู้สึกชื่นชอบในครั้งแรกในตัวคุณ
หรือสำหรับบางประเทศที่มีวัฒนธรรมเชิงอนุรักษ์ถือว่าการพิมพ์นามบัตรส่งมอบแก่ผู้อื่นเป็นมารยาทพื้นฐานที่ขาดไม่ได้
ทั้งนี้มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดลักษณะพื้นฐานของนามบัตร นามบัตรนั้นมักจะนิยมใช้กำหนด
ขนาดตามหลักสากลโดยจะอยู่ที่ 9.4 x5.5เซ็นติเมตร ซึ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการงานออกแบบพิมพ์นามบัตรแทบจะ
มีการกำหนดขนาดโครงหน้าเท่าขนาดนามบัตรจริงเกือบทุกโปรแกรม สำหรับสิ่งที่ต้องอยู่ในนามบัตรนั้นอย่างน้อยที่สุด
ต้องชี้เฉพาะชื่อและลู่ทางติดต่อกลับ โดยหลายท่านไม่นิยมระบุชื่ออาจจะใส่ชื่อบริษัทหรือร้านรวงก็ได้ สำหรับช่องทางการ
ติดต่อสื่อสารกลับอาจจะให้เป็นเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ หรืออีเมล ตกลงตามแต่สะดวก การพิมพ์นามบัตรนั้นท่านสามารถออกแบบได้
ด้วยตนเองและพิมพ์นามบัตรใช้เองก็ได้ แต่คุณค่าอาจจะไม่ดีพอที่จะใช้ในระยะยาวหรือหากพิมพ์ใช้เป็นจำนวนมาก
อาจจะมีค่าใช้จ่ายอาจจะแพงมากกว่าโรงพิมพ์อีกด้วย
สำหรับการพิมพ์นามบัตรโดยโรงพิมพ์นั้นในยุคปัจจุบันมีราคาไม่แพงโดยขึ้นอยู่กับปริมาณที่สั่งพิมพ์ โดยสิ่งที่ต้อง
พิจารณาหลักๆ คือคุณภาพของงานพิมพ์แต่ละใบ อย่างไรก็ตามความคมชัดและรายละเอียดของหมึกจะดีกว่าเครื่องพิมพ์
เอนกประสงค์ตามบ้านโดยทั่วไปแน่นอนและทำเป็นเลือกใช้กระดาษแบบต่างๆ ที่ไม่สามารถใช้เครื่องพิมพ์ที่บ้านได้ ซึ่งที่
นิยมกันหลักแล้วก็จะเป็นกระดาษอาร์ตการ์ดที่มีความหนา 260 แกรมขึ้นไปเพื่อให้มีความแข็งแรงเพียงพอ แต่บางครั้ง
อาจจะเลือกใช้กระดาษแบบอื่นที่บางกว่าแล้วใช้การเคลือบผิวพลาสติกบนบนงานพิมพ์นามบัตรเพื่อเพิ่มความแน่นหนาและ
ความทนทานซึ่งจะมีทั้งเคลือบแบบเงาและแบบด้านก็ได้ นอกจากข้อปลีกย่อยการพิมพ์ที่ดีแล้วโรงพิมพ์เหล่านี้จะมี
เทคนิคการแต่งแต้มพิเศษที่การเคลือบ UVหรือ SPOT UVเพื่อให้หมึกเพิ่มความเงาเน้นในจุดที่ต้องการ เป็นต้น
เทคนิคการพิมพ์นามบัตรแต่ละแห่งจะแตกต่างกันออกไปโดยคุณสามารถเลือกหรือขอดูตัวอย่างงานเหล่านั้น
จากโรงพิมพ์ที่ใช้บริการได้ หรืออาจจะอธิบายความต้องการของท่านให้กับโรงพิมพ์เพื่อที่จะสามารถช่วยคิดวิธีการที่จะได้
งานพิมพ์นามบัตรที่ตรงตามใจของคุณได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์นามบัตรด่วน

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.pimplernprint.com/นามบัตร_Digital_Offset_1/

พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท


ผลิตภัณฑ์กว่านับพันนับหมื่นชิ้นท้องตลาด ผู้ประกอบการค้ากว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้ขายสินค้าและบริการ
ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมี
การพิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล
ทั้งนั้นการพิมพ์ป้ายไวนิลเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่สะดุดตามากในการแนะนำสินค้าในด้านการพิมพ์ป้ายไว
นิลเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงผู้คนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “พิมพ์ป้ายโฆษณา” ซึ่งทุกวันนี้สามารถเห็นสื่อ
ชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีผู้คนคับคั่ง
เป็นจุดที่ดูและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามอาคารสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้ง พิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล ป้ายโครงเหล็ก ป้าย
แบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่างพิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีอยู่มากมายขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่พิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทพิมพ์ป้ายไวนิล เป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูดความสนใจ การเข้าถึงผู้
บริโภคจำนวนมากไม่กำหนด
เป้าหมายและประกอบด้วยราคาย่อมเยา ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากพิมพ์ป้ายไวนิลมักมองและสังเกตไปในจุดที่โดดเด่นและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นอาคารสิ่งปลูกสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีการพิมพ์ป้ายไวนิลที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีศักยภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงประชากรจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว
แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนบริเวณเล็กและการเข้าถึงเฉพาะเจาะจงส่วนที่เป็นเป้าหมาย การใช้พิมพ์ป้าย
โฆษณา พิมพ์ป้ายไวนิล พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดสังคมมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อการพิมพ์ป้ายโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีรายการจ่ายในการผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบการ พิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล ราคาถูกกว่า
การพิมพ์ป้ายโฆษณาแบ่งชนิดพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล สามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของพิมพ์ป้ายโฆษณาซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทติดบิลบอร์ด คือ พิมพ์ป้ายโฆษณา ที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการมองเห็นได้ง่าย แม้ในขณะ
นั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดปลีกย่อยผลิตภัณฑ์แต่จะเน้นในด้านทำความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการเห็นในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูด ชักจูงในสนใจผลิตภัณฑ์ เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดความสนใจที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นพื้นที่คนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ใต้ตึก ห้องอาหาร เป็นต้น
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่น่าจะพินิจพิจารณาไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การพิมพ์ป้ายโฆษณาออกแบบและรายละเอียดปลีกย่อยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่ลึกลับซับ
ซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่มุ่งหมายสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่พอดีกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติดในการพิมพ์ป้ายโฆษณา สมมติถ้าพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาด
เล็กบนทางอาคารสูงก็ไม่เหมาะสม
3.บริเวณในการพิมพ์ป้ายโฆษณาใช้งาน แม้พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาด
เล็กที่เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ในการพิมพ์ป้ายโฆษณา คุณลักษณะของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติด
ไว้นานมากเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่ชำนาญแล้วก็จะทำให้งานพิมพ์ป้ายโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องคงทนกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน
ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารพิมพ์ป้ายโฆษณาเป็นป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ยุคปัจจุบันการพิมพ์ป้ายโฆษณาทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นไม่ได้มีราคาแพง
มากเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้มาก และทั้งนั้นพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ

 



ที่มา : http://www.pimde.com/

รับพิมพ์กล่อง

 ออกแบบกล่อง | พิมพ์กล่อง
จำได้ว่าครั้นช่วงเวลายังเป็นเด็กเคยซื้อช๊อคโกเลตยี่ห้อหนึ่ง หลังรับประทานเสร็จจะไม่ทิ้งกล่องจะเอามาเป่าเล่นเหมือนเสียง
แตรจนกล่องเปื่อยแล้วค่อยทิ้งเพราะเสียดาย ซึ่งเวลานั้นสินค้าใดใช้กล่องบรรจุภัณฑ์นั้นจะมีราคาแพงมาก
ส่วนมากนิยมใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทบรรจุหีบห่อโลหะมากกว่า และช่วงเวลานั้นถ้าไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตรายใหญ่
ที่เป็นระดับอุตสาหกรรม พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์นั้นแทบจะไม่มีการแต่งเติมลวดลายใดๆ เท่าใดนัก อาจจะเพราะต้นทุน
การผลิตที่สูงกว่าสมัยนี้มาก ซึ่งเท่าที่จำได้ก็ขนมโมจิจากนครสวรรค์สมัยก่อนที่จะเป็นกล่องสีขาวๆ พิมพ์สีก็
ประมาณ 4 สีและมีไม่กี่จุดเท่านั้น
แต่ในประจุบันพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายและใช้กับผลิตภัณฑ์หลายๆประเภท และไม่ใช่เพียงเฉพาะ
กับสินค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยแม้แต่ห้างร้านขนาดเล็กก็มีการใช้พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ประดับประดาเป็นลวดลาย
ในแบบฉบับของตนเอง เนื่องจากพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์นั้นยังคงเป็นนิยามแห่งความประณีต มีระดับไม่ต่างจากในอดีต
จนบางครั้งรูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์เป็นตัวเพิ่มค่าให้กับสินค้า และเป็นแรงลุ่มหลงให้ลูกค้าเลือกบริโภคสินค้า
ไม่แพ้ รสชาติ คุณค่า หรือความสามารถในการใช้งานของสินค้านั้นๆ เลยแม้แต่น้อย
การเลือกใช้กล่องบรรจุภัณฑ์นั้นต้องคำนึงถึงปริมาตร ประเภทของสินค้า เพราะสัดส่วนที่พอดีนั้นจะช่วยลดต้นทุน
ของกล่องบรรจุภัณฑ์และป้องกันไม่ให้สินค้าเสียหายจากการเคลื่อนที่ของผลิตภัณฑ์ในกล่องที่ใหญ่เกินไปขณะเคลื่อนย้าย
หรือพยายามบรรจุลงกล่องที่แคบเกินไปจนสินค้าเสียรูป และประเภทสินค้ามีผลต่อการเลือกใช้วัสดุในการทำกล่องบรรจุภัณฑ์
เพราะหน้าที่หลักของกล่องบรรจุภัณฑ์คือการป้องกันไม่ให้สินค้าที่อยู่ภายในเสียหาย หากเป็นสินค้าที่แตกหักง่ายต้องเสียใช้
อุปกรณ์ที่ป้องกันการกระแทกได้ดี เช่น กล่องประเภทลูกฟูก เป็นต้น
การออกแบบและตกแต่งกล่องบรรจุภัณฑ์ในปัจจุบันมีให้เห็นมากมายขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของผู้ผลิตสินค้า
แต่ละคน ซึ่งมีทั้งกล่องรูปทรงต่างๆ กันไม่ใช่เฉพาะสี่เหลี่ยมแบบแต่ก่อน หรือวิธีปิดผลึกกล่องและแกะกล่องที่ต่างๆ
กันออกไป สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวสนับสนุนภาพลักษณ์ให้ดูน่าสนใจ เพิ่มความน่ายอมรับให้มากกว่าคู่แข่งให้สินค้า
ประเภทเดียวกัน สำหรับการพิมพ์ลวดลายบนกล่องบรรจุภัณฑ์นั้นปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากแต่งอย่างใดสามารถ
ออกแบบเองแล้วส่งให้ร้านพิมพ์ และนอกจากนั้นยังสามารถเสริมแต่งลวดลายความสวยงามเพิ่มเติม
ตัวอย่าง เช่น เคลือบเงา ปั๊มนูน เป็นต้น
สุดท้ายนี้แม้ความสวยงามกล่องบรรจุภัณฑ์จะช่วยเสริมด้านการขายให้ดีขึ้นแล้ว แต่ต้องอย่าลืมที่จะต้องลงราย
ละเอียดของสินค้าให้แก่ลูกค้า เช่น วันเดือนปีที่หมดอายุหรือผลิต วิธีการใช้ คำเตือนหรือข้อแนะนำสินค้า
การเพิ่มเติมสิ่งเหล่านี้แม้จะทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์ลดความสวยงามลงบ่าง แต่สุดท้ายจะเป็นประโยชน์ต่อ{ผู้บริโภค|ผู้ซื้อ|ลูกค้า|ผู้ใช้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์กล่องเครื่องสําอางค์

ขอบคุณบทความจาก : http://www.pim-d.com/category/1/ออกแบบกล่อง-พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์

พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท


ผลิตภัณฑ์กว่านับพันนับหมื่นชิ้นตลาด ผู้ประกอบการกว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้จำหน่ายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้ซื้อเลือกบริโภคสินค้าตัวนี้มากกว่าสินค้าตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา
ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่สะดุดตามากในการชักจูงผลิตภัณฑ์ในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท” ซึ่งเดี๋ยวนี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีกลุ่มคนพลุกพล่าน
เป็นจุดที่สังเกตและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามตึกสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้ง พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่าง ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีหลายหลากขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทเป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูด การเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากไม่กำหนด
เป้าหมายและมีค่าถูก ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปในจุดที่โดดเด่นและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นอาคารสิ่งก่อสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีป้ายที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีศักยภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงผู้คนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนพื้นที่จำกัดและการเข้าถึงเฉพาะวงการที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายไวนิลจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดส่วนมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีรายจ่ายในการผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกกว่า
การแยกประเภทพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทสามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของป้ายซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทติดบิลบอร์ด คือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการเห็นได้ง่าย แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดสินค้าแต่จะเน้นในด้านทำกระแสความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการเห็นในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูด ชักจูงในสนใจผลิตภัณฑ์ เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นในที่คนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ล่างอาคาร ห้องอาหาร เป็นต้น
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่น่าจะวิเคราะห์ไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การออกแบบและรายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่สลับซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่ตั้งใจสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่ควรกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาดเล็กบนทางอาคารสูงก็ไม่เหมาะสม
3.พื้นที่ในการใช้งาน แม้ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาดเล็กที่เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณลักษณะของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้นานมากเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่ถูกต้องแล้วก็จะทำให้งานโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องทนทานกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องคงทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ยุคปัจจุบันการทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นไม่ได้มีสนนราคาแพงเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย และทั้งนั้นพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ



เครดิต : http://www.pimde.com/

รับทำเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์
การจะติดต่อผู้รับทำเว็บไซต์ ต้องให้เขาเข้าใจวัตถุประสงค์หลัก
ล่าสุดการสื่อสารผ่าน internet หรือโลกออนไลน์ เป็นเรื่องที่นิยมกันอย่างกว้างขวางและกลายเป็นเรื่องที่มีความ
จำเป็น กิจการใดๆ ไม่ว่าจะค้าสินค้าหรือบริการต่างพยายามใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารเพื่อหาลูกค้าเพิ่ม ซึ่งก็มีอยู่มากมาย
หลายวิธี แต่ที่ได้รับการไว้ใจว่ามีหลักเกณฑ์มากที่สุดก็คือการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเป็น
โปรแกรมเมอร์เก่งๆ ที่เขียนโค้ดได้อย่างเชี่ยวชาญ หรือเป็นนักพัฒนาระบบที่มีความเชี่ยวชาญ เราก็สามารถมีเว็บไซต์เอาไว้ใช้
งานได้ ด้วยการคัดเลือกผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ ที่มีความสามารถมาทำเว็บไซต์ให้เราเอาไปใช้งาน... แต่ ก่อนที่เราจะตกลง
จ้างหรือเลือกคนที่จะมา รับทำเว็บไซต์ ให้เรานั้น จะต้องมีการทำความตกลงและทำความเข้าใจกันให้ดีก่อน เพราะ คนที่เขา
รับทำเว็บไซต์ หากไม่เข้าใจถึงเนื้อความตั้งใจที่แท้จริงของเรา เขาก็ไม่สามารถที่จะออกแบบระบบมารองรับเนื้อความประสงค์
ของเราได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นทำให้ความสามารถของเว็บไซต์ของเราลดลง...
จุดมุ่งหมายในการใช้งาน เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจกันก่อนเป็นอันดับแรกเริ่มเมื่อต้องการหาคน รับทำเว็บไซต์ !
เรื่องนี้อาจจะดูว่าลำบากและวิตกกังวลกับคนหลายๆ คน เพราะเวลาพูดกับคนที่เขา รับทำเว็บไซต์ หรือโปรแกรมเมอร์ที่
เป็นผู้พัฒนาระบบ ส่วนมากสิ่งที่ออกมาจากปากของเขา จะเป็นคำศัพท์เจาะจงที่คนนอกแวดวงรู้สึกเหมือนมันเป็นภาษาต่าง
ดาว ! ระบบโปรแกรมแบบนั้น ระบบดาต้าเบสแบบนี้ Frontend ใช้แบบนั้น Backend แบบนี้ เขาจะบอกเราในเนื้อความงาน
ที่เขาจะดำเนินงานเมื่อ รับทำเว็บไซต์ ให้กับเรา.... แต่ทุกอย่างดูเหมือนเป็นภาษาที่มาจากต่างโลก ! ซึ่งนี่ดูเป็นอุปสรรค์ ในการ
ติดต่อว่าจ้างผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ เป็นอย่างยิ่ง !
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องลำบากใจไป เพราะสิ่งที่เราจำเป็นจริงๆ ที่ต้องบอกให้ทราบให้คนที่ รับทำเว็บไซต์ ได้ทราบก็คือ
จุดมุ่งหมายหลัก ! ในการทำเว็บไซต์ของเรา สิ่งที่เราต้องบอกกับผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ ก็คือ เราต้องการใช้เว็บไซต์เพื่อใช้งาน
อะไร ต้องการให้ลูกค้าเข้ามาแล้วมองเห็นอะไร สามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น เราต้องการให้เขาทำงาน รับทำเว็บไซต์ ให้กับ
ร้านขายสินค้าออนไลน์ของเรา จะต้องมีอะไรบ้างที่ผู้บริโภคของเราเห็นแล้วจะเกิดความพอใจ มีรายการสินค้าที่
สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ได้ง่าย มีภาพแสดงให้เห็นสินค้า มีเนื้อหาย่อ มีราคา และมีระบบตะกร้าสินค้าและระบบการชำระเงิน
ออนไลน์หรือวิธีเลือกโอนเงินและวิธีเลือกติดต่อเราได้ง่ายๆ โปรแกมพวกนี้ที่เราต้องบอกให้ทราบกับโปรแกรมเมอร์ที่ รับทำเว็บไซต์ ให้กับเรา
และทั้งหมดนั่นเป็นสิ่งที่คน รับทำเว็บไซต์ ต้องการรับทราบในเนื้องาน รับทำเว็บไซต์ ของเขา เพื่อที่เขาจะได้สามารถจัดวาง
ระบบ และออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ให้ลงตัว และใช้งานได้ เตรียมเรื่องเหล่านี้ไว้ แจกแจงให้ชัดเจนต่อผู้ รับทำเว็บไซต์
ให้กับลูกค้าแล้วจะได้เว็บไซต์ที่ต้องการ



ที่มา : https://www.makewebzone.com/

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)เพิ่มยอดขายโปรโมชั่น
งานขายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำกิจการเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการนำเสนอให้ลูกค้าทราบได้ว่าหน่วยงานของเรานั้นขายอะไร มีข้อดีอย่างไร แต่การ
อธิบายผู้บริโภคด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่บรรยายได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมเรื่องประกอบ เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการเสนอมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความสะดวกโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาสบาย ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ใหม่ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังอาจจะจดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีรูปพรรณเป็นงานพิมพ์ที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาข้อปลีกย่อยเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มพวกอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
จุดประสงค์การใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นสาระในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละกลุ่มขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มอย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการสำรวจและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานบรรยายผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและสร้างสรรค์จะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความประณีตเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งส่วนเพิ่มเติมส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนตรงนี้เป็นเหล่าที่แสดงความสามารถและสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การเลือกใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของสาระ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษชนิดอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการแต่งเติมใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องมุ่งเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อรักษาความยับเยินจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะตรงนี้เป็นประเด็นนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเปื้อนเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปภาพประกอบจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถดูผ่านเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนผลิตภัณฑ์จริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดข้อสงสัยกับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความแม่นพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกตรงนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดขนาดเล่มให้มีขนาดเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องชี้แจงมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้สึกเอียนและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง
ขนาดเล่มกับขนาดภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีสัดส่วนที่ทำให้ลูกค้าสามารถสังเกตเห็นได้ถนัดตาโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการสุดท้ายนี้คือความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับขนาดตัวหนังสือ ส่วนมากการจัดเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีข้อสงสัย แต่สำหรับสินค้าบางกลุ่มหรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการอธิบายเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถเห็นและอ่านได้สบาย อาจจะต้องมีเทคนิคการจัดแจงรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องนึกคิดร่วมในการออกแบบและกำหนดสัดส่วน
ซึ่งสัดส่วนของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดโดยประมาณกระดาษ A6 โดยขนาดที่ใช้
เป็นประจำที่สุดคือ A4 เพราะมีขนาดที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงสบายในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงลู่ทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อเกิดคุณค่าสูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนค่อนข้างสูง ซึ่งหากให้ตระเตรียมพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะจำเพาะเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นเจ้าประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างติดต่อ หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงชื่อมีความต้องการข้อมูล เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการมอบกับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้เตรียมทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการสนองตอบมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางลักษณะอาจจะใช้การจัดแจงพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยเตรียมแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาซักถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนขาย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์แคตตาล็อก วารสาร

ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

พิมพ์กล่องสบู่

พิมพ์กล่องกล่องสบู่ | พิมพ์กล่องเครื่องสำอางค์
สมัยนี้ทุกท่านคงได้พบเห็น การออกแบบกล่อง พิมพ์กล่องสบู่ ต่างๆนาๆรูปแบบตามท้องตลาด ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมางานผลิตการพิมพ์กล่องสบู่หลายท่านคงนึกตามในใจเลยว่า
มีต้นแบบไหนบ้างผลิตที่ไหนเป็นอย่างไร ในปัจจุบันเราคงปฏิเสธไม่ได้สินค้าเกี่ยวกับการพิมพ์กล่องสบู่ คือประเภทสุขภาพและความงามนับได้ว่ายอดนิยมในทุกเพศทุกวัย และการพิมพ์กล่องสบู่ที่นับได้
ว่าขาดไม่ได้และทุกคนใช้กันในปัจจุบันนี้นั่นก็คือการดีไซน์กล่องการผลิตการพิมพ์กล่องพิมพ์กล่องสบู่อย่างแน่นอนจึงทำให้มีการพิมพ์กล่องออกมาขันแข่งกันในทางการตลาดมากมาย ทำให้การออกแบบ
การพิมพ์กล่องสบู่ทีได้งานคุณภาพ ระดับ Premium แต่สิ่งหนึ่งที่จะเพิ่มแรงดึงดูดความสนใจให้การบริโภคผลิตภัณฑ์นั้นคือ การดีไซน์กล่องและ การพิมพ์กล่องสบู่ ที่ใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์นั้น
หากพูดถึง "พิมพ์กล่องสบู่" อันดับเริ่มแรกในใจแน่นอนว่าจะเป็นการพิมพ์กล่องมาตรฐาน เป็นบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์นั้น ที่ขายตามร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นการพิมพ์กล่องสบู่
กระดาษมีความหนาประมาณ 300 แกรมขึ้นไป โดยมีทรงเป็น 4 เหลี่ยมหรือสัดส่วนรูปร่างตามลูกค้าหรือผลิตภัณฑ์แต่เนื่องจากสมัยปัจจุบันการออกแบบกล่อง พิมพ์กล่องสบู่มีให้เลือก
ใช้หลากหลายยิ่งขึ้นในตลาด การวิเคราะห์ถึงภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ การดึงดูดสายตา ความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
การออกแบบกล่อง การพิมพ์กล่องสบู่จึงทำให้กล่องมีหลายหลากความจุและรูปทรงขึ้นอยู่กับเทคนิคการออกแบบแต่ละผู้ประกอบการ
แน่นอนว่าจากที่กล่าวไปข้างต้นการดีไซน์กล่อง การพิมพ์กล่องสบู่ไม่จำกัดสัดส่วนและวัสดุที่ใช้จะเป็นพลาสติกก็ได้ รูปทรงจะเป็น สามเหลี่ยม หกเหลี่ยม ได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ
ผู้ประดิษฐ์แต่ในที่นี้จะยกตัวอย่างกระบวนการการทำการดีไซน์กล่อง การพิมพ์กล่องกระดาษที่เป็นแบบที่สุดและประหยัดที่สุด ก่อนอื่นเมื่อท่านได้กำหนดขนาดกล่องแล้วจะทำ
ให้สามารถการดีไซน์กล่องได้แล้วว่าพึงประสงค์ กว้าง ยาว หนา เท่าไหร่ จากนั้นจึงไปออกแบบแพทเทิร์นหรือโครงแบบในการพับกล่องกระดาษ นึกภาพตามง่ายๆคือโครงกระดาษ
เวลาท่านคลี่กล่องออกมาให้เรียบ หลังจากนั้นออกแบบลายที่จะพิมพ์ลงในกระดาษไม่ว่าจะเป็น ตราสินค้า คำชี้แจงวิธีการใช้ คุณภาพคำเตือน วันเดือนปีที่ผลิต หรือแม้กระทั่งรูปภาพ
สุดท้ายเมื่อสั่งพิมพ์กล่องก็ตัดกระดาษตามแม่พิมพ์ที่วางไว้ พิมพ์ ปั้ม พับและประกอบเป็นกล่องโดยใช้กาวก็เป็นอันสมบูรณ์ตามกรรมวิธี
ทั้งนี้ขอแนะนำกรรมวิธีการพิมพ์กล่องในสมัยปัจจุบันที่นิยมใช้กันนั้นมีกระดาษแบบไหนบ้าง


1.การพิมพ์กล่องสบู่แป้งหน้าขาวหลังเทา แบบนี้หลายยี่ห้อในเชิงอุตสาหกรรมใช้กันมากเนื่องจากต้นทุนที่ตำ
2.การพิมพ์กล่องสบู่แป้งหน้าขาวหลังขาว แบบนี้ยังเห็นได้มากอยู่ตามท้องตลาดแม้ราคาแพงกว่าแต่ให้ความรู้สึกสะอาดสะอ้านกว่าเมื่อหลังกล่องเป็นสีขาว
3.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษอาร์ตการ์ด มีราคาอาจจะเหมาะกับกล่องหรูหราที่มีราคาแพงมากหรือเครื่องสำอางที่ราคาขายคุ้มทุน
4.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษคราฟสีน้ำตาล แบบนี้ใช้กันเยอะมากในสินค้าทำเองและมักมีการจัดจำหน่ายแบบกล่องสำเร็จรูป
5.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษฟรอยด์ ซึ่งจะมีสีเงินหรือทองเงาเพิ่มมูลค่างดงามทันสมัยทนของสินค้า
นอกจากนั้นการพิมพ์กล่องสบู่จะมีการเลือกใช้สีตั้งแต่ สีเดียว 4 สี สีพิเศษ เป็นเงินลงทุนราคาก็จะเพิ่มตามจำนวนสีไป และหลังจากพิมพ์เสร็จแล้วสามารถเพิ่มราคาความสวยงามได้โดยการ
เคลือบผิว โดยจะมีการเคลือบ UVเพื่อให้กล่องเงาขึ้นมีมิติ หรือจะเป็นเคลือบแบบลามิเนตด้าน ที่จะทำให้กล่องดูมีระดับและแข็งแรงมากขึ้นเพราะกันน้ำ หรือการทำ
SpotUVเฉพาะจุดซึ่งจะเลือกใช้แบบไหนขึ้นอยู่กับความต้องการเงินลงทุนของทุกท่านนั่นเอง



ขอบคุณบทความจาก : http://www.pim-d.com/category/1/ออกแบบกล่อง-พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์

พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท


ผลิตภัณฑ์กว่านับพันนับหมื่นชิ้นตลาด ผู้ประกอบการกว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้จำหน่ายสินค้าและบริการ
ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเลือกบริโภคสินค้าตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมี
การพิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล
ทั้งนั้นการพิมพ์ป้ายไวนิลเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่โดดเด่นมากในการแนะนำตัวสินค้าในด้านการพิมพ์ป้ายไว
นิลเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงประชาชนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “พิมพ์ป้ายโฆษณา” ซึ่งเดี๋ยวนี้สามารถเห็นสื่อ
ชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีผู้คนคับคั่ง
เป็นจุดที่สังเกตและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามอาคารสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้ง พิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล ป้ายโครงเหล็ก ป้าย
แบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่างพิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีต่างๆ
นาๆขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่พิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทพิมพ์ป้ายไวนิล เป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูดความสนใจ การเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากไม่กำหนด
เป้าหมายและประกอบด้วยค่าถูก ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากพิมพ์ป้ายไวนิลมักมองและสังเกตไปในจุดที่สะดุดตาและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นอาคารสิ่งปลูกสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีการพิมพ์ป้ายไวนิลที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีประสิทธิภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงประชากรจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว
แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนที่กำหนดและการเข้าถึงเจาะจงสังคมที่เป็นเป้าหมาย การใช้พิมพ์ป้าย
โฆษณา พิมพ์ป้ายไวนิล พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดสังคมมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อการพิมพ์ป้ายโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีรายการจ่ายในการผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบการ พิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล ราคาถูกกว่า
การพิมพ์ป้ายโฆษณาจัดประเภทพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล สามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของพิมพ์ป้ายโฆษณาซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทติดบิลบอร์ด คือ พิมพ์ป้ายโฆษณา ที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการเห็นได้สบาย แม้ในขณะ
นั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดสินค้าแต่จะเน้นในด้านทำกระแสความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการเห็นในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูด ชักจูงในสนใจสินค้า เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นบริเวณคนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ล่างอาคาร ห้องอาหาร เป็นต้น
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่สมควรวิเคราะห์ไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การพิมพ์ป้ายโฆษณาออกแบบและรายละเอียดสินค้าที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่สลับซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่ต้องการสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่พอดีกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติดในการพิมพ์ป้ายโฆษณา สมมติถ้าพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาด
เล็กบนทางตึกสูงก็ไม่เหมาะสม
3.พื้นที่ในการพิมพ์ป้ายโฆษณาใช้งาน แม้พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาด
เล็กที่เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ในการพิมพ์ป้ายโฆษณา คุณลักษณะของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติด
ไว้ยาวนานเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่แน่นอนแล้วก็จะทำให้งานพิมพ์ป้ายโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องคงทนกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน
ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารพิมพ์ป้ายโฆษณาเป็นป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ยุคปัจจุบันการพิมพ์ป้ายโฆษณาทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นไม่ได้มีสนนราคาแพง
มากเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ และทั้งนั้นพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ

 



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.pimde.com/

ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น


กำจัดไรฝุ่น จำเป็นต้องใช้สารเคมีหรือไม่
ไรฝุ่น เป็นชื่อของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในระดับที่ตามองดูไม่เห็น มันอนุมาก ประมาณ 1/100 ของหน่วยวัดความยาวเป็นนิ้ว
แต่ถึงตัวมันจะจี๊ดก็ส่งผลต่อคนเราในระดับที่ไม่อาจละเลย เพราะเจ้าสัตว์ขนาดเล็กกระจิดริดชนิดนี้แหละเป็นตัวทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้
ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนได้ โดยไรฝุ่นจะกำเนิดสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นตัวการของโรคทางเดินหายใจอักเสบ เป็นหวัดเรื้อรัง
มีอาการคันแลระคายเคืองในดวงตา ตาแดง มีอาการโรคหอบหืด ไมเกรน และอาการผื่นคันตามผิวหนัง และไรฝุ่นสามารถ
แพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วภายในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะมันชอบอาศัยอยู่ตามผ้า หรือในสิ่งที่มีเส้นใย และที่มันชอบ
มาอยู่ในที่อยู่ที่มีคนอาศัยอยู่มากก็คือ มันกินเศษผิวหนังที่หลุดออกของคนเราเป็นอาหาร ! ฉะนั้นในที่ๆ มีคน มีเส้นใย
จึงเป็นไปได้ที่จะมีไรฝุ่นเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งโทษต่อสุขภาพ ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องหาวิธี กำจัดไรฝุ่น
ให้ออกไปให้พ้นจากอาคารบ้านเรือน และการ กำจัดไรฝุ่น ที่นิยมกันก็คือสารใช้สารเคมี ซึ่งบางคนก็กังวลในเรื่องผลกระทบ
ต่อร่างกายของเราด้วย อย่างไรก็ตามการ กำจัดไรฝุ่น มีอยู่ด้วยกันหลายทาง ไม่ได้มีแค่ วิธี กำจัดไรฝุ่น ที่ต้องใช้สารเคมีเท่านั้น
วิธีการ กำจัดไรฝุ่น แบบไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี ได้แก่...
1.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยแสงแดด ไรฝุ่นมีขนาดที่เล็กไม่ทนทานต่อความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ การนำเอาสิ่งที่เป็นผ้า
หรือเส้นใยไปตากแดด สามารถ กำจัดไรฝุ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยการซักในน้ำร้อน การนำเอาผ้าที่สัมผัสกับร่างกายของเราเป็นประจำพวกผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ผ้าห่ม หรืออื่นๆ ไปซักด้วยน้ำร้อน ทุกๆ 2 อาทิตย์ ช่วยในการ กำจัดไรฝุ่น ได้เช่นเดียวกัน
3.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วย เครื่องดูดไรฝุ่น เป็นเครื่องมือที่ถูกก้าวหน้าขึ้นมาเพื่อจัดการ กำจัดไรฝุ่น โดยเฉพาะ แต่อาจจะ
มีราคาสูงอยู่บ้างในการที่จะซื้อเอามาใช้งาน แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไม้สอยที่คุ้มทีเดียว
4.การใช้ เครื่องฟอกอากาศ ที่มีระบบ กำจัดไรฝุ่น ซึ่งนอกจากสามาร กำจัดไรฝุ่น แล้ว ก็ยังช่วยในเรื่องการดูดกลิ่น
ทำให้อากาศสะอาดสดชื่นได้อีกด้วย แต่ก็แน่นอนว่ามีราคาสูง
5.ใช้ผ้าป้องกันไรฝุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกก้าวหน้าขึ้นมาเพื่อป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ ล่าสุดมีปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน
ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ออกมาจัดจำหน่าย
นี่เป็นวิธีการที่เราสามารถใช้ กำจัดไรฝุ่น หรือดูแลไม่ให้มันกลายมาเป็นปัญหากับพลานามัยของเราโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สเปรย์กําจัดไรฝุ่น

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://praiya.lnwshop.com/product/4/ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น-สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น-mite-klean

พิมพ์นามบัตร

พิมพ์ นามบัตรถูก
การพิมพ์นามบัตรในการแนะนำตัวเป็นมารยาทพื้นฐานสำคัญในการแนะนำตัวหรือการติดต่อสื่อสารงานที่เป็นทางการ
คุณต้องมีการพิมพ์นามบัตรเตรียมพร้อมไว้ทุกเวลาไม่ควรให้ห่างจากตัวแม้ว่าจะเป็นวันส่วนตัวธรรมดาก็ได้ เพราะคุณ
ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าจะต้องใช้มันเมื่อไหร่ คุณอาจจะได้เจอคู่ค้าทางธุรกิจในวันเหล่านี้ก็เป็นได้ ดังนั้นอย่างน้อย
ท่านควรแบ่งพิมพ์นามบัตรไว้ในกระเป๋าเงิน บนรถ หรือสอดไว้ตามที่ต่างๆ เป็นต้น สำหรับจำนวนการพิมพ์นามบัตร
ควรตรวจความเหมาะสมให้ดีและเมื่อนามบัตรใกล้หมดควรจะสั่งพิมพ์ล่วงหน้าโดยพิจารณาระยะเวลาในการจัดทำด้วย
เนื่องมาจากหากพิมพ์นามบัตรไม่เพียงพอต่อการใช้งานอาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อการงานและธุรกิจที่สำคัญได้
การแจกนามบัตรนั้นท่านเชื่อหรือไม่ว่าถูกจัดลงในหลักสูตรการศึกษาด้านธุรกิจเกือบทั่วโลก บางหนท่านอาจจะ
คิดว่าการพิมพ์นามบัตรเป็นการสิ้นเปลืองหรือใช้คุณประโยชน์ไม่ได้ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศเช่นนี้ แต่ทว่าแม้แต่บริษัทผู้นำ
ด้านไอทีระดับโลกยังคงต้องใช้นามบัตรกันอยู่ทั้งนั้น เหตุว่าความหมายโดยนัยในการแจกนามบัตรนั้นเป็นการแสดงให้เห็น
ถึงความประสงค์ที่ให้ความช่วยเหลือ การแจกนามบัตร หรือติดต่อพบปะกันในหนหน้า ทำให้ผู้รับรู้สึกพอใจในครั้งแรกในตัวท่าน
หรือสำหรับบางประเทศที่มีวัฒนธรรมเชิงอนุรักษ์ถือว่าการพิมพ์นามบัตรส่งมอบแก่ผู้อื่นเป็นมารยาทพื้นฐานที่ขาดไม่ได้
ดังนี้มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดลักษณะขั้นต้นของนามบัตร นามบัตรนั้นมักจะนิยมใช้กำหนด
ขนาดตามหลักสากลโดยจะอยู่ที่ 9.4 x5.5เซ็นติเมตร ซึ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการงานออกแบบพิมพ์นามบัตรแทบจะ
มีการกำหนดขนาดโครงหน้าเท่าขนาดนามบัตรจริงเกือบทุกโปรแกรม สำหรับสิ่งที่ต้องอยู่ในนามบัตรนั้นอย่างน้อยที่สุด
ต้องกำหนดชื่อและช่องทางติดต่อกลับ โดยหลายท่านไม่นิยมระบุชื่ออาจจะใส่ชื่อบริษัทหรือร้านค้าก็ได้ สำหรับช่องทางการ
สื่อสารกลับอาจจะให้เป็นเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ หรืออีเมล ก็ได้ตามแต่สะดวก การพิมพ์นามบัตรนั้นท่านสามารถออกแบบได้
ด้วยตนเองและพิมพ์นามบัตรใช้เองก็ได้ แต่คุณค่าอาจจะไม่ดีพอที่จะใช้ในระยะยาวหรือหากพิมพ์ใช้เป็นจำนวนมาก
อาจจะมีค่าใช้จ่ายอาจจะแพงมากกว่าโรงพิมพ์อีกด้วย
สำหรับการพิมพ์นามบัตรโดยโรงพิมพ์นั้นในปัจจุบันนี้มีราคาไม่แพงโดยขึ้นอยู่กับปริมาณที่สั่งพิมพ์ โดยสิ่งที่ต้อง
พิจารณาหลักๆ คือคุณค่าของงานพิมพ์แต่ละใบ อย่างไรก็ตามความคมชัดและรายละเอียดของหมึกจะดีกว่าเครื่องพิมพ์
เอนกประสงค์ตามบ้านโดยทั่วไปแน่นอนและทำเป็นเลือกใช้กระดาษแบบต่างๆ ที่ไม่สามารถใช้เครื่องพิมพ์ที่บ้านได้ ซึ่งที่
นิยมกันหลักแล้วก็จะเป็นกระดาษอาร์ตการ์ดที่มีความหนา 260 แกรมขึ้นไปเพื่อให้มีความแข็งเพียงพอ แต่บางครั้ง
อาจจะเลือกใช้กระดาษแบบอื่นที่บางกว่าแล้วใช้การเคลือบผิวพลาสติกบนบนงานพิมพ์นามบัตรเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและ
ความทนทานซึ่งจะมีทั้งเคลือบแบบเงาและแบบด้านก็ได้ นอกจากเรื่องประกอบการพิมพ์ที่ดีแล้วโรงพิมพ์เหล่านี้จะมี
เทคนิคการแต่งแต้มพิเศษที่การเคลือบ UVหรือ SPOT UVเพื่อให้หมึกเพิ่มความเงาเน้นในจุดที่ต้องประสงค์ เป็นต้น
เทคนิคการพิมพ์นามบัตรแต่ละแห่งจะแตกต่างกันออกไปโดยคุณสามารถเลือกหรือขอดูตัวอย่างงานเหล่านั้น
จากโรงพิมพ์ที่ใช้บริการได้ หรืออาจจะนำเสนอความต้องการของท่านให้กับโรงพิมพ์เพื่อที่จะสามารถช่วยคิดวิธีการที่จะได้
งานพิมพ์นามบัตรที่แม่นยำตามใจของคุณได้



ที่มา : http://www.pimplernprint.com/นามบัตร_Digital_Offset_1/

พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท


สินค้ากว่านับพันนับหมื่นชิ้นตลาด ผู้ประกอบการกว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้ขายสินค้าและบริการ
ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้ซื้อเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมี
การพิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล
ทั้งนั้นการพิมพ์ป้ายไวนิลเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่โดดเด่นมากในการแนะนำผลิตภัณฑ์ในด้านการพิมพ์ป้ายไว
นิลเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “พิมพ์ป้ายโฆษณา” ซึ่งเวลานี้สามารถเห็นสื่อ
ชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีกลุ่มคนคับคั่ง
เป็นจุดที่พิจารณาและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามตึกสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้ง พิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล ป้ายโครงเหล็ก ป้าย
แบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่างพิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีอยู่ต่างๆนาๆขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่พิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทพิมพ์ป้ายไวนิล เป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูดความสนใจ การเข้าถึงผู้ซื้อจำนวนมากไม่กำหนด
เป้าหมายและประกอบด้วยราคาถูก ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดความสนใจหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากพิมพ์ป้ายไวนิลมักมองและสังเกตไปในจุดที่โดดเด่นและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นอาคารสิ่งปลูกสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีการพิมพ์ป้ายไวนิลที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีประสิทธิภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงผู้คนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว
แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนบริเวณเล็กและการเข้าถึงเฉพาะกลุ่มที่เป็นเป้าหมาย การใช้พิมพ์ป้าย
โฆษณา พิมพ์ป้ายไวนิล พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดส่วนมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อการพิมพ์ป้ายโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีค่าใช้จ่ายในการผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบการ พิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล ราคาถูกกว่า
การพิมพ์ป้ายโฆษณาจำแนกประเภทพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล สามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของพิมพ์ป้ายโฆษณาซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทติดบิลบอร์ด คือ พิมพ์ป้ายโฆษณา ที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการสังเกตเห็นได้ง่าย แม้ในขณะ
นั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดปลีกย่อยสินค้าแต่จะเน้นในด้านสร้างความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการดูในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูดความสนใจ ชักจูงในสนใจผลิตภัณฑ์ เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดความสนใจที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นสถานที่คนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ล่างอาคาร ห้องอาหาร เป็นต้น
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่ควรพิจารณาไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การพิมพ์ป้ายโฆษณาออกแบบและรายละเอียดปลีกย่อยสินค้าที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่ซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่ประสงค์สื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่เหมาะสมกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติดในการพิมพ์ป้ายโฆษณา สมมติถ้าพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาด
เล็กบนทางอาคารสูงก็ไม่เหมาะสม
3.พื้นที่ในการพิมพ์ป้ายโฆษณาใช้งาน แม้พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาด
เล็กที่เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ในการพิมพ์ป้ายโฆษณา คุณลักษณะของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติด
ไว้ยาวนานเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่ถูกต้องแล้วก็จะทำให้งานพิมพ์ป้ายโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องทนกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน
ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารพิมพ์ป้ายโฆษณาเป็นป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ปัจจุบันนี้การพิมพ์ป้ายโฆษณาทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นไม่ได้มีราคาแพงเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้มาก และทั้งนั้นพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ

 



ที่มา : http://www.pimde.com/

พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท


ผลิตภัณฑ์กว่านับพันนับหมื่นชิ้นท้องตลาด ผู้ประกอบการค้ากว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้ขายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา
ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่เด่นมากในการชักจูงผลิตภัณฑ์ในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงประชาชนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท” ซึ่งขณะนี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีกลุ่มคนล้มหลาม
เป็นจุดที่พิจารณาและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามอาคารสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้ง พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่าง ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทเป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูด การเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากไม่กำหนด
เป้าหมายและประกอบด้วยมูลค่าย่อมเยา ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดความสนใจหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปในจุดที่โดดเด่นและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นตึกสิ่งก่อสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีป้ายที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีประสิทธิภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงประชากรจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนพื้นที่จำกัดและการเข้าถึงเฉพาะวงการที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายไวนิลจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดกลุ่มมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีรายจ่ายในการผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกกว่า
การแบ่งชนิดพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทสามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของป้ายซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทติดบิลบอร์ด คือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการมองเห็นได้ง่าย แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดปลีกย่อยสินค้าแต่จะเน้นในด้านทำความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการพิจารณาในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูดความสนใจ ชักจูงในสนใจผลิตภัณฑ์ เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดความสนใจที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นบริเวณคนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ล่างอาคาร ห้องอาหาร เป็นต้น
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่ควรคำนึงไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การออกแบบและรายละเอียดปลีกย่อยสินค้าที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่ลึกลับซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่ต้องการสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่ควรกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาดเล็กบนทางตึกสูงก็ไม่เหมาะสม
3.ทำเลในการใช้งาน แม้ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีประสิทธิภาพไม่เท่าป้ายขนาดเล็กที่เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณลักษณะของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้เป็นเวลายาวนานเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่ชำนาญแล้วก็จะทำให้งานโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องทนทานกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องทนทานเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ปัจจุบันการทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นไม่ได้มีสนนราคาแพงเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้มาก และทั้งนั้นพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์ป้ายไวนิล

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.pimde.com/

รับทำเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์
การจะติดต่อผู้รับทำเว็บไซต์ ต้องให้เขาเข้าใจวัตถุประสงค์หลัก
สมัยปัจจุบันการติดต่อผ่าน internet หรือโลกออนไลน์ เป็นเรื่องที่การตั้งกฎเกณฑ์กันอย่างกว้างขวางและกลายเป็นเรื่องที่มีความ
จำเป็น กิจการค้าใดๆ ไม่ว่าจะทำการค้าผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างพยายามใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารเพื่อหาลูกค้าเพิ่ม ซึ่งก็มีอยู่มากมาย
หลายวิธี แต่ที่ได้รับการไว้ใจว่ามีกฏเกณฑ์มากที่สุดก็คือการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเป็น
โปรแกรมเมอร์เก่งๆ ที่เขียนโค้ดได้อย่างเชี่ยวชาญ หรือเป็นนักพัฒนาระบบที่มีความเชี่ยวชาญ เราก็สามารถมีเว็บไซต์เอาไว้ใช้
งานได้ ด้วยการหาผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ ที่มีความสามารถมาทำเว็บไซต์ให้เราเอาไปใช้งาน... แต่ ก่อนที่เราจะตกลง
จ้างหรือเลือกคนที่จะมา รับทำเว็บไซต์ ให้เรานั้น จะต้องมีการทำสัญญาและทำความเข้าใจกันให้ดีก่อน เพราะ คนที่เขา
รับทำเว็บไซต์ หากไม่เข้าใจถึงข้อความตั้งใจที่แท้จริงของเรา เขาก็ไม่สามารถที่จะดีไซน์ระบบมารองรับข้อความประสงค์
ของเราได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นทำให้ความสามารถของเว็บไซต์ของเราลดลง...
จุดมุ่งหมายในการใช้งาน เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจกันก่อนเป็นอันดับแรกเริ่มเมื่อต้องการหาคน รับทำเว็บไซต์ !
เรื่องนี้อาจจะดูว่ายากและไม่สบายใจกับคนหลายๆ คน เพราะเวลาพูดกับคนที่เขา รับทำเว็บไซต์ หรือโปรแกรมเมอร์ที่
เป็นผู้พัฒนาระบบ ส่วนมากสิ่งที่ออกมาจากปากของเขา จะเป็นคำยากโดยเจาะจงที่คนนอกแวดวงรู้สึกเหมือนมันเป็นภาษาต่าง
ดาว ! ระบบโปรแกรมแบบนั้น ระบบดาต้าเบสแบบนี้ Frontend ใช้แบบนั้น Backend แบบนี้ เขาจะบอกเราในหัวข้องาน
ที่เขาจะบริหารเมื่อ รับทำเว็บไซต์ ให้กับเรา.... แต่ทุกอย่างดูเหมือนเป็นภาษาที่มาจากต่างโลก ! ซึ่งนี่ดูเป็นอุปสรรค์ ในการ
สื่อสารว่าจ้างผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ เป็นอย่างยิ่ง !
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลุ้มใจไป เพราะสิ่งที่เราจำเป็นจริงๆ ที่ต้องแจ้งให้ทราบให้คนที่ รับทำเว็บไซต์ ได้ทราบก็คือ
เป้าหมายหลัก ! ในการทำเว็บไซต์ของเรา สิ่งที่เราต้องเสนอกับผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ ก็คือ เราต้องการใช้เว็บไซต์เพื่อใช้งาน
อะไร ต้องการให้ผู้ซื้อเข้ามาแล้วเห็นอะไร สามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น เราต้องการให้เขาทำงาน รับทำเว็บไซต์ ให้กับ
ร้านขายผลิตภัณฑ์ออนไลน์ของเรา จะต้องมีอะไรบ้างที่ลูกค้าของเราเห็นแล้วจะเกิดความชอบใจ มีรายการผลิตภัณฑ์ที่
สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ได้ง่าย มีภาพแสดงให้เห็นสินค้า มีเนื้อหาย่อ มีราคา และมีระบบตะกร้าสินค้าและระบบการชำระเงิน
ออนไลน์หรือช่องทางโอนเงินและทางติดต่อเราได้ง่ายๆ โปรแกมพวกนี้ที่เราต้องบอกให้ทราบกับโปรแกรมเมอร์ที่ รับทำเว็บไซต์ ให้กับเรา
และทั้งหมดนั่นเป็นสิ่งที่คน รับทำเว็บไซต์ ต้องการรู้ในเนื้องาน รับทำเว็บไซต์ ของเขา เพื่อที่เขาจะได้สามารถจัดวาง
ระบบ และดีไซน์หน้าตาเว็บไซต์ให้ลงตัว และใช้งานได้ เตรียมเรื่องเหล่านี้ไว้ แจกแจงให้ชัดเจนต่อผู้ รับทำเว็บไซต์
ให้กับผู้บริโภคแล้วจะได้เว็บไซต์ที่ต้องการ



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.makewebzone.com/

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)ราคาถูก
งานขายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำกิจธุระเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการเสนอให้ลูกค้าทราบได้ว่าองค์กรของเรานั้นขายอะไร มีจุดดีอย่างไร แต่การ
อธิบายผู้บริโภคด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่อธิบายได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำสินค้าและการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมเรื่องประกอบ เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการอธิบายมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความสะดวกโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาสบาย ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ใหม่ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังทำเป็นจดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นสิ่งพิมพ์ที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาเรื่องประกอบเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มพันธุ์อื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
วัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นเนื้อความในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละชนิดขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มอย่างแน่ชัดเพื่อให้ง่ายต่อการสืบแสวงหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานชี้แจงผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและสร้างจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความพิถีพิถันเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งส่วนประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นกลุ่มที่โชว์และสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การคัดเลือกใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเนื้อหา โดยอาจจะ
ใช้กระดาษแบบอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการตกแต่งใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องเน้นหนักเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อรักษาความยับเยินจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะตรงนี้เป็นจำพวกนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเปรอะเปื้อนเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปรูปประกอบจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถมองทะลุเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนสินค้าจริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดข้อสงสัยกับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความช่ำชองพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดขนาดเล่มให้มีขนาดเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องชี้แจงมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้สึกเอียนและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง
ขนาดเล่มกับขนาดภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีสัดส่วนที่ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้เด่นโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการทีหลังคือความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับขนาดตัวหนังสือ ส่วนใหญ่การจัดแจงทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีคำถาม แต่สำหรับสินค้าบางพวกหรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการรายงานเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถสังเกตเห็นและอ่านได้ไม่ยาก อาจจะต้องมีเคล็ดลับการเตรียมรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องคิดร่วมในการออกแบบและกำหนดสัดส่วน
ซึ่งสัดส่วนของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดคร่าวๆกระดาษ A6 โดยขนาดที่ใช้
ประจำที่สุดคือ A4 เพราะมีขนาดที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงง่ายในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อเกิดคุณประโยชน์สูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนมักสูง ซึ่งหากให้จัดแจงพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มค่าที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะจำเพาะเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นเจ้าประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างต่อเนื่อง หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงบัญชีมีความต้องการข่าวคราว เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการนำไปให้กับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการขานรับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางแบบอาจจะใช้การเตรียมพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยจัดแจงแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านขายของเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาติดต่อสอบถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนจัดจำหน่าย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์แคตตาล็อก วารสาร

ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)เพิ่มยอดขายโปรโมชั่น
งานขายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการเสนอให้ลูกค้าทราบได้ว่าองค์กรของเรานั้นขายอะไร มีข้อเด่นอย่างไร แต่การ
อธิบายลูกค้าด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่อธิบายได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำสินค้าและการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมเรื่องประกอบ เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการอธิบายมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความสบายโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาราบรื่น ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ซ้ำ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังอาจจะจดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีรูปร่างเป็นงานพิมพ์ที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาเรื่องเบ็ดเตล็ดเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มลักษณะอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
จุดประสงค์การใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นเค้าความในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละประเภทขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มอย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานนำเสนอสินค้าเป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและสร้างสรรค์จะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความละเอียดลออเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งส่วนเพิ่มเติมส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนตรงนี้เป็นจำพวกที่แสดงและสร้างแรงชักชวนใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การเลือกใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเนื้อหาสาระ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษลักษณะอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการเติมแต่งใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อรักษาความพังจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะตรงนี้เป็นด้านนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเปรอะเปื้อนเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปรูปประกอบจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถมองทะลุเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนสินค้าจริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดอุปสรรคกับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความฝีมือดีพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้สัดส่วนของการพิมพ์แคตตาล็อกตรงนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดสัดส่วนเล่มให้มีสัดส่วนเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องบรรยายมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้เบื่อและไม่อยากอ่าน เป็นต้น ประการที่สองความสมดุลระหว่าง
ขนาดเล่มกับขนาดภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีสัดส่วนที่ทำให้ลูกค้าสามารถสังเกตเห็นได้ถนัดตาโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการลงท้ายคือความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับขนาดตัวหนังสือ ส่วนมากการจัดทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีปัญหา แต่สำหรับสินค้าบางจำพวกหรือสินค้าที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการยกตัวอย่างเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถเห็นและอ่านได้สบาย อาจจะต้องมีเคล็ดการเตรียมรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องนึกคิดร่วมในการออกแบบและกำหนดขนาด
ซึ่งสัดส่วนของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดประมาณกระดาษ A6 โดยขนาดที่ใช้
เสมอที่สุดคือ A4 เพราะมีขนาดที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงสบายในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงช่องทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อให้เกิดผลสูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีต้นทุนออกจะสูง ซึ่งหากให้จัดเตรียมพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มค่าที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะจำเพาะเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นเจ้าประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างต่อเนื่อง หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงบัญชีมีความต้องการข่าว เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการมอบให้กับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดแจงทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการตอบกลับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางประเภทอาจจะใช้การเตรียมพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยตระเตรียมแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาสอบถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนขาย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์แคตตาล็อก วารสาร

ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)ราคาถูก
งานทำการค้าเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำกิจการค้าเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการอธิบายให้ลูกค้าทราบได้ว่าหน่วยงานของเรานั้นขายอะไร มีข้อดีอย่างไร แต่การ
อธิบายผู้บริโภคด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่อธิบายได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำสินค้าและการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมรายละเอียดปลีกย่อย เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ช่วงปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการบรรยายมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความง่ายโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาง่าย ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ซ้ำ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังสามารถจดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นเอกสารที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาเรื่องประกอบเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มประเภทอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
วัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นเนื้อหาในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการแต่ละพันธุ์ขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่สินค้าเป็นกลุ่มอย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานเสนอผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและจัดทำจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความพิถีพิถันเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งส่วนประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นประเด็นที่แสดงและสร้างแรงชักชวนใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การคัดเลือกใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเนื้อหา โดยอาจจะ
ใช้กระดาษชนิดอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการแต่งเติมใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อปกป้องรักษาความเสียหายจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะตรงนี้เป็นส่วนนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเลอะเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปรูปประกอบจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถเห็นลอดเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนผลิตภัณฑ์จริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดคำถามกับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความฝีมือดีพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดสัดส่วนเล่มให้มีขนาดเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องนำเสนอมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้สึกเอียนและไม่อยากอ่าน เป็นต้น ประการที่สองความสมดุลระหว่าง
ขนาดเล่มกับสัดส่วนภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีสัดส่วนที่ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ชัดเจนโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการลงท้ายคือความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับขนาดตัวหนังสือ เป็นส่วนใหญ่การจัดทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีปัญหา แต่สำหรับสินค้าบางประเภทหรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการเสนอเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถมองเห็นและอ่านได้สะดวก อาจจะต้องมีเทคนิคการจัดรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องคำนึงร่วมในการออกแบบและกำหนดสัดส่วน
ซึ่งขนาดของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดโดยประมาณกระดาษ A6 โดยสัดส่วนที่ใช้
บ่อยที่สุดคือ A4 เพราะมีสัดส่วนที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงไม่ยากในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงลู่ทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อให้เกิดผลดีสูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนค่อนข้างโด่ง ซึ่งหากให้จัดแจงพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มค่าที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะเจาะจงเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นเจ้าประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างติดต่อกัน หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงชื่อมีความต้องการข่าวสาร เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการแจกกับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดเตรียมทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการตอบรับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางจำพวกอาจจะใช้การเตรียมพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยเตรียมแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านค้าเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาซักถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนจำหน่าย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์แคตตาล็อก วารสาร

เครดิต : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)เพิ่มยอดขายโปรโมชั่น
งานขายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำกิจการเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการชี้แจงให้ลูกค้าทราบได้ว่าหน่วยงานของเรานั้นขายอะไร มีสาระสำคัญอย่างไร แต่การ
อธิบายลูกค้าด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่อธิบายได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมรายละเอียดปลีกย่อย เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ช่วงปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการเสนอมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความสบายโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาราบรื่น ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ซ้ำ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังทำได้จดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีรูปพรรณเป็นเอกสารที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหารายละเอียดเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มพันธุ์อื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
จุดหมายการใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นสาระในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละประเภทขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่สินค้าเป็นกลุ่มอย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการแสวงหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานอธิบายผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและจัดทำจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความประณีตบรรจงเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งองค์ประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นประเด็นที่แสดงความสามารถและสร้างแรงชักชวนใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การเลือกใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเค้าความ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษแบบอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการเสริมแต่งใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อรักษาความเสียหายจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะนี้เป็นจำพวกนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเปื้อนเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปภาพอธิบายจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถมองดูผ่านเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนสินค้าจริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดตัวปัญหากับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความถูกต้องพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดสัดส่วนเล่มให้มีขนาดเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องชี้แจงมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง
ขนาดเล่มกับสัดส่วนภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีสัดส่วนที่ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ชัดเจนโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการสุดท้ายคือความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับสัดส่วนตัวหนังสือ เป็นส่วนใหญ่การเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีข้อสงสัย แต่สำหรับสินค้าบางพวกหรือสินค้าที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการขยายความในเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดสัดส่วนตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถเห็นและอ่านได้ไม่ยาก อาจจะต้องมีเคล็ดการจัดแจงรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องไตร่ตรองร่วมในการออกแบบและกำหนดสัดส่วน
ซึ่งขนาดของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดคร่าวๆกระดาษ A6 โดยขนาดที่ใช้
เสมอที่สุดคือ A4 เพราะมีขนาดที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงสะดวกในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงโอกาสการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อให้เกิดผลสูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนค่อนข้างจะสูง ซึ่งหากให้จัดพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มค่าที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะเฉพาะเจาะจงเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นเจ้าประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างสม่ำเสมอ หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงทะเบียนมีความต้องการข่าวคราว เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการส่งให้กับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดเตรียมทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการตอบรับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางลักษณะอาจจะใช้การจัดพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยจัดแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาติดต่อสอบถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนจำหน่าย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้



ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)เพิ่มยอดขายโปรโมชั่น
งานขายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำการทำงานเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการนำเสนอให้ลูกค้าทราบได้ว่าองค์กรของเรานั้นขายอะไร มีข้อดีอย่างไร แต่การ
อธิบายผู้บริโภคด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เสนอได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมรายละเอียดปลีกย่อย เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้สมัยปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการชี้แจงมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความง่ายโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาสะดวก ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ใหม่ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังทำได้จดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีรูปพรรณเป็นงานพิมพ์ที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาเรื่องเบ็ดเตล็ดเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มพวกอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
จุดประสงค์การใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นเนื้อหาในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการแต่ละจำพวกขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่สินค้าเป็นกลุ่มอย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการสืบเสาะและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานอธิบายผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและจัดทำจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความพิถีพิถันเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งส่วนประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนตรงนี้เป็นจำพวกที่แสดงและสร้างแรงชักชวนใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การคัดเลือกใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเนื้อหา โดยอาจจะ
ใช้กระดาษชนิดอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการแต่งแต้มใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องมุ่งเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อรักษาความเสียหายจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะนี้เป็นประเด็นนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเปรอะเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปภาพอธิบายจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถเห็นลอดเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนสินค้าจริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดตัวปัญหากับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความแม่นยำพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดสัดส่วนเล่มให้มีขนาดเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องชี้แจงมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง
สัดส่วนเล่มกับขนาดภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีสัดส่วนที่ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นได้เด่นโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการสุดท้ายนี้คือความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับขนาดตัวหนังสือ เป็นส่วนใหญ่การเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีคำถาม แต่สำหรับสินค้าบางลักษณะหรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการเสนอเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถเห็นและอ่านได้ง่าย อาจจะต้องมีเทคนิคการตระเตรียมรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องคิดร่วมในการออกแบบและกำหนดขนาด
ซึ่งขนาดของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดคร่าวๆกระดาษ A6 โดยขนาดที่ใช้
บ่อยที่สุดคือ A4 เพราะมีสัดส่วนที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงง่ายๆในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อเกิดผลดีสูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนค่อนข้างสูง ซึ่งหากให้ตระเตรียมพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มค่าที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะเจาะจงเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นเจ้าประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างติดต่อ หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงบัญชีมีความต้องการข้อมูล เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการส่งให้กับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการสนองตอบมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางจำพวกอาจจะใช้การจัดพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยจัดแจงแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาซักถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนจัดจำหน่าย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้



ที่มา : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

พิมพ์กล่องสบู่

พิมพ์กล่องกล่องสบู่ | พิมพ์กล่องเครื่องสำอางค์
สมัยนี้ทุกท่านคงได้พบเห็น การออกแบบกล่อง พิมพ์กล่องสบู่ หลากหลายรูปแบบตามท้องตลาด ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาการผลิตการพิมพ์กล่องสบู่หลายท่านคงนึกตามในใจเลยว่า
มีแบบอย่างไหนบ้างผลิตที่ไหนเป็นอย่างไร ในปัจจุบันเราคงปฏิเสธไม่ได้สินค้าเกี่ยวกับการพิมพ์กล่องสบู่ คือกลุ่มสุขภาพและความงามนับได้ว่ายอดนิยมในทุกเพศทุกวัย และการพิมพ์กล่องสบู่ที่นับได้
ว่าจำเป็นและใครๆใช้กันในสมัยนี้นั่นก็คือการดีไซน์กล่องการผลิตการพิมพ์กล่องพิมพ์กล่องสบู่อย่างแน่นอนจึงทำให้มีการพิมพ์กล่องออกมาแข่งขันกันในทางการตลาดมากมาย ทำให้การออกแบบ
การพิมพ์กล่องสบู่ทีได้งานคุณภาพ ระดับ Premium แต่สิ่งหนึ่งที่จะเพิ่มแรงลุ่มหลงให้การบริโภคสินค้านั้นคือ การดีไซน์กล่องและ การพิมพ์กล่องสบู่ ที่ใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์นั้น
หากพูดถึง "พิมพ์กล่องสบู่" อันดับเบื้องต้นในใจแน่นอนว่าจะเป็นการพิมพ์กล่องมาตรฐาน เป็นบรรจุภัณฑ์ของสินค้านั้น ที่ขายตามร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นการพิมพ์กล่องสบู่
กระดาษมีความหนาประมาณ 300 แกรมขึ้นไป โดยมีทรงเป็น 4 เหลี่ยมหรือความจุรูปร่างตามผู้ซื้อหรือสินค้าแต่เนื่องจากสมัยนี้การออกแบบกล่อง พิมพ์กล่องสบู่มีให้เลือก
ใช้หลายหลากยิ่งขึ้นในตลาด การพิเคราะห์ถึงภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ การดึงดูดสายตา ความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
การดีไซน์กล่อง การพิมพ์กล่องสบู่จึงทำให้กล่องมีหลากหลายสัดส่วนและรูปทรงขึ้นอยู่กับเทคนิคการออกแบบแต่ละผู้ประดิษฐ์
แน่นอนว่าจากที่กล่าวไปข้างต้นการออกแบบกล่อง การพิมพ์กล่องสบู่ไม่จำกัดขนาดและวัสดุที่ใช้จะเป็นพลาสติกก็ได้ รูปทรงจะเป็น สามเหลี่ยม หกเหลี่ยม ได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ
ผู้ประดิษฐ์แต่ในที่นี้จะยกตัวอย่างขั้นตอนการทำการดีไซน์กล่อง การพิมพ์กล่องกระดาษที่เป็นแบบที่สุดและประหยัดที่สุด ก่อนอื่นเมื่อท่านได้กำหนดขนาดกล่องแล้วจะทำ
ให้สามารถการออกแบบกล่องได้แล้วว่าต้องการ กว้าง ยาว หนา เท่าไหร่ จากนั้นจึงไปออกแบบแพทเทิร์นหรือโครงแบบในการพับกล่องกระดาษ นึกภาพตามง่ายๆคือโครงกระดาษ
เวลาท่านคลี่กล่องออกมาให้เรียบ หลังจากนั้นออกแบบลายที่จะพิมพ์ลงในกระดาษไม่ว่าจะเป็น ตราสินค้า อรรถาธิบายวิธีการใช้ คุณภาพคำเตือน วันเดือนปีที่ผลิต หรือแม้กระทั่งรูปภาพ
สุดท้ายเมื่อสั่งพิมพ์กล่องก็ตัดกระดาษตามแบบที่วางไว้ พิมพ์ ปั้ม พับและประกอบเป็นกล่องโดยใช้กาวก็เป็นอันสมบูรณ์ตามวิธีการ
ทั้งนี้ขอแนะนำขบวนการการพิมพ์กล่องในยุคปัจจุบันที่นิยมใช้กันนั้นมีกระดาษแบบไหนบ้าง


1.การพิมพ์กล่องสบู่แป้งหน้าขาวหลังเทา แบบนี้หลายยี่ห้อในเชิงอุตสาหกรรมใช้กันเกร่อเนื่องจากต้นทุนที่ประหยัด
2.การพิมพ์กล่องสบู่แป้งหน้าขาวหลังขาว แบบนี้ยังเห็นได้มากอยู่ตามท้องตลาดแม้ราคาแพงกว่าแต่ให้ความรู้สึกสะอาดสะอ้านกว่าเมื่อหลังกล่องเป็นสีขาว
3.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษอาร์ตการ์ด มีราคาอาจจะเหมาะกับกล่องงดงามที่มีราคาแพงมากหรือเครื่องสำอางที่ราคาขายคุ้มทุน
4.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษคราฟสีน้ำตาล แบบนี้ใช้กันเยอะมากมายในสินค้าทำเองและมักมีการจัดจำหน่ายแบบกล่องสำเร็จรูป
5.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษฟรอยด์ ซึ่งจะมีสีเงินหรือทองเงาเพิ่มมูลค่ามีระดับทันสมัยทนของสินค้า
นอกจากนั้นการพิมพ์กล่องสบู่จะมีการเลือกใช้สีตั้งแต่ สีเดียว 4 สี สีพิเศษ เป็นเงินลงทุนราคาก็จะเพิ่มตามจำนวนสีไป และหลังจากพิมพ์เสร็จแล้วสามารถเพิ่มค่าความสวยงามได้โดยการ
เคลือบผิว โดยจะมีการเคลือบ UVเพื่อให้กล่องเงาขึ้นมีมิติ หรือจะเป็นเคลือบแบบลามิเนตด้าน ที่จะทำให้กล่องดูงดงามและทนมากขึ้นเพราะกันน้ำ หรือการทำ
SpotUVเฉพาะจุดซึ่งจะเลือกใช้แบบไหนขึ้นอยู่กับความต้องการทุนของทุกท่านนั่นเอง



ขอบคุณบทความจาก : http://www.pim-d.com/product/1/พิมพ์กล่องสบู่-กล่องเครื่องสำอางค์

พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท


ผลิตภัณฑ์กว่านับพันนับหมื่นชิ้นท้องตลาด ผู้ผลิตกว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าและบริการ
ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้ซื้อเลือกบริโภคสินค้าตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมี
การพิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล
ทั้งนั้นการพิมพ์ป้ายไวนิลเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่โดดเด่นมากในการชักจูงสินค้าในด้านการพิมพ์ป้ายไว
นิลเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “พิมพ์ป้ายโฆษณา” ซึ่งเดี๋ยวนี้สามารถเห็นสื่อ
ชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน
เป็นจุดที่พิจารณาและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามตึกสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้ง พิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล ป้ายโครงเหล็ก ป้าย
แบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่างพิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีต่างๆ
นาๆขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่พิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทพิมพ์ป้ายไวนิล เป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูด การเข้าถึงผู้ซื้อจำนวนมากไม่จำกัด
เป้าหมายและประกอบด้วยมูลค่าย่อมเยา ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากพิมพ์ป้ายไวนิลมักมองและสังเกตไปในจุดที่เด่นและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นตึกสิ่งก่อสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีการพิมพ์ป้ายไวนิลที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีประสิทธิภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงกลุ่มคนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว
แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนในที่กำหนดและการเข้าถึงเจาะจงวงการที่เป็นเป้าหมาย การใช้พิมพ์ป้าย
โฆษณา พิมพ์ป้ายไวนิล พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดกลุ่มมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อการพิมพ์ป้ายโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีค่าใช้จ่ายในงานผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบการ พิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล ราคาถูกกว่า
การพิมพ์ป้ายโฆษณาจัดประเภทพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท พิมพ์ป้ายไวนิล สามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของพิมพ์ป้ายโฆษณาซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทติดบิลบอร์ด คือ พิมพ์ป้ายโฆษณา ที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการสังเกตเห็นได้สบาย แม้ในขณะ
นั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดปลีกย่อยผลิตภัณฑ์แต่จะเน้นในด้านทำความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการพิจารณาในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูด ชักจูงในสนใจผลิตภัณฑ์ เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดความสนใจที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นบริเวณคนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ล่างตึก ห้องอาหาร เป็นต้น
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่ควรตรวจสอบไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การพิมพ์ป้ายโฆษณาออกแบบและรายละเอียดปลีกย่อยสินค้าที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่ยุ่งยาก คนดูเข้าใจในสิ่งที่ประสงค์สื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่ลงตัวกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติดในการพิมพ์ป้ายโฆษณา สมมติถ้าพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาด
เล็กบนทางตึกสูงก็ไม่เหมาะสม
3.สถานที่ในการพิมพ์ป้ายโฆษณาใช้งาน แม้พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาด
เล็กที่เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ในการพิมพ์ป้ายโฆษณา คุณภาพของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติด
ไว้นานเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่แน่นอนแล้วก็จะทำให้งานพิมพ์ป้ายโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องทนทานกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน
ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารพิมพ์ป้ายโฆษณาเป็นป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
สมัยปัจจุบันการพิมพ์ป้ายโฆษณาทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นไม่ได้มีราคาแพง
มากเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ และทั้งนั้นพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ

 



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.pimde.com/category/2/ป้ายไวนิล-ป้ายอิงค์เจ็ท-inkjet

ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น


กำจัดไรฝุ่น จำเป็นต้องต้องใช้สารเคมีหรือไม่
ไรฝุ่น คือชื่อของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในระดับที่ตามองดูไม่เห็น มันอนุมาก ประมาณ 1/100 ของหน่วยวัดความยาวเป็นนิ้ว
แต่ถึงตัวมันจะจี๊ดก็ส่งผลต่อคนเราในระดับที่ไม่อาจละเลย เพราะเจ้าสัตว์ขนาดเล็กกระจิดริดชนิดนี้แหละเป็นตัวทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้
ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ได้ เพราะไรฝุ่นจะผลิตสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นเหตุของโรคทางเดินหายใจอักเสบ เป็นหวัดเรื้อรัง
มีอาการคันแลเคืองในดวงตา ตาแดง มีอาการโรคหอบหืด ไมเกรน และอาการผื่นคันตามผิวหนัง และไรฝุ่นสามารถ
แพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างว่องไวภายในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะมันชอบอาศัยอยู่ตามผ้า หรือในสิ่งที่มีเส้นใย และที่มันชอบ
มาอยู่ในที่ที่มีคนอาศัยอยู่มากก็คือ มันกินเศษผิวหนังที่หลุดออกของคนเราเป็นอาหาร ! เพราะเช่นนั้นในที่ๆ มีคน มีเส้นใย
จึงเป็นไปได้ที่จะมีไรฝุ่นเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งโทษต่อสุขภาพ ดังนั้นคนจำเป็นที่จะต้องหาวิธี กำจัดไรฝุ่น
ให้ออกไปให้พ้นจากอาคารบ้านเรือน และการ กำจัดไรฝุ่น ที่นิยมกันก็คือสารใช้สารเคมี ซึ่งบางคนก็กังวลใจในเรื่องผลกระทบ
ต่อร่างกายของมนุษย์ด้วย อย่างไรก็ตามการ กำจัดไรฝุ่น มีอยู่ด้วยกันหลายแนวทาง ไม่ได้มีแค่ วิธี กำจัดไรฝุ่น ที่ต้องใช้สารเคมีเพียงนั้น
วิธีการ กำจัดไรฝุ่น แบบไม่จำต้องใช้สารเคมี ได้แก่...
1.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยแสงแดด ไรฝุ่นมีขนาดที่เล็กไม่ทนต่อความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ การนำเอาสิ่งที่เป็นผ้า
หรือเส้นใยไปตากแดด สามารถ กำจัดไรฝุ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยการซักในน้ำร้อน การนำเอาผ้าที่สัมผัสกับร่างกายของเราเป็นประจำจำพวกผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ผ้าห่ม หรืออื่นๆ ไปซักด้วยน้ำร้อน ทุกๆ 2 อาทิตย์ ช่วยในการ กำจัดไรฝุ่น ได้ด้วย
3.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วย เครื่องดูดไรฝุ่น เป็นเครื่องมือที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อจัดการ กำจัดไรฝุ่น โดยเฉพาะ แต่อาจจะ
มีราคาสูงอยู่บ้างในการที่จะซื้อเอามาใช้งาน แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือที่คุ้มค่าทีเดียว
4.การใช้ เครื่องฟอกอากาศ ที่มีระบบ กำจัดไรฝุ่น ซึ่งนอกจากสามาร กำจัดไรฝุ่น แล้ว ก็ยังสนับสนุนในเรื่องการดูดกลิ่น
ทำให้อากาศใสสะอาดสดชื่นได้อีกด้วย แต่ก็แน่นอนว่ามีราคาสูง
5.ใช้ผ้าป้องกันไรฝุ่น เป็นสินค้าที่ถูกวิวัฒน์ขึ้นมาเพื่อป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ สมัยปัจจุบันมีปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน
ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ออกมาจัดจำหน่าย
นี่เป็นวิธีการที่คนสามารถใช้ กำจัดไรฝุ่น หรือคุ้มกันไม่ให้มันกลายมาเป็นปัญหากับพลานามัยของเราโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สเปรย์กําจัดไรฝุ่น

เครดิต : http://praiya.lnwshop.com/

พิมพ์นามบัตร

พิมพ์ นามบัตรDigital_Offset
การพิมพ์นามบัตรในการแนะนำตัวเป็นมารยาทพื้นฐานสำคัญในการแนะนำตัวหรือการสื่อสารงานที่เป็นทางการ
คุณต้องมีการพิมพ์นามบัตรเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลาไม่ควรให้ห่างจากตัวแม้ว่าจะเป็นวันส่วนตัวธรรมดาก็ได้ เพราะท่าน
ไม่สามารถทำนายได้ว่าจะต้องใช้มันเมื่อไหร่ ท่านอาจจะได้เจอคู่ค้าทางธุรกิจในวันเหล่านี้ก็เป็นได้ ดังนั้นอย่างน้อย
ท่านควรแบ่งพิมพ์นามบัตรไว้ในกระเป๋าสตางค์ บนรถ หรือสอดไว้ตามที่ต่างๆ เป็นต้น เนื่องด้วยจำนวนการพิมพ์นามบัตร
ควรพินิจพิเคราะห์ความเหมาะสมให้ดีและเมื่อนามบัตรใกล้หมดควรจะสั่งพิมพ์ล่วงหน้าโดยพิจารณาระยะเวลาในการจัดทำด้วย
เนื่องมาจากหากพิมพ์นามบัตรไม่เพียงพอต่อการใช้งานอาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อการงานและธุรกิจที่สำคัญได้
การจ่ายแจกนามบัตรนั้นคุณเชื่อหรือไม่ว่าถูกจัดลงในหลักสูตรการศึกษาด้านธุรกิจเกือบทั่วโลก บางคราวท่านอาจจะ
คิดว่าการพิมพ์นามบัตรเป็นการสิ้นเปลืองหรือใช้คุณประโยชน์ไม่ได้ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศเช่นนี้ แต่ทว่าแม้แต่บริษัทผู้นำ
พวกไอทีระดับโลกยังคงต้องใช้นามบัตรกันอยู่ทั้งนั้น เนื่องจากความหมายโดยนัยในการแจกนามบัตรนั้นเป็นการแสดงให้เห็น
ถึงความต้องการที่ให้ความช่วยเหลือ การแจกนามบัตร หรือติดต่อพบปะกันในอนาคต ทำให้ผู้รับรู้สึกชื่นชอบในครั้งแรกในตัวคุณ
หรือสำหรับบางประเทศที่มีวัฒนธรรมเชิงอนุรักษ์ถือว่าการพิมพ์นามบัตรส่งให้แก่ผู้อื่นเป็นมารยาทพื้นฐานที่ขาดไม่ได้
ดังนี้มาสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดลักษณะขั้นต้นของนามบัตร นามบัตรนั้นมักจะนิยมใช้กำหนด
ขนาดตามหลักสากลโดยจะอยู่ที่ 9.4 x5.5เซ็นต์ ซึ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการการออกแบบพิมพ์นามบัตรแทบจะ
มีการกำหนดขนาดโครงหน้าเท่าขนาดนามบัตรจริงเกือบทุกโปรแกรม เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องอยู่ในนามบัตรนั้นอย่างน้อยที่สุด
ต้องกำหนดชื่อและทางติดต่อกลับ โดยหลายท่านไม่นิยมระบุชื่ออาจจะใส่ชื่อบริษัทหรือร้านรวงก็ได้ สำหรับช่องทางการ
ติดต่อสื่อสารกลับอาจจะให้เป็นเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ หรืออีเมล ตกลงตามแต่สะดวก การพิมพ์นามบัตรนั้นท่านสามารถออกแบบได้
ด้วยตนเองและพิมพ์นามบัตรใช้เองก็ได้ แต่คุณภาพอาจจะไม่ดีพอที่จะใช้ในระยะยาวหรือหากพิมพ์ใช้เป็นปริมาณมาก
อาจจะมีค่าใช้จ่ายอาจจะแพงกว่าโรงพิมพ์อีกด้วย
สำหรับการพิมพ์นามบัตรโดยโรงพิมพ์นั้นในสมัยนี้มีราคาไม่แพงโดยขึ้นอยู่กับปริมาณที่สั่งพิมพ์ โดยสิ่งที่ต้อง
พิจารณาหลักๆ คือคุณค่าของงานพิมพ์แต่ละใบ อย่างไรก็ตามความคมชัดและรายละเอียดของหมึกจะดีกว่าเครื่องพิมพ์
เอนกประสงค์ตามบ้านโดยทั่วไปแน่นอนและทำเป็นเลือกใช้กระดาษแบบต่างๆ ที่ไม่สามารถใช้เครื่องพิมพ์ที่บ้านได้ ซึ่งที่
นิยมกันหลักแล้วก็จะเป็นกระดาษอาร์ตการ์ดที่มีความหนา 260 แกรมขึ้นไปเพื่อให้มีความทนเพียงพอ แต่บางครั้ง
อาจจะเลือกใช้กระดาษแบบอื่นที่บางกว่าแล้วใช้การเคลือบผิวพลาสติกบนบนงานพิมพ์นามบัตรเพื่อเพิ่มความแน่นหนาและ
ความทนทานซึ่งจะมีทั้งเคลือบแบบเงาและแบบด้านก็ได้ นอกจากรายละเอียดการพิมพ์ที่ดีแล้วโรงพิมพ์เหล่านี้จะมี
เทคนิคการประดับพิเศษที่การเคลือบ UVหรือ SPOT UVเพื่อให้หมึกเพิ่มความเงาเน้นในจุดที่ปรารถนา เป็นต้น
เทคนิคการพิมพ์นามบัตรแต่ละแห่งจะแตกต่างกันออกไปโดยท่านสามารถเลือกหรือขอดูตัวอย่างงานเหล่านั้น
จากโรงพิมพ์ที่ใช้บริการได้ หรืออาจจะอธิบายความต้องการของคุณให้กับโรงพิมพ์เพื่อที่จะสามารถช่วยคิดวิธีการที่จะได้
งานพิมพ์นามบัตรที่แม่นยำตามใจของท่านได้



ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimplernprint.com/นามบัตร_Digital_Offset_1/

พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท


ผลิตภัณฑ์กว่านับพันนับหมื่นชิ้นตลาด ผู้ประกอบการค้ากว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้จำหน่ายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกบริโภคสินค้าตัวนี้มากกว่าสินค้าตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา
ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่โดดเด่นมากในการเสนอแนะผลิตภัณฑ์ในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท” ซึ่งตอนนี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีประชากรพลุกพล่าน
เป็นจุดที่พิจารณาและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามตึกสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้ง พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่าง ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีอยู่มากมายขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทเป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูดความสนใจ การเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมากไม่จำกัด
เป้าหมายและประกอบด้วยราคาย่อมเยา ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปในจุดที่เด่นและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นอาคารสิ่งก่อสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีป้ายที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีศักยภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงประชาชนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนพื้นที่เล็กและการเข้าถึงเฉพาะวงการที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายไวนิลจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดสังคมมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีรายการจ่ายในงานผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกกว่า
การแบ่งชนิดพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทสามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของป้ายซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทติดบิลบอร์ด คือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการมองเห็นได้ง่าย แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดสินค้าแต่จะเน้นในด้านสร้างกระแสความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการมองดูในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูดความสนใจ ชักจูงในสนใจสินค้า เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดความสนใจที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นที่คนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ข้างใต้ตึก ห้องอาหาร เป็นต้น
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่ควรทบทวนไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การออกแบบและรายละเอียดปลีกย่อยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่ลึกลับซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่ตั้งใจสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่ควรกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาดเล็กบนทางอาคารสูงก็ไม่เหมาะสม
3.สถานที่ในการใช้งาน แม้ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาดเล็กที่เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณภาพของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้นานเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่แม่นยำแล้วก็จะทำให้งานโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องคงทนกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องคงทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ช่วงปัจจุบันการทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นไม่ได้มีราคาแพงเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ และทั้งนั้นพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์ป้ายไวนิล

เครดิต : http://www.pimde.com/category/2/ป้ายไวนิล-ป้ายอิงค์เจ็ท-inkjet

รับทำเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์
การจะติดต่อผู้รับทำเว็บไซต์ ต้องให้เขาเข้าใจจุดมุ่งหมายหลัก
ปัจจุบันนี้การติดต่อสื่อสารผ่าน internet หรือโลกออนไลน์ เป็นเรื่องที่การกำหนดกันอย่างกว้างขวางและกลายเป็นเรื่องที่มีความ
จำเป็น ธุรกิจการค้าใดๆ ไม่ว่าจะจัดจำหน่ายของซื้อของขายหรือบริการต่างพยายามใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารเพื่อหาลูกค้าเพิ่ม ซึ่งก็มีอยู่มากมาย
หลายวิธี แต่ที่ได้รับการไว้ใจว่ามีกฏเกณฑ์มากที่สุดก็คือการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเป็น
โปรแกรมเมอร์เก่งๆ ที่เขียนโค้ดได้อย่างชำนาญ หรือเป็นนักพัฒนาระบบที่มีความเชี่ยวชาญ เราก็สามารถมีเว็บไซต์เอาไว้ใช้
งานได้ ด้วยการค้นหาผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ ที่มีความสามารถมาทำเว็บไซต์ให้เราเอาไปใช้งาน... แต่ ก่อนที่เราจะตกลง
ว่าจ้างหรือเลือกคนที่จะมา รับทำเว็บไซต์ ให้เรานั้น จะต้องมีการตกลงและทำความเข้าใจกันให้ดีก่อน เพราะ คนที่เขา
รับทำเว็บไซต์ หากไม่เข้าใจถึงข้อความประสงค์ที่แท้จริงของเรา เขาก็ไม่สามารถที่จะออกแบบระบบมารองรับเนื้อความต้องการ
ของเราได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นทำให้ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของเราลดลง...
วัตถุประสงค์ในการใช้งาน เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจกันก่อนเป็นชั้นเบื้องต้นเมื่อต้องการหาคน รับทำเว็บไซต์ !
เรื่องนี้อาจจะดูว่าลำบากและทุกข์ใจกับคนหลายๆ คน เพราะเวลาพูดกับคนที่เขา รับทำเว็บไซต์ หรือโปรแกรมเมอร์ที่
เป็นผู้พัฒนาระบบ ส่วนมากสิ่งที่ออกมาจากปากของเขา จะเป็นคำยากเจาะจงที่คนนอกแวดวงรู้สึกเหมือนมันเป็นภาษาต่าง
ดาว ! ระบบรายการแบบนั้น ระบบดาต้าเบสแบบนี้ Frontend ใช้แบบนั้น Backend แบบนี้ เขาจะบอกเราในเนื้อความงาน
ที่เขาจะจัดทำเมื่อ รับทำเว็บไซต์ ให้กับเรา.... แต่ทุกอย่างดูเหมือนเป็นภาษาที่มาจากต่างโลก ! ซึ่งนี่ดูเป็นอุปสรรค์ ในการ
ติดต่อสื่อสารว่าจ้างผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ เป็นอย่างยิ่ง !
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลัวไป เพราะสิ่งที่เราจำเป็นจริงๆ ที่ต้องบอกให้ทราบให้คนที่ รับทำเว็บไซต์ ได้ทราบก็คือ
จุดประสงค์หลัก ! ในการทำเว็บไซต์ของเรา สิ่งที่เราต้องชี้แจงกับผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ ก็คือ เราต้องการใช้เว็บไซต์เพื่อใช้งาน
อะไร ต้องการให้ผู้ซื้อเข้ามาแล้วมองเห็นอะไร สามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น เราต้องการให้เขาทำงาน รับทำเว็บไซต์ ให้กับ
ร้านขายสินค้าออนไลน์ของเรา จะต้องมีอะไรบ้างที่ผู้ใช้ของเราเห็นแล้วจะเกิดความสบายใจ มีรายการสินค้าที่
สามารถเลือกสินค้าได้ง่าย มีภาพแสดงให้เห็นผลิตภัณฑ์ มีเนื้อหาย่อ มีราคา และมีระบบตะกร้าสินค้าและระบบการชำระเงิน
ออนไลน์หรือช่องทางโอนเงินและทางติดต่อเราได้ง่ายๆ โปรแกมพวกนี้ที่เราต้องเสนอกับโปรแกรมเมอร์ที่ รับทำเว็บไซต์ ให้กับเรา
และทั้งหมดนั่นเป็นสิ่งที่คน รับทำเว็บไซต์ ต้องการเข้าใจในเนื้องาน รับทำเว็บไซต์ ของเขา เพื่อที่เขาจะได้สามารถจัดวาง
ระบบ และดีไซน์หน้าตาเว็บไซต์ให้ลงตัว และใช้งานได้ เตรียมเรื่องเหล่านี้ไว้ นำเสนอให้ชัดเจนต่อผู้ รับทำเว็บไซต์
ให้กับผู้บริโภคแล้วจะได้เว็บไซต์ที่ต้องการ



ที่มา : https://www.makewebzone.com/

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)ราคาถูก
งานจัดจำหน่ายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำกิจการเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการอธิบายให้ลูกค้าทราบได้ว่าองค์กรของเรานั้นขายอะไร มีประเด็นสำคัญอย่างไร แต่การ
อธิบายลูกค้าด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ชี้แจงได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมเรื่องประกอบ เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการเสนอมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความราบรื่นโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาสะดวก ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ใหม่ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังสามารถจดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีรูปร่างเป็นงานพิมพ์ที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหารายละเอียดเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มประเภทอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
เป้าหมายการใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นใจความในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละประเภทขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่สินค้าเป็นกลุ่มอย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการแสวงหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานบรรยายผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและสร้างสรรค์จะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความละเอียดลออเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งส่วนประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นจำพวกที่แสดงความสามารถและสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การเลือกสรรใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของสาระสำคัญ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษชนิดอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการเติมแต่งใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องเน้นหนักเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อรักษาความเยินจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะตรงนี้เป็นด้านนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเปรอะเปื้อนเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปรูปประกอบจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถดูลอดเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนผลิตภัณฑ์จริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดปมปัญหากับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความเก่งพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้สัดส่วนของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดสัดส่วนเล่มให้มีสัดส่วนเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องเสนอมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้เบื่อและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง
สัดส่วนเล่มกับขนาดภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีขนาดที่ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นได้ชัดเจนโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการสุดท้ายคือความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับขนาดตัวหนังสือ เป็นส่วนใหญ่การจัดเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีคำถาม แต่สำหรับสินค้าบางพันธุ์หรือสินค้าที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการนำเสนอเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดสัดส่วนตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถสังเกตเห็นและอ่านได้ง่ายๆ อาจจะต้องมีเคล็ดลับการจัดแจงรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องตรวจดูร่วมในการออกแบบและกำหนดขนาด
ซึ่งสัดส่วนของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดโดยประมาณกระดาษ A6 โดยขนาดที่ใช้
ซ้ำๆที่สุดคือ A4 เพราะมีสัดส่วนที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงง่ายๆในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงช่องทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อให้เกิดคุณประโยชน์สูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีต้นทุนค่อนข้างจะโด่ง ซึ่งหากให้ตระเตรียมพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะเจาะจงเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นขาประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างติดต่อ หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงทะเบียนมีความต้องการข่าวสาร เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการนำไปให้กับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการตอบรับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางประเภทอาจจะใช้การจัดพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยจัดเตรียมแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านค้าเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาสืบถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนจัดจำหน่าย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์แคตตาล็อกสินค้า

ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/