วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)ราคาถูก
งานขายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำกิจการเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการชี้แจงให้ลูกค้าทราบได้ว่าหน่วยงานของเรานั้นขายอะไร มีจุดสำคัญอย่างไร แต่การ
อธิบายลูกค้าด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ชี้แจงได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมรายละเอียด เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ยุคปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการบรรยายมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความสบายโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาคล่อง ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ใหม่ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังเป็นได้จดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นงานพิมพ์ที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาข้อปลีกย่อยเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มลักษณะอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
เป้าหมายการใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นเนื้อหาในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการแต่ละพวกขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่สินค้าเป็นกลุ่มอย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการสำรวจและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานเสนอผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและทำจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความประณีตบรรจงเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งส่วนเพิ่มเติมส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นจำพวกที่แสดงและสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การคัดใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเค้าความ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษลักษณะอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการประดับใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อปกป้องรักษาความเยินจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะตรงนี้เป็นด้านนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเปื้อนเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปภาพอธิบายจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถมองดูลอดเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนสินค้าจริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดคำถามกับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความฝีมือดีพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้สัดส่วนของการพิมพ์แคตตาล็อกตรงนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดขนาดเล่มให้มีขนาดเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องอธิบายมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้สึกเอียนและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง
ขนาดเล่มกับสัดส่วนภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีสัดส่วนที่ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นได้ชัดเจนโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการลงท้ายคือความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับขนาดตัวหนังสือ โดยมากการตระเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีคำถาม แต่สำหรับสินค้าบางชนิดหรือสินค้าที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการขยายความในเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถสังเกตเห็นและอ่านได้สะดวก อาจจะต้องมีเคล็ดการตระเตรียมรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องตรวจดูร่วมในการออกแบบและกำหนดสัดส่วน
ซึ่งขนาดของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดโดยประมาณกระดาษ A6 โดยสัดส่วนที่ใช้
เรื่อยๆที่สุดคือ A4 เพราะมีขนาดที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงสะดวกในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนโดยมากโด่ง ซึ่งหากให้จัดพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มค่าที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะเฉพาะเจาะจงเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นเจ้าประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างติดต่อ หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงบัญชีมีความต้องการข่าวคราว เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการแจกกับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการขานรับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางประเภทอาจจะใช้การตระเตรียมพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยจัดแจงแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านรวงเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาสืบถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนจัดจำหน่าย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์แคตตาล็อกสินค้า

ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

พิมพ์กล่องสบู่

พิมพ์กล่องกล่องสบู่ | พิมพ์กล่องเครื่องสำอางค์
สมัยนี้ทุกท่านคงได้พบเห็น การดีไซน์กล่อง พิมพ์กล่องสบู่ หลายหลากรูปแบบตามท้องตลาด ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาการผลิตการพิมพ์กล่องสบู่หลายท่านคงนึกตามในใจเลยว่า
มีแบบอย่างไหนบ้างผลิตที่ไหนเป็นอย่างไร ในปัจจุบันเราคงปฏิเสธไม่ได้สินค้าเกี่ยวกับการพิมพ์กล่องสบู่ คือจำพวกสุขภาพและความงามนับได้ว่ายอดนิยมในทุกเพศทุกวัย และการพิมพ์กล่องสบู่ที่นับได้
ว่าต้องและใครต่อใครใช้กันในปัจจุบันนั่นก็คือการดีไซน์กล่องการผลิตการพิมพ์กล่องพิมพ์กล่องสบู่อย่างแน่นอนจึงทำให้มีการพิมพ์กล่องออกมาแจ้งราคากันในทางการตลาดมากมาย ทำให้การออกแบบ
การพิมพ์กล่องสบู่ทีได้งานคุณลักษณะ ระดับ Premium แต่สิ่งหนึ่งที่จะเพิ่มแรงลุ่มหลงให้การบริโภคสินค้านั้นคือ การออกแบบกล่องและ การพิมพ์กล่องสบู่ ที่ใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ของสินค้านั้น
หากพูดถึง "พิมพ์กล่องสบู่" อันดับเริ่มแรกในใจแน่นอนว่าจะเป็นการพิมพ์กล่องมาตรฐาน เป็นบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์นั้น ที่ขายตามร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นการพิมพ์กล่องสบู่
กระดาษมีความหนาประมาณ 300 แกรมขึ้นไป โดยมีทรงเป็น 4 เหลี่ยมหรือสัดส่วนรูปร่างตามผู้บริโภคหรือผลิตภัณฑ์แต่เนื่องจากสมัยปัจจุบันการออกแบบกล่อง พิมพ์กล่องสบู่มีให้เลือก
ใช้หลายหลากยิ่งขึ้นในท้องตลาด การพิจารณาถึงภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ การดึงดูดสายตา ความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
การดีไซน์กล่อง การพิมพ์กล่องสบู่จึงทำให้กล่องมีต่างๆนาๆขนาดและรูปทรงขึ้นอยู่กับเทคนิคการออกแบบแต่ละผู้ประกอบการ
แน่นอนว่าจากที่กล่าวไปข้างต้นการดีไซน์กล่อง การพิมพ์กล่องสบู่ไม่จำกัดความจุและวัสดุที่ใช้จะเป็นพลาสติกก็ได้ รูปทรงจะเป็น สามเหลี่ยม หกเหลี่ยม ได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ
ผู้ประกอบการแต่ในที่นี้จะยกตัวอย่างวิธีการการทำการดีไซน์กล่อง การพิมพ์กล่องกระดาษที่เป็นนิยมที่สุดและประหยัดที่สุด ก่อนอื่นเมื่อท่านได้กำหนดขนาดกล่องแล้วจะทำ
ให้สามารถการดีไซน์กล่องได้แล้วว่าตั้งใจ กว้าง ยาว หนา เท่าไหร่ จากนั้นจึงไปออกแบบแพทเทิร์นหรือโครงแบบในการพับกล่องกระดาษ นึกภาพตามง่ายๆคือโครงกระดาษ
เวลาท่านคลี่กล่องออกมาให้เรียบ หลังจากนั้นออกแบบลายที่จะพิมพ์ลงในกระดาษไม่ว่าจะเป็น ตราสินค้า อรรถาธิบายวิธีการใช้ คุณค่าคำเตือน วันเดือนปีที่ผลิต หรือแม้กระทั่งรูปภาพ
สุดท้ายเมื่อสั่งพิมพ์กล่องก็ตัดกระดาษตามรูปร่างที่วางไว้ พิมพ์ ปั้ม พับและประกอบเป็นกล่องโดยใช้กาวก็เป็นอันสมบูรณ์ตามกรรมวิธี
ทั้งนี้ขอแนะนำขบวนการการพิมพ์กล่องในยุคปัจจุบันที่นิยมใช้กันนั้นมีกระดาษแบบไหนบ้าง


1.การพิมพ์กล่องสบู่แป้งหน้าขาวหลังเทา แบบนี้หลายยี่ห้อในเชิงอุตสาหกรรมใช้กันมากเนื่องจากต้นทุนที่ตำ
2.การพิมพ์กล่องสบู่แป้งหน้าขาวหลังขาว แบบนี้ยังเห็นได้มากมายอยู่ตามท้องตลาดแม้ราคาแพงกว่าแต่ให้ความรู้สึกสะอาดกว่าเมื่อหลังกล่องเป็นสีขาว
3.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษอาร์ตการ์ด มีราคาอาจจะเหมาะกับกล่องมีระดับที่มีราคาแพงมากหรือเครื่องสำอางที่ราคาขายคุ้มต้นทุน
4.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษคราฟสีน้ำตาล แบบนี้ใช้กันเยอะเกร่อในสินค้าทำเองและมักมีการจัดจำหน่ายแบบกล่องสำเร็จรูป
5.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษฟรอยด์ ซึ่งจะมีสีเงินหรือทองเงาเพิ่มมูลค่าหรูหราทันสมัยแข็งแรงของสินค้า
นอกจากนั้นการพิมพ์กล่องสบู่จะมีการเลือกใช้สีตั้งแต่ สีเดียว 4 สี สีพิเศษ เป็นเงินลงทุนราคาก็จะเพิ่มตามจำนวนสีไป และหลังจากพิมพ์เสร็จแล้วสามารถเพิ่มค่าความสวยงามได้โดยการ
เคลือบผิว โดยจะมีการเคลือบ UVเพื่อให้กล่องเงาขึ้นมีมิติ หรือจะเป็นเคลือบแบบลามิเนตด้าน ที่จะทำให้กล่องดูมีระดับและทนทานมากขึ้นเพราะกันน้ำ หรือการทำ
SpotUVเฉพาะจุดซึ่งจะเลือกใช้แบบไหนขึ้นอยู่กับความต้องการทุนของทุกท่านนั่นเอง



เครดิต : http://www.pim-d.com/category/1/ออกแบบกล่อง-พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น


กำจัดไรฝุ่น ต้องต้องใช้สารเคมีหรือไม่
ไรฝุ่น คือชื่อของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในระดับที่ตามองดูไม่เห็น มันกระจิดริดมาก ประมาณ 1/100 ของหน่วยวัดความยาวเป็นนิ้ว
แต่ถึงตัวมันจะเล็กมากก็ส่งผลต่อคนเราในระดับที่ไม่อาจละเลย เพราะเจ้าสัตว์ขนาดเล็กมากชนิดนี้แหละเป็นตัวทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้
ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนได้ เพราะว่าไรฝุ่นจะผลิตสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นต้นเหตุของโรคทางเดินหายใจอักเสบ เป็นหวัดเรื้อรัง
มีอาการคันแลระคายเคืองในดวงตา ตาแดง มีอาการโรคหอบหืด ไมเกรน และอาการผื่นคันตามผิวหนัง และไรฝุ่นสามารถ
แพร่กระจายขยายพันธุ์ได้อย่างว่องไวภายในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะมันนิยมอาศัยอยู่ตามผ้า หรือในสิ่งที่มีเส้นใย และที่มันชอบ
มาอยู่ในที่ที่มีคนเข้าอยู่อยู่มากก็คือ มันกินเศษผิวหนังที่หลุดออกของมนุษย์เราเป็นอาหาร ! อย่างนั้นในที่ๆ มีคน มีเส้นใย
จึงเป็นไปได้ที่จะมีไรฝุ่นเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลร้ายต่อสุขภาพ ดังนั้นมนุษย์จำเป็นที่จะต้องหาวิธี กำจัดไรฝุ่น
ให้ออกไปให้พ้นจากสถานที่อยู่ และการ กำจัดไรฝุ่น ที่นิยมกันก็คือสารใช้สารเคมี ซึ่งบางคนก็หนักใจในเรื่องผลกระทบ
ต่อร่างกายของมนุษย์ด้วย อย่างไรก็ตามการ กำจัดไรฝุ่น มีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง ไม่ได้มีแค่ วิธี กำจัดไรฝุ่น ที่ต้องใช้สารเคมีเท่านั้น
วิธีการ กำจัดไรฝุ่น แบบไม่จำต้องใช้สารเคมี ได้แก่...
1.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยแสงแดด ไรฝุ่นมีขนาดที่เล็กไม่ทนต่อความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ การนำเอาสิ่งที่เป็นผ้า
หรือเส้นใยไปตากแดด สามารถ กำจัดไรฝุ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยการซักในน้ำร้อน การนำเอาผ้าที่สัมผัสกับร่างกายของเราเป็นประจำจำพวกผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ผ้าห่ม หรืออื่นๆ ไปซักด้วยน้ำร้อน ทุกๆ 2 อาทิตย์ ช่วยในการ กำจัดไรฝุ่น ได้ด้วย
3.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วย เครื่องดูดไรฝุ่น เป็นเครื่องมือที่ถูกวิวัฒน์ขึ้นมาเพื่อจัดการ กำจัดไรฝุ่น โดยเฉพาะ แต่อาจจะ
มีราคาสูงอยู่บ้างในการที่จะซื้อเอามาใช้งาน แต่ก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่คุ้มค่าทีเดียว
4.การใช้ เครื่องฟอกอากาศ ที่มีระบบ กำจัดไรฝุ่น ซึ่งนอกจากสามาร กำจัดไรฝุ่น แล้ว ก็ยังช่วยในเรื่องการดูดกลิ่น
ทำให้อากาศบริสุทธิ์สดชื่นได้อีกด้วย แต่ก็แน่นอนว่ามีสนนราคาสูง
5.ใช้ผ้าป้องกันไรฝุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกปฏิรูปขึ้นมาเพื่อป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ สมัยปัจจุบันมีปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน
ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ออกมาขาย
นี่เป็นวิธีการที่มนุษย์สามารถใช้ กำจัดไรฝุ่น หรือดูแลรักษาไม่ให้มันกลายมาเป็นปัญหากับพลานามัยของเราโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กําจัดไรฝุ่น

ขอบคุณบทความจาก : http://praiya.lnwshop.com/

พิมพ์ใบปลิว


การพิมพ์ใบปลิวแจกครั้งหลัง
การพิมพ์ใบปลิวแจกเป็นยุทธวิธีทางการตลาดมาตั้งแต่สมัยก่อน เรียกได้ว่าควบคู่มากับการค้าขายและการ
จัดทำสิ่งพิมพ์ทีเดียว การพิมพ์ใบปลิวแรกเริ่มมักจะเป็นการประกาศ อธิบาย ประชาสัมพันธ์ซึ่งจัดทำโดยทางภาครัฐ
เพื่อแจ้งข่าวสารให้ผู้รับประกาศได้รับทราบ แต่มาถัดจากนั้นการประกอบการด้านสิ่งพิมพ์เริ่มเป็นที่นิยมและมีเอกชนเข้ามาดำเนิน
กิจการจึงเปิดตัวที่จะมีการพิมพ์ใบปลิวในรูปแบบการโฆษณามากขึ้น และโดยทั่วไปเนื้อหาในการพิมพ์ใบปลิวนั้นจะเป็นประเภทการ
ให้ข้อมูลเจาะจงที่จะให้ข้อมูลเพียงเรื่องอย่างเดียวและมักจะเป็นข้อมูลอย่างหยาบที่ต้องให้ไปหารายละเอียดเพิ่มเติม ดังนั้น
การจัดทำสิ่งพิมพ์ใบปลิวจึงต้องเน้นความน่าสนใจมากกว่าเนื้อหารายละเอียด
ลักษณะงานพิมพ์ที่เรียกว่าใบปลิวนั้นจะเป็นกระดาษเพียงใบเดียวเท่านั้น โดยจะเตรียมพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้าน
ก็ได้ ซึ่งขนาดและประเภทกระดาษนั้นขึ้นอยู่กับผู้จัดทำประสงค์ให้เป็นรูปแบบอย่างไรไม่มีรูปแบบเฉพาะ แต่สัดส่วนต้องไม่
ใหญ่เทอะทะหรือหนามากเกินไปจนเสียจุดเด่นในเรื่องความคล่องตัว เพราะรากศัพท์ของใบปลิวมาจาก
ภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า “Leaflet”ที่มีนิยามเป็นสิ่งพิมพ์ที่เล็กคล้ายใบไม้ หรือ บางชื่อเรียกว่า “Flyers”อันเป็นสิ่งพิมพ์ที่
เบาเล็กจนสามารถลอยตามลมนั่นเอง โดยทั่วๆ ไปมักมีขนาดไม่ควรเกินขนาด A3 หรือ A4 ซึ่งว่าใหญ่พอประมาณแล้ว ถ้าใหญ่
กว่านี้จะทำให้ถือและพกพาลำบาก และกระดาษที่นิยมใช้จะเป็นกระดาษปอนด์และกระดาษอาร์ตมันความหนา 90 แกรม
ขึ้นไปเพื่อไม่ให้เกิดการซึมของหมึกหากบางจนเกินไป
การใช้งานพิมพ์ใบปลิวนั้นคือเรียกว่าเป็นสื่อโฆษณาประเภทไดเร็คเมลที่เป็นสื่อโฆษณาที่ส่งข่าวคราวถึงผู้บริโภคโดยตรงจาก
ผู้ผลิตถึงผู้บริโภค นิยมใช้การแจกจ่ายตามสถานต่างๆ หรือส่งตรงโดยไปรษณีย์ถึงผู้บริโภค การส่งตรงถึงมือผู้บริโภค
นั้นอย่างน้อยเป็นการเพิ่มแรงชักชวนในการซื้อสินค้าให้กับผู้บริโภคได้ดีขึ้น หากผลิตภัณฑ์รวมถึงใบปลิวนั้นมีความน่าสนใจ
เพียงพอ นอกจากนั้นการแจกจ่ายใบปลิวนั้นในทางการตลาดนับเป็นการทำข้อมูลทางสถิติได้เกี่ยวกับสินค้าได้ดีมากไม่ต่าง
จากการใช้แบบสอบถาม เช่น การส่งใบปลิวหรือแจกใบปลิวให้ลูกค้า 100 ใบ โดยอาจจะระบุให้สามารถใช้ใบปลิวในการ
ลดราคาได้หากส่งกลับหรือนำมาซื้อผลิตภัณฑ์ที่ร้าน หากผู้ใช้ถือมาซื้อผลิตภัณฑ์หรือส่งกลับมา 20 ใบก็สามารถวัดผลโดยคร่าว
ได้ว่าอัตราผู้สนใจเป็น 20% จากกลุ่มแนวทางทั้งหมด เป็นต้น ทำให้ต่างจากสื่อแบบอื่นๆที่ไม่สามารถจำกัดจำนวนผู้รับ
สื่อที่ชัดเจนได้
รายละเอียดเนื้อหาในการพิมพ์ใบปลิวนั้น ควรจะเน้นให้มีความน่าสนใจมากกว่าเนื้อหารายละเอียด โดยเนื้อความ
พยายามใช้คำที่ดึงดูดกระตุ้นผู้อ่านโดยภาษาไม่ต้องสละสลวยมากก็ได้ การใช้รูปภาพในการกระตุ้นหรือการเน้นสีในเนื้อหาที่
ต้องการให้อ่านเป็นสิ่งสำคัญ การพิมพ์ใบปลิวจึงมักใช้การโฆษณาประเภทประชาสัมพันธ์งาน เปิดร้านหรือผลิตภัณฑ์ใหม่
โปรโมชั่นลดราคาและเงื่อนไขดี เป็นต้น เพราะไม่ต้องระบุรายละเอียดมากเพียงแต่ระบุวัน เวลา สถานที่ อัตราส่วนลด
และสรรพคุณอันโดดเด่นของสินค้า เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ประกอบการทั้งหลายไม่ควรโฆษณาเกินจริงแม้ต้องการ
สร้างแรงจูงใจในการบริโภคเท่าไหร่ก็ตาม เพราะผู้บริโภคไม่ได้รับประโยชน์ตามที่โฆษณาไว้ สิ่งพิมพ์ใบปลิวนี้ก็อาจจะเป็น
โทษมากกว่าคุณต่อท่านทั้งหลายได้



ที่มา : http://www.pimplernprint.com/เเผ่นพับ_ใบปลิว_Digital_Offset/

พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท


ผลิตภัณฑ์กว่านับพันนับหมื่นชิ้นท้องตลาด ผู้ประกอบการค้ากว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกบริโภคสินค้าตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา
ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่เด่นมากในการชักนำผลิตภัณฑ์ในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงประชากรได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท” ซึ่งเดี๋ยวนี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีกลุ่มคนคับคั่ง
เป็นจุดที่สังเกตและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามตึกสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้ง พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่าง ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีต่างๆ นาๆขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทเป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูดความสนใจ การเข้าถึงผู้ซื้อจำนวนมากไม่จำกัด
เป้าหมายและมีมูลค่าย่อมเยา ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดความสนใจหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปในจุดที่เด่นและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นตึกสิ่งก่อสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีป้ายที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีประสิทธิภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงประชาชนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนพื้นที่เล็กและการเข้าถึงเจาะจงส่วนที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายไวนิลจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดวงการมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีค่าใช้จ่ายในงานผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกกว่า
การจำแนกประเภทพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทสามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของป้ายซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทติดบิลบอร์ด คือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการสังเกตเห็นได้สะดวก แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดสินค้าแต่จะเน้นในด้านทำความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการพิจารณาในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูดความสนใจ ชักจูงในสนใจผลิตภัณฑ์ เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดความสนใจที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นพื้นที่คนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ข้างใต้ตึก ห้องอาหาร เป็นต้น
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่ควรทบทวนไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การออกแบบและรายละเอียดปลีกย่อยสินค้าที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่ซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่ตั้งใจสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่ควรกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาดเล็กบนทางอาคารสูงก็ไม่เหมาะสม
3.สถานที่ในการใช้งาน แม้ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีประสิทธิภาพไม่เท่าป้ายขนาดเล็กที่เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณลักษณะของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้เป็นเวลายาวนานเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่ชำนาญแล้วก็จะทำให้งานโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องทนกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ยุคปัจจุบันการทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นไม่ได้มีสนนราคาแพงเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้มาก และทั้งนั้นพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ



ที่มา : http://www.pimde.com/

ป้ายโฆษณาป้ายไวนิล

สินค้ากว่านับพันนับหมื่นชิ้นท้องตลาด ผู้ประกอบการกว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้ขายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา
ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่สะดุดตามากในการชักนำสินค้าในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “ป้ายโฆษณา” ซึ่งทุกวันนี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีประชากรล้มหลาม
เป็นจุดที่พิจารณาและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามอาคารสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้งป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่าง ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีอยู่ต่างๆนาๆขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ


สาเหตุที่ป้ายโฆษณาเป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูด การเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมากไม่จำกัด
เป้าหมายและประกอบด้วยค่าถูก ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปในจุดที่สะดุดตาและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นตึกสิ่งปลูกสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีป้ายที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีประสิทธิภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงประชาชนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนที่จำกัดและการเข้าถึงเฉพาะเจาะจงสังคมที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายไวนิลจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดส่วนมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีค่าใช้จ่ายในงานผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบป้ายราคาถูกกว่า
การจัดประเภทป้ายโฆษณาสามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของป้ายซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.ป้ายโฆษณาบิลบอร์ด คือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการสังเกตเห็นได้สบาย แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
ป้ายโฆษณาชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดสินค้าแต่จะเน้นในด้านสร้างความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นป้ายโฆษณาที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการพิจารณาในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูดความสนใจ ชักจูงในสนใจสินค้า เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นพื้นที่คนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ล่างตึก ห้องอาหาร เป็นต้น
ป้ายโฆษณานั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่น่าจะตรวจสอบไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การออกแบบและรายละเอียดปลีกย่อยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่ลึกลับซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่ต้องการสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่พอเหมาะกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าติดป้ายโฆษณาขนาดเล็กบนทางอาคารสูงก็ไม่เหมาะสม
3.พื้นที่ในการใช้งาน แม้ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาดเล็กที่เป็นป้ายโฆษณาราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณลักษณะของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะป้ายโฆษณาไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้ยาวนานเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่ชำนาญแล้วก็จะทำให้งานโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องคงทนกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ยุคปัจจุบันการทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณานั้นไม่ได้มีสนนราคาแพงเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้มาก และทั้งนั้นป้ายโฆษณาราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ

 



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.prou-d.com/15513680/ป้ายไวนิล

พิมพ์ใบปลิว


การพิมพ์ใบปลิวจ่ายแจกสมัยก่อน
การพิมพ์ใบปลิวแจกเป็นยุทธวิธีทางการตลาดมาตั้งแต่ครั้งหลัง เรียกได้ว่าพร้อมกันมากับการค้าขายและการ
จัดทำสิ่งพิมพ์ทีเดียว การพิมพ์ใบปลิวแรกเริ่มมักจะเป็นการประกาศ บอก ประชาสัมพันธ์ซึ่งจัดทำโดยทางภาครัฐ
เพื่อแจ้งข่าวสารให้ผู้รับข่าวสารได้รับทราบ แต่มาทีหลังการประกอบการด้านสิ่งพิมพ์เริ่มเป็นที่นิยมและมีเอกชนเข้ามาดำเนิน
กิจการจึงเริ่มทำที่จะมีการพิมพ์ใบปลิวในรูปแบบการโฆษณามากขึ้น และโดยทั่วๆ ไปเนื้อหาในการพิมพ์ใบปลิวนั้นจะเป็นประเภทการ
ให้ข้อมูลเฉพาะเจาะจงที่จะให้ข้อมูลเพียงเรื่องอย่างเดียวและมักจะเป็นข้อมูลอย่างหยาบที่ต้องให้ไปหารายละเอียดเพิ่มเติม ดังนั้น
การจัดทำสิ่งพิมพ์ใบปลิวจึงต้องเน้นความน่าสนใจมากกว่าเนื้อหารายละเอียด
ลักษณะงานพิมพ์ที่เรียกว่าใบปลิวนั้นจะเป็นกระดาษเพียงใบเดียวเท่านั้น โดยจะจัดพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้าน
ก็ได้ ซึ่งขนาดและลักษณะกระดาษนั้นขึ้นอยู่กับผู้จัดทำอยากให้เป็นรูปแบบอย่างไรไม่มีรูปแบบเฉพาะ แต่สัดส่วนต้องไม่
ใหญ่เทอะทะหรือหนามากไปจนเสียจุดเด่นในเรื่องความคล่องตัว เพราะรากศัพท์ของใบปลิวมาจาก
ภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า “Leaflet”ที่มีจำกัดความเป็นสิ่งพิมพ์ที่กะทัดรัดคล้ายใบไม้ หรือ บางชื่อเรียกว่า “Flyers”อันเป็นสิ่งพิมพ์ที่
เบากะทัดรัดจนสามารถลอยตามลมนั่นเอง โดยทั่วๆ ไปมักมีสัดส่วนไม่ควรเกินขนาด A3 หรือ A4 ซึ่งว่าใหญ่พอประมาณแล้ว ถ้าใหญ่
กว่านี้จะทำให้ถือและพกพายุ่งยาก และกระดาษที่นิยมใช้จะเป็นกระดาษปอนด์และกระดาษอาร์ตมันความหนา 90 แกรม
ขึ้นไปเพื่อไม่ให้เกิดการซึมของหมึกหากบางจนเกินไป
การใช้งานพิมพ์ใบปลิวนั้นคือเรียกว่าเป็นสื่อโฆษณาประเภทไดเร็คเมลที่เป็นโฆษณาที่ส่งข่าวสารถึงผู้บริโภคโดยตรงจาก
ผู้ผลิตถึงผู้บริโภค นิยมใช้การแจกจ่ายตามบริเวณต่างๆ หรือส่งตรงโดยไปรษณีย์ถึงผู้บริโภค การส่งตรงถึงมือผู้บริโภค
นั้นอย่างน้อยเป็นการเพิ่มแรงชักชวนในการซื้อสินค้าให้กับผู้ซื้อได้ดีขึ้น หากผลิตภัณฑ์รวมถึงใบปลิวนั้นมีความน่าสนใจ
เพียงพอ นอกจากนั้นการแจกใบปลิวนั้นในทางการตลาดนับเป็นการทำข้อมูลทางสถิติได้เกี่ยวกับสินค้าได้ดีมากไม่ต่าง
จากการใช้แบบสอบถาม เช่น การส่งใบปลิวหรือจ่ายแจกใบปลิวให้ลูกค้า 100 ใบ โดยอาจจะระบุให้สามารถใช้ใบปลิวในการ
ลดราคาได้หากส่งกลับหรือนำมาซื้อสินค้าที่ร้าน หากผู้บริโภคถือมาซื้อสินค้าหรือส่งกลับมา 20 ใบก็สามารถประเมินผลโดยคร่าว
ได้ว่าอัตราผู้สนใจเป็น 20% จากกลุ่มจุดมุ่งหมายทั้งหมด เป็นต้น ทำให้ต่างจากสื่อแบบอื่นๆที่ไม่สามารถจำกัดจำนวนผู้รับ
สื่อที่ชัดแจ้งได้
รายละเอียดเนื้อหาในการพิมพ์ใบปลิวนั้น ควรจะเน้นให้มีความน่าสนใจมากกว่าเนื้อหารายละเอียด โดยสาระสำคัญ
พยายามใช้คำที่ดึงดูดจูงใจผู้อ่านโดยภาษาไม่ต้องสละสลวยมากก็ได้ การใช้รูปภาพในการจูงใจหรือการเน้นสีในเนื้อหาที่
ต้องการให้อ่านเป็นสิ่งสำคัญ การพิมพ์ใบปลิวจึงมักใช้การโฆษณาประเภทประชาสัมพันธ์งาน เปิดร้านหรือผลิตภัณฑ์ใหม่
โปรโมชั่นลดราคาและเงื่อนไขดี เป็นต้น เพราะไม่ต้องระบุรายละเอียดมากเพียงแต่ระบุวัน เวลา สถานที่ อัตราส่วนลด
และสรรพคุณอันโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ประกอบการทั้งหลายไม่ควรโฆษณาเกินจริงแม้ต้องการ
สร้างแรงจูงใจในการบริโภคเท่าไหร่ก็ตาม เพราะผู้ใช้ไม่ได้รับประโยชน์ตามที่สื่อโฆษณาไว้ สิ่งพิมพ์ใบปลิวนี้ก็อาจจะเป็น
โทษมากกว่าคุณต่อท่านทั้งหลายได้



ที่มา : http://www.pimplernprint.com/เเผ่นพับ_ใบปลิว_Digital_Offset/

รับทำเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์
การจะติดต่อผู้รับทำเว็บไซต์ ต้องให้เขาเข้าใจจุดมุ่งหมายหลัก
สมัยปัจจุบันการติดต่อผ่าน internet หรือโลกออนไลน์ เป็นเรื่องที่การตั้งกฎเกณฑ์กันอย่างกว้างขวางและกลายเป็นเรื่องที่มีความ
จำเป็น ธุรกิจการค้าใดๆ ไม่ว่าจะค้าขายของซื้อของขายหรือบริการต่างพยายามใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารเพื่อหาลูกค้าเพิ่ม ซึ่งก็มีอยู่มากมาย
หลายวิธี แต่ที่ได้รับการไว้ใจว่ามีมาตรฐานมากที่สุดก็คือการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเป็น
โปรแกรมเมอร์เก่งๆ ที่เขียนโค้ดได้อย่างชำนาญ หรือเป็นนักพัฒนาระบบที่มีความสามารถ เราก็สามารถมีเว็บไซต์เอาไว้ใช้
งานได้ ด้วยการแสวงหาผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ ที่มีความสามารถมาทำเว็บไซต์ให้เราเอาไปใช้งาน... แต่ ก่อนที่เราจะตกลง
ว่าจ้างหรือเลือกคนที่จะมา รับทำเว็บไซต์ ให้เรานั้น จะต้องมีการทำความตกลงและทำความเข้าใจกันให้ดีก่อน เพราะ คนที่เขา
รับทำเว็บไซต์ หากไม่เข้าใจถึงข้อความประสงค์ที่แท้จริงของเรา เขาก็ไม่สามารถที่จะออกแบบระบบมารองรับข้อความต้องการ
ของเราได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นทำให้สมรรถนะของเว็บไซต์ของเราลดลง...
เป้าหมายในการใช้งาน เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจกันก่อนเป็นอันดับแรกเมื่อต้องการหาคน รับทำเว็บไซต์ !
เรื่องนี้อาจจะดูว่าลำบากลำบนและวุ่นวายใจกับคนหลายๆ คน เพราะเวลาพูดกับคนที่เขา รับทำเว็บไซต์ หรือโปรแกรมเมอร์ที่
เป็นผู้พัฒนาระบบ ส่วนมากสิ่งที่ออกมาจากปากของเขา จะเป็นคำศัพท์เท่านั้นที่คนนอกแวดวงรู้สึกเหมือนมันเป็นภาษาต่าง
ดาว ! ระบบรายการแบบนั้น ระบบดาต้าเบสแบบนี้ Frontend ใช้แบบนั้น Backend แบบนี้ เขาจะบอกเราในเรื่องงาน
ที่เขาจะปฏิบัติงานเมื่อ รับทำเว็บไซต์ ให้กับเรา.... แต่ทุกอย่างดูเหมือนเป็นภาษาที่มาจากต่างโลก ! ซึ่งนี่ดูเป็นอุปสรรค์ ในการ
ติดต่อสื่อสารว่าจ้างผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ เป็นอย่างยิ่ง !
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องเป็นกังวลไป เพราะสิ่งที่เราจำเป็นจริงๆ ที่ต้องเสนอให้คนที่ รับทำเว็บไซต์ ได้ทราบก็คือ
จุดประสงค์หลัก ! ในการทำเว็บไซต์ของเรา สิ่งที่เราต้องบอกกับผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ ก็คือ เราต้องการใช้เว็บไซต์เพื่อใช้งาน
อะไร ต้องการให้ลูกค้าเข้ามาแล้วเห็นอะไร สามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น เราต้องการให้เขาทำงาน รับทำเว็บไซต์ ให้กับ
ร้านขายผลิตภัณฑ์ออนไลน์ของเรา จะต้องมีอะไรบ้างที่ผู้ซื้อของเราเห็นแล้วจะเกิดความสบายใจ มีรายการผลิตภัณฑ์ที่
สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ได้ง่าย มีภาพแสดงให้เห็นสินค้า มีเนื้อหาย่อ มีราคา และมีระบบตะกร้าสินค้าและระบบการชำระเงิน
ออนไลน์หรือวิธีเลือกโอนเงินและช่องทางติดต่อเราได้ง่ายๆ โปรแกมพวกนี้ที่เราต้องบรรยายกับโปรแกรมเมอร์ที่ รับทำเว็บไซต์ ให้กับเรา
และทั้งหมดนั่นเป็นสิ่งที่คน รับทำเว็บไซต์ ต้องการเข้าใจในเนื้องาน รับทำเว็บไซต์ ของเขา เพื่อที่เขาจะได้สามารถจัดวาง
ระบบ และออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ให้ลงตัว และใช้งานได้ เตรียมเรื่องเหล่านี้ไว้ เสนอให้ชัดเจนต่อผู้ รับทำเว็บไซต์
ให้กับผู้ใช้แล้วจะได้เว็บไซต์ที่ต้องการ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์

เครดิต : https://www.makewebzone.com/

พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท


สินค้ากว่านับพันนับหมื่นชิ้นตลาด ผู้ประกอบการกว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้ขายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา
ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่สะดุดตามากในการเสนอแนะสินค้าในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงผู้คนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท” ซึ่งเดี๋ยวนี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีประชาชนล้มหลาม
เป็นจุดที่มองดูและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามตึกสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้ง พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่าง ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีอยู่ต่างๆนาๆขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทเป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูด การเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมากไม่กำหนด
เป้าหมายและมีมูลค่าถูก ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดความสนใจหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปในจุดที่เด่นและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นอาคารสิ่งก่อสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีป้ายที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีประสิทธิภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงกลุ่มคนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนในที่เล็กและการเข้าถึงเฉพาะเจาะจงส่วนที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายไวนิลจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดกลุ่มมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีรายจ่ายในการผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกกว่า
การจัดประเภทพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทสามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของป้ายซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทติดบิลบอร์ด คือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการมองเห็นได้สบาย แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดผลิตภัณฑ์แต่จะเน้นในด้านสร้างกระแสความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการมองดูในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูดความสนใจ ชักจูงในสนใจผลิตภัณฑ์ เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดความสนใจที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นที่คนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ใต้ตึก ห้องอาหาร เป็นต้น
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่น่าจะพินิจพิจารณาไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การออกแบบและรายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่ลึกลับซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่มุ่งหมายสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่พอเหมาะกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาดเล็กบนทางตึกสูงก็ไม่เหมาะสม
3.พื้นที่ในการใช้งาน แม้ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาดเล็กที่เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณลักษณะของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้เป็นเวลายาวนานเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่ชำนาญแล้วก็จะทำให้งานโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องคงทนกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ช่วงปัจจุบันการทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นไม่ได้มีสนนราคาแพงเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ และทั้งนั้นพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.pimde.com/

พิมพ์ใบปลิว


การพิมพ์ใบปลิวจ่ายแจกสมัยก่อน
การพิมพ์ใบปลิวแจกเป็นยุทธวิธีทางการตลาดมาตั้งแต่อดีต เรียกได้ว่าพร้อมกันมากับการค้าขายและการ
จัดทำสิ่งพิมพ์ทีเดียว การพิมพ์ใบปลิวแต่แรกมักจะเป็นการประกาศ บอก ประชาสัมพันธ์ซึ่งจัดทำโดยทางภาครัฐ
เพื่อแจ้งข้อมูลให้ผู้รับข่าวคราวได้รับทราบ แต่มาภายหลังการประกอบการด้านสิ่งพิมพ์เริ่มเป็นที่นิยมและมีเอกชนเข้ามาดำเนิน
กิจการจึงเริ่มทำที่จะมีการพิมพ์ใบปลิวในรูปแบบการโฆษณามากขึ้น และโดยทั่วไปเนื้อหาในการพิมพ์ใบปลิวนั้นจะเป็นประเภทการ
ให้ข้อมูลจำเพาะที่จะให้ข้อมูลเพียงเรื่องเดียวและมักจะเป็นข้อมูลอย่างหยาบที่ต้องให้ไปหารายละเอียดเพิ่มเติม ดังนั้น
การจัดทำสิ่งพิมพ์ใบปลิวจึงต้องเน้นความน่าสนใจมากกว่าเนื้อหารายละเอียด
ลักษณะงานพิมพ์ที่เรียกว่าใบปลิวตรงนั้นจะเป็นกระดาษเพียงใบเดียวเท่านั้น โดยจะจัดเตรียมพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้าน
ก็ได้ ซึ่งสัดส่วนและประเภทกระดาษตรงนั้นขึ้นอยู่กับผู้จัดทำประสงค์ให้เป็นรูปแบบอย่างไรไม่มีรูปแบบเฉพาะ แต่สัดส่วนต้องไม่
ใหญ่เทอะทะหรือหนามากเกินไปจนเสียจุดเด่นในเรื่องความคล่องตัว เพราะรากศัพท์ของใบปลิวมาจาก
ภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า “Leaflet”ที่มีจำกัดความเป็นสิ่งพิมพ์ที่เล็กคล้ายใบไม้ หรือ บางชื่อเรียกว่า “Flyers”อันเป็นสิ่งพิมพ์ที่
เบากะทัดรัดจนสามารถลอยตามลมนั่นเอง โดยทั่วไปมักมีขนาดไม่ควรเกินขนาด A3 หรือ A4 ซึ่งว่าใหญ่พอประมาณแล้ว ถ้าใหญ่
กว่านี้จะทำให้ถือและพกพายุ่งยาก และกระดาษที่นิยมใช้จะเป็นกระดาษปอนด์และกระดาษอาร์ตมันความหนา 90 แกรม
ขึ้นไปเพื่อไม่ให้เกิดการซึมของหมึกหากบางจนเกินไป
การใช้งานพิมพ์ใบปลิวนั้นคือเรียกว่าเป็นสื่อโฆษณาประเภทไดเร็คเมลที่เป็นสื่อโฆษณาที่ส่งข้อมูลถึงผู้บริโภคโดยตรงจาก
ผู้ผลิตถึงผู้บริโภค นิยมใช้การแจกจ่ายตามสถานที่ต่างๆ หรือส่งตรงโดยไปรษณีย์ถึงผู้บริโภค การส่งตรงถึงมือผู้บริโภค
นั้นอย่างน้อยเป็นการเพิ่มแรงกระตุ้นในการซื้อสินค้าให้กับลูกค้าได้ดีขึ้น หากสินค้ารวมถึงใบปลิวนั้นมีความน่าสนใจ
เพียงพอ นอกจากนั้นการแจกใบปลิวนั้นในทางการตลาดนับเป็นการทำข้อมูลทางสถิติได้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ดีมากไม่ต่าง
จากการใช้แบบสอบถาม เช่น การส่งใบปลิวหรือแจกจ่ายใบปลิวให้ลูกค้า 100 ใบ โดยอาจจะระบุให้สามารถใช้ใบปลิวในการ
ลดราคาได้หากส่งกลับหรือนำมาซื้อผลิตภัณฑ์ที่ร้าน หากผู้บริโภคถือมาซื้อสินค้าหรือส่งกลับมา 20 ใบก็สามารถวัดผลโดยคร่าว
ได้ว่าอัตราผู้สนใจเป็น 20% จากกลุ่มแนวทางทั้งหมด เป็นต้น ทำให้ต่างจากสื่อแบบอื่นๆที่ไม่สามารถจำกัดจำนวนผู้รับ
สื่อที่แน่ชัดได้
รายละเอียดเนื้อหาในการพิมพ์ใบปลิวนั้น ควรจะเน้นให้มีความน่าสนใจมากกว่าเนื้อหารายละเอียด โดยจุดสำคัญ
พยายามใช้คำที่ดึงดูดชักชวนผู้อ่านโดยภาษาไม่ต้องสละสลวยมากก็ได้ การใช้รูปภาพในการชักชวนหรือการเน้นสีในเนื้อหาที่
ต้องการให้อ่านเป็นสิ่งสำคัญ การพิมพ์ใบปลิวจึงมักใช้การโฆษณาประเภทประชาสัมพันธ์งาน เปิดร้านหรือสินค้าใหม่
โปรโมชั่นลดราคาและเงื่อนไขดี เป็นต้น เพราะไม่ต้องระบุรายละเอียดปลีกย่อยมากเพียงแต่ระบุวัน เวลา สถานที่ อัตราส่วนลด
และสรรพคุณอันโดดเด่นของสินค้า เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ประกอบการทั้งหลายไม่ควรโฆษณาเกินจริงแม้ต้องการ
สร้างแรงจูงใจในการบริโภคเท่าไหร่ก็ตาม เพราะลูกค้าไม่ได้รับประโยชน์ตามที่สื่อโฆษณาไว้ สิ่งพิมพ์ใบปลิวนี้ก็อาจจะเป็น
โทษมากกว่าคุณต่อท่านทั้งหลายได้



ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimplernprint.com/เเผ่นพับ_ใบปลิว_Digital_Offset/

รับพิมพ์กล่อง

 ออกแบบกล่อง | พิมพ์กล่อง
จำได้ว่าเมื่อเวลายังเป็นเด็กเคยซื้อช๊อคโกเลตยี่ห้อหนึ่ง หลังรับประทานเสร็จจะไม่ทิ้งกล่องจะเอามาเป่าเล่นเหมือนเสียง
แตรจนกล่องเปื่อยแล้วค่อยทิ้งเพราะเสียดาย ซึ่งยุคนั้นสินค้าใดใช้กล่องบรรจุภัณฑ์นั้นจะมีราคาแพงมาก
ส่วนมากนิยมใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทบรรจุหีบห่อโลหะมากกว่า และช่วงเวลานั้นถ้าไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตรายใหญ่
ที่เป็นระดับอุตสาหกรรม พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์นั้นแทบจะไม่มีการตกแต่งลวดลายใดๆ เท่าใดนัก อาจจะเพราะต้นทุน
การผลิตที่สูงกว่าประจุบันมาก ซึ่งเท่าที่จำได้ก็ขนมโมจิจากนครสวรรค์สมัยก่อนที่จะเป็นกล่องสีขาวๆ พิมพ์สีก็
ประมาณ 4 สีและมีไม่กี่จุดเท่านั้น
แต่ในสมัยนี้พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายและใช้กับสินค้าหลายๆประเภท และไม่ใช่เพียงเฉพาะ
กับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยแม้แต่ห้างร้านขนาดเล็กก็มีการใช้พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ประดับเป็นลวดลาย
ในแบบฉบับของตนเอง เนื่องจากพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์นั้นยังคงเป็นนิยามแห่งความดูดี มีระดับไม่ต่างจากในอดีต
จนบางครั้งรูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์เป็นตัวเพิ่มราคาให้กับผลิตภัณฑ์ และเป็นแรงเย้ายวนใจให้ลูกค้าเลือกบริโภคสินค้า
ไม่แพ้ รสชาติ คุณสมบัติ หรือความสามารถในการใช้งานของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เลยแม้แต่น้อย
การเลือกใช้กล่องบรรจุภัณฑ์นั้นต้องคำนึงถึงปริมาตร ประเภทของผลิตภัณฑ์ เพราะสัดส่วนที่พอดีนั้นจะช่วยลดต้นทุน
ของกล่องบรรจุภัณฑ์และป้องกันไม่ให้สินค้าเสียหายจากการเคลื่อนที่ของผลิตภัณฑ์ในกล่องที่ใหญ่เกินไปขณะเคลื่อนย้าย
หรือพยายามบรรจุลงกล่องที่แคบเกินไปจนสินค้าเสียรูป และประเภทสินค้ามีผลต่อการเลือกใช้สิ่งของในการทำกล่องบรรจุภัณฑ์
เพราะหน้าที่หลักของกล่องบรรจุภัณฑ์คือการป้องกันไม่ให้สินค้าที่อยู่ภายในย่อยยับ หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่แตกหักง่ายต้องเสียใช้
วัสดุที่ป้องกันการกระแทกได้ดี เช่น กล่องประเภทลูกฟูก เป็นต้น
การออกแบบและแต่งแต้มกล่องบรรจุภัณฑ์ในปัจจุบันมีให้เห็นมากมายขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของผู้ผลิตสินค้า
แต่ละคน ซึ่งมีทั้งกล่องรูปทรงต่างๆ กันไม่ใช่เฉพาะสี่เหลี่ยมชนิดแต่เดิม หรือวิธีปิดผลึกกล่องและแกะกล่องที่ต่างๆ
กันออกไป สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวเสริมภาพลักษณ์ให้ดูน่าสนใจ เพิ่มความน่าไว้ใจให้มากกว่าคู่แข่งให้ผลิตภัณฑ์
ประเภทเดียวกัน สำหรับการพิมพ์ลวดลายบนกล่องบรรจุภัณฑ์นั้นปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากแต่งอย่างใดสามารถ
ออกแบบเองแล้วส่งให้ร้านพิมพ์ และนอกจากนั้นยังสามารถประดับประดาลวดลายความสวยงามเพิ่มเติม
ตัวอย่าง เช่น เคลือบเงา ปั๊มนูน เป็นต้น
สุดท้ายนี้แม้ความสวยงามกล่องบรรจุภัณฑ์จะช่วยสนับสนุนด้านการขายให้ดีขึ้นแล้ว แต่ต้องอย่าลืมที่จะต้องลงราย
ละเอียดของผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้า เช่น วันเดือนปีที่หมดอายุหรือผลิต วิธีการใช้ คำเตือนหรือข้อแนะนำสินค้า
การเพิ่มเติมสิ่งเหล่านี้แม้จะทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์ลดความสวยงามลงบ่าง แต่สุดท้ายจะเป็นประโยชน์ต่อ{ผู้บริโภค|ผู้ซื้อ|ลูกค้า|ผู้ใช้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์กล่องเครื่องสําอางค์

เครดิต : http://www.pim-d.com/

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)เพิ่มยอดขายโปรโมชั่น
งานจัดจำหน่ายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำการทำงานเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการอธิบายให้ลูกค้าทราบได้ว่าองค์กรของเรานั้นขายอะไร มีข้อดีอย่างไร แต่การ
อธิบายลูกค้าด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่อธิบายได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำสินค้าและการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมรายละเอียด เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ช่วงปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการอธิบายมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความสะดวกโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาคล่อง ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ซ้ำ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังทำเป็นจดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีประเภทเป็นสิ่งพิมพ์ที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาเรื่องประกอบเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มลักษณะอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
จุดมุ่งหมายการใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นสาระสำคัญในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละพวกขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่สินค้าเป็นกลุ่มอย่างแน่ชัดเพื่อให้ง่ายต่อการสำรวจหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานบรรยายสินค้าเป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและสร้างจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความประณีตบรรจงเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งองค์ประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นเหล่าที่โชว์และสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การเลือกใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเค้าความ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษประเภทอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการเติมแต่งใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อป้องกันความยับเยินจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะนี้เป็นประเด็นนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเปรอะเปื้อนเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปภาพประกอบจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถสังเกตลอดเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนสินค้าจริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดตัวปัญหากับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความแตกฉานพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดขนาดเล่มให้มีขนาดเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องบรรยายมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้เบื่อและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง
สัดส่วนเล่มกับขนาดภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีสัดส่วนที่ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นได้เด่นโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการลงท้ายคือความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับสัดส่วนตัวหนังสือ ส่วนมากการจัดทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีปัญหา แต่สำหรับสินค้าบางจำพวกหรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการขยายความเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถมองเห็นและอ่านได้ไม่ยาก อาจจะต้องมีเคล็ดลับการจัดรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องไตร่ตรองร่วมในการออกแบบและกำหนดสัดส่วน
ซึ่งสัดส่วนของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดคร่าวๆกระดาษ A6 โดยขนาดที่ใช้
ซ้ำๆที่สุดคือ A4 เพราะมีขนาดที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงสบายในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงลู่ทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อเกิดผลประโยชน์สูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีต้นทุนค่อนข้างจะโด่ง ซึ่งหากให้ตระเตรียมพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะจำเพาะเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นขาประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างต่อเนื่อง หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงชื่อมีความต้องการข่าว เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการนำไปให้กับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดเตรียมทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการสนองตอบมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางประเภทอาจจะใช้การเตรียมพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยตระเตรียมแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาสอบถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนจำหน่าย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์แคตตาล็อกสินค้า

ที่มา : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

พิมพ์กล่องสบู่

พิมพ์กล่องกล่องสบู่ | พิมพ์กล่องเครื่องสำอางค์
สมัยนี้ทุกท่านคงได้พบเห็น การดีไซน์กล่อง พิมพ์กล่องสบู่ หลายหลากรูปแบบตามท้องตลาด ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาการผลิตการพิมพ์กล่องสบู่หลายท่านคงนึกตามในใจเลยว่า
มีต้นแบบไหนบ้างผลิตที่ไหนเป็นอย่างไร ในปัจจุบันเราคงปฏิเสธไม่ได้สินค้าเกี่ยวกับการพิมพ์กล่องสบู่ คือจำพวกสุขภาพและความงามนับได้ว่ายอดนิยมในทุกเพศทุกวัย และการพิมพ์กล่องสบู่ที่นับได้
ว่าต้องและใครๆใช้กันในยุคปัจจุบันนั่นก็คือการดีไซน์กล่องการผลิตการพิมพ์กล่องพิมพ์กล่องสบู่อย่างแน่นอนจึงทำให้มีการพิมพ์กล่องออกมาเสนอราคากันในทางการตลาดมากมาย ทำให้การออกแบบ
การพิมพ์กล่องสบู่ทีได้งานคุณลักษณะ ระดับ Premium แต่สิ่งหนึ่งที่จะเพิ่มแรงดึงดูดให้การบริโภคสินค้านั้นคือ การออกแบบกล่องและ การพิมพ์กล่องสบู่ ที่ใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ของสินค้านั้น
หากพูดถึง "พิมพ์กล่องสบู่" อันดับเริ่มแรกในใจแน่นอนว่าจะเป็นการพิมพ์กล่องมาตรฐาน เป็นบรรจุภัณฑ์ของสินค้านั้น ที่ขายตามร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นการพิมพ์กล่องสบู่
กระดาษมีความหนาประมาณ 300 แกรมขึ้นไป โดยมีทรงเป็น 4 เหลี่ยมหรือสัดส่วนรูปร่างตามผู้บริโภคหรือผลิตภัณฑ์แต่เนื่องจากสมัยปัจจุบันการออกแบบกล่อง พิมพ์กล่องสบู่มีให้เลือก
ใช้หลากหลายยิ่งขึ้นในตลาด การคำนึงถึงภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ การดึงดูดสายตา ความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
การดีไซน์กล่อง การพิมพ์กล่องสบู่จึงทำให้กล่องมีต่างๆนาๆปริมาตรและรูปทรงขึ้นอยู่กับเทคนิคการดีไซน์แต่ละผู้ประกอบการ
แน่นอนว่าจากที่กล่าวไปข้างต้นการดีไซน์กล่อง การพิมพ์กล่องสบู่ไม่จำกัดขนาดและวัสดุที่ใช้จะเป็นพลาสติกก็ได้ รูปทรงจะเป็น สามเหลี่ยม หกเหลี่ยม ได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ
ผู้ประกอบการแต่ในที่นี้จะยกตัวอย่างกระบวนการการทำการดีไซน์กล่อง การพิมพ์กล่องกระดาษที่เป็นการตั้งกฎเกณฑ์ที่สุดและประหยัดที่สุด ก่อนอื่นเมื่อท่านได้กำหนดขนาดกล่องแล้วจะทำ
ให้สามารถการดีไซน์กล่องได้แล้วว่าต้องการ กว้าง ยาว หนา เท่าไหร่ จากนั้นจึงไปออกแบบแพทเทิร์นหรือโครงแบบในการพับกล่องกระดาษ นึกภาพตามง่ายๆคือโครงกระดาษ
เวลาท่านคลี่กล่องออกมาให้เรียบ หลังจากนั้นดีไซน์ลายที่จะพิมพ์ลงในกระดาษไม่ว่าจะเป็น ตราสินค้า คำชี้แจงวิธีการใช้ คุณภาพคำเตือน วันเดือนปีที่ผลิต หรือแม้กระทั่งรูปภาพ
สุดท้ายเมื่อสั่งพิมพ์กล่องก็ตัดกระดาษตามรูปร่างที่วางไว้ พิมพ์ ปั้ม พับและประกอบเป็นกล่องโดยใช้กาวก็เป็นอันสมบูรณ์ตามวิธีการ
ทั้งนี้ขอแนะนำขบวนการการพิมพ์กล่องในสมัยนี้ที่นิยมใช้กันนั้นมีกระดาษแบบไหนบ้าง


1.การพิมพ์กล่องสบู่แป้งหน้าขาวหลังเทา แบบนี้หลายยี่ห้อในเชิงอุตสาหกรรมใช้กันเกร่อเนื่องจากต้นทุนที่ประหยัด
2.การพิมพ์กล่องสบู่แป้งหน้าขาวหลังขาว แบบนี้ยังเห็นได้เกร่ออยู่ตามท้องตลาดแม้ราคาแพงกว่าแต่ให้ความรู้สึกสะอาดกว่าเมื่อหลังกล่องเป็นสีขาว
3.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษอาร์ตการ์ด มีราคาอาจจะเหมาะกับกล่องมีระดับที่มีราคาแพงมากหรือเครื่องสำอางที่ราคาขายคุ้มต้นทุน
4.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษคราฟสีน้ำตาล แบบนี้ใช้กันเยอะมากมายในสินค้าทำเองและมักมีการจัดจำหน่ายแบบกล่องสำเร็จรูป
5.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษฟรอยด์ ซึ่งจะมีสีเงินหรือทองเงาเพิ่มมูลค่ามีระดับทันสมัยทนทานของสินค้า
นอกจากนั้นการพิมพ์กล่องสบู่จะมีการเลือกใช้สีตั้งแต่ สีเดียว 4 สี สีพิเศษ เป็นต้นทุนราคาก็จะเพิ่มตามจำนวนสีไป และหลังจากพิมพ์เสร็จแล้วสามารถเพิ่มค่าความสวยงามได้โดยการ
เคลือบผิว โดยจะมีการเคลือบ UVเพื่อให้กล่องเงาขึ้นมีมิติ หรือจะเป็นเคลือบแบบลามิเนตด้าน ที่จะทำให้กล่องดูมีระดับและทนมากขึ้นเพราะกันน้ำ หรือการทำ
SpotUVเฉพาะจุดซึ่งจะเลือกใช้แบบไหนขึ้นอยู่กับความต้องการทุนของทุกท่านนั่นเอง



ที่มา : http://www.pim-d.com/category/1/ออกแบบกล่อง-พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์

ป้ายไวนิล

 

ป้ายโฆษณาป้ายไวนิล

สินค้ากว่านับพันนับหมื่นชิ้นท้องตลาดผู้ประกอบการค้ากว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้ขายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา
ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่สะดุดตามากในการชักนำสินค้าในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงประชากรได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “ป้ายโฆษณา” ซึ่งเวลานี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีประชาชนล้มหลาม
เป็นจุดที่ดูและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามตึกสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้งป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่าง ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีอยู่หลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่ป้ายโฆษณาเป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูด การเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมากไม่กำหนด
เป้าหมายและประกอบด้วยมูลค่าถูก ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ


ในการดึงดูดหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปในจุดที่เด่นและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นตึกสิ่งก่อสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีป้ายที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีศักยภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงกลุ่มคนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนที่กำหนดและการเข้าถึงเฉพาะวงการที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายไวนิลจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดกลุ่มมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีรายการจ่ายในการผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบป้ายราคาถูกกว่า
การจำแนกประเภทป้ายโฆษณาสามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของป้ายซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.ป้ายโฆษณาบิลบอร์ด คือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการมองเห็นได้สะดวก แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
ป้ายโฆษณาชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดปลีกย่อยสินค้าแต่จะเน้นในด้านสร้างความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นป้ายโฆษณาที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการสังเกตในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูด ชักจูงในสนใจผลิตภัณฑ์ เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดความสนใจที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นบริเวณคนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ข้างใต้ตึก ห้องอาหาร เป็นต้น
ป้ายโฆษณานั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่สมควรวิเคราะห์ไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การออกแบบและรายละเอียดสินค้าที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่สลับซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่มุ่งหมายสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่สมควรกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าติดป้ายโฆษณาขนาดเล็กบนทางอาคารสูงก็ไม่เหมาะสม
3.ทำเลในการใช้งาน แม้ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีประสิทธิภาพไม่เท่าป้ายขนาดเล็กที่เป็นป้ายโฆษณาราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณภาพของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะป้ายโฆษณาไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้ยาวนานเป็นเดือน


หากใช้วัสดุไม่ชำนาญแล้วก็จะทำให้งานโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องทนทานกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องคงทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ประจุบันการทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณานั้นไม่ได้มีสนนราคาแพงมากเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย และทั้งนั้นป้ายโฆษณาราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท

เครดิต : http://www.pimde.com/category/2/ป้ายไวนิล-ป้ายอิงค์เจ็ท-inkjet

ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น


กำจัดไรฝุ่น ต้องต้องใช้สารเคมีหรือไม่
ไรฝุ่น หมายถึงชื่อของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในระดับที่ตามองดูไม่เห็น มันจิ๋วมาก ประมาณ 1/100 ของหน่วยวัดความยาวเป็นนิ้ว
แต่ถึงตัวมันจะเล็กมากก็ส่งผลต่อคนเราในระดับที่ไม่อาจละเลย เพราะเจ้าสัตว์ขนาดกระจิดริดชนิดนี้แหละเป็นตัวทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้
ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนได้ โดยไรฝุ่นจะผลิตสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นตัวการของโรคทางเดินหายใจอักเสบ เป็นหวัดเรื้อรัง
มีอาการคันแลระคายเคืองในดวงตา ตาแดง มีอาการโรคหอบหืด ไมเกรน และอาการผื่นคันตามผิวหนัง และไรฝุ่นสามารถ
แพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างในทันทีภายในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะมันนิยมอาศัยอยู่ตามผ้า หรือในสิ่งที่มีเส้นใย และที่มันชอบ
มาอยู่ในแหล่งที่มีคนเข้าอยู่อยู่มากก็คือ มันกินเศษผิวหนังที่หลุดออกของมนุษย์เราเป็นอาหาร ! เช่นนั้นในที่ๆ มีคน มีเส้นใย
จึงเป็นไปได้ที่จะมีไรฝุ่นเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งโทษต่อสุขภาพ ดังนั้นคนจำเป็นที่จะต้องหาวิธี กำจัดไรฝุ่น
ให้ออกไปให้พ้นจากที่อยู่อาศัย และการ กำจัดไรฝุ่น ที่นิยมกันก็คือสารใช้สารเคมี ซึ่งบางคนก็กังวลใจในเรื่องผลกระทบ
ต่อร่างกายของคนด้วย อย่างไรก็ตามการ กำจัดไรฝุ่น มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ไม่ได้มีแค่ วิธี กำจัดไรฝุ่น ที่ต้องใช้สารเคมีเท่านั้น
วิธีการ กำจัดไรฝุ่น แบบไม่ต้องใช้สารเคมี ได้แก่...
1.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยแสงแดด ไรฝุ่นมีขนาดที่เล็กไม่ทนทานต่อความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ การนำเอาสิ่งที่เป็นผ้า
หรือเส้นใยไปตากแดด สามารถ กำจัดไรฝุ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยการซักในน้ำร้อน การนำเอาผ้าที่สัมผัสกับร่างกายของเราเป็นประจำอย่างผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ผ้าห่ม หรืออื่นๆ ไปซักด้วยน้ำร้อน ทุกๆ 2 อาทิตย์ ช่วยในการ กำจัดไรฝุ่น ได้ด้วย
3.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วย เครื่องดูดไรฝุ่น เป็นเครื่องมือที่ถูกวิวัฒน์ขึ้นมาเพื่อจัดการ กำจัดไรฝุ่น โดยเฉพาะ แต่อาจจะ
มีราคาสูงอยู่บ้างในการที่จะซื้อเอามาใช้งาน แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไม้สอยที่คุ้มทีเดียว
4.การใช้ เครื่องฟอกอากาศ ที่มีระบบ กำจัดไรฝุ่น ซึ่งนอกจากสามาร กำจัดไรฝุ่น แล้ว ก็ยังช่วยในเรื่องการดูดกลิ่น
ทำให้อากาศบริสุทธิ์สดชื่นได้อีกด้วย แต่ก็แน่นอนว่ามีสนนราคาสูง
5.ใช้ผ้าป้องกันไรฝุ่น เป็นสินค้าที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาเพื่อป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ ล่าสุดมีปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน
ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ออกมาซื้อขาย
นี่เป็นวิธีการที่คนสามารถใช้ กำจัดไรฝุ่น หรือปกป้องรักษาไม่ให้มันกลายมาเป็นปัญหากับอนามัยของเราโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผลิตภัณฑ์กําจัดไรฝุ่น

ขอบคุณบทความจาก : http://praiya.lnwshop.com/

ป้ายอิงค์เจ็ท

 

ป้ายโฆษณาป้ายไวนิล

สินค้ากว่านับพันนับหมื่นชิ้นท้องตลาด ผู้ผลิตกว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้ซื้อเลือกบริโภคสินค้าตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา
ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่โดดเด่นมากในการชักนำผลิตภัณฑ์ในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “ป้ายโฆษณา” ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีประชากรพลุกพล่าน
เป็นจุดที่สังเกตและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามอาคารสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้งป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่าง ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีอยู่มากมายขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ


สาเหตุที่ป้ายโฆษณาเป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูดความสนใจ การเข้าถึงผู้ซื้อจำนวนมากไม่จำกัด
เป้าหมายและมีราคาถูก ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดความสนใจหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปในจุดที่สะดุดตาและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นตึกสิ่งปลูกสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีป้ายที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีประสิทธิภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงกลุ่มคนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนสถานที่กำหนดและการเข้าถึงโดยเจาะจงส่วนที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายไวนิลจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดสังคมมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีค่าใช้จ่ายในงานผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบป้ายราคาถูกกว่า
การแยกประเภทป้ายโฆษณาสามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของป้ายซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.ป้ายโฆษณาบิลบอร์ด คือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการเห็นได้สบาย แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
ป้ายโฆษณาชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดสินค้าแต่จะเน้นในด้านทำกระแสความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นป้ายโฆษณาที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการเห็นในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูด ชักจูงในสนใจผลิตภัณฑ์ เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดความสนใจที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นในที่คนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ล่างอาคาร ห้องอาหาร เป็นต้น
ป้ายโฆษณานั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่น่าจะวิเคราะห์ไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การออกแบบและรายละเอียดปลีกย่อยสินค้าที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่ซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่มุ่งหมายสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่พอสมควรกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าติดป้ายโฆษณาขนาดเล็กบนทางตึกสูงก็ไม่เหมาะสม
3.ทำเลที่ตั้งในการใช้งาน แม้ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาดเล็กที่เป็นป้ายโฆษณาราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณภาพของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะป้ายโฆษณาไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้ยาวนานเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่ถูกต้องแล้วก็จะทำให้งานโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องทนทานกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องทนทานเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ประจุบันการทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณานั้นไม่ได้มีสนนราคาแพงเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย และทั้งนั้นป้ายโฆษณาราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์ป้ายไวนิล

ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimde.com/category/2/ป้ายไวนิล-ป้ายอิงค์เจ็ท-inkjet

ป้ายโฆษณาป้ายไวนิล

สินค้ากว่านับพันนับหมื่นชิ้นตลาด ผู้ประกอบการค้ากว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้จำหน่ายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา
ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่เด่นมากในการแนะนำตัวผลิตภัณฑ์ในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงประชาชนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “ป้ายโฆษณา” ซึ่งเวลานี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีประชาชนล้มหลาม
เป็นจุดที่สังเกตและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามตึกสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้งป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่าง ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีหลายหลากขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ


สาเหตุที่ป้ายโฆษณาเป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูดความสนใจ การเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมากไม่จำกัด
เป้าหมายและมีราคาถูก ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปในจุดที่โดดเด่นและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นตึกสิ่งก่อสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีป้ายที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีศักยภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงประชากรจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนพื้นที่จำกัดและการเข้าถึงโดยเจาะจงส่วนที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายไวนิลจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดสังคมมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีรายจ่ายในงานผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบป้ายราคาถูกกว่า
การจำแนกประเภทป้ายโฆษณาสามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของป้ายซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.ป้ายโฆษณาบิลบอร์ด คือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการเห็นได้สบาย แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
ป้ายโฆษณาชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดสินค้าแต่จะเน้นในด้านทำกระแสความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นป้ายโฆษณาที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการสังเกตในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูดความสนใจ ชักจูงในสนใจสินค้า เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดความสนใจที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นพื้นที่คนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ล่างอาคาร ห้องอาหาร เป็นต้น
ป้ายโฆษณานั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่ควรพินิจพิจารณาไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การออกแบบและรายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่สลับซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่ต้องการสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่พอดีกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าติดป้ายโฆษณาขนาดเล็กบนทางอาคารสูงก็ไม่เหมาะสม
3.ทำเลที่ตั้งในการใช้งาน แม้ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาดเล็กที่เป็นป้ายโฆษณาราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณลักษณะของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะป้ายโฆษณาไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้ยาวนานเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่แม่นยำแล้วก็จะทำให้งานโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องคงทนกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องคงทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ประจุบันการทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณานั้นไม่ได้มีสนนราคาแพงเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้มาก และทั้งนั้นป้ายโฆษณาราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ

 



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.prou-d.com/15513680/ป้ายไวนิล

รับทำเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์
การจะติดต่อผู้รับทำเว็บไซต์ ต้องให้เขาเข้าใจวัตถุประสงค์หลัก
ปัจจุบันการติดต่อผ่าน internet หรือโลกออนไลน์ เป็นเรื่องที่แบบกันอย่างกว้างขวางและกลายเป็นเรื่องที่มีความ
จำเป็น งานใดๆ ไม่ว่าจะซื้อขายของซื้อของขายหรือบริการต่างพยายามใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารเพื่อหาลูกค้าเพิ่ม ซึ่งก็มีอยู่มากมาย
หลายวิธี แต่ที่ได้รับการยอมรับว่ามีกฏเกณฑ์มากที่สุดก็คือการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเป็น
โปรแกรมเมอร์เก่งๆ ที่เขียนโค้ดได้อย่างมีฝีมือ หรือเป็นนักพัฒนาระบบที่มีความเชี่ยวชาญ เราก็สามารถมีเว็บไซต์เอาไว้ใช้
งานได้ ด้วยการเลือกสรรผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ ที่มีความสามารถมาทำเว็บไซต์ให้เราเอาไปใช้งาน... แต่ ก่อนที่เราจะตกลง
จ้างวานหรือเลือกคนที่จะมา รับทำเว็บไซต์ ให้เรานั้น จะต้องมีการตกลงและทำความเข้าใจกันให้ดีก่อน เพราะ คนที่เขา
รับทำเว็บไซต์ หากไม่เข้าใจถึงความตั้งใจที่แท้จริงของเรา เขาก็ไม่สามารถที่จะออกแบบระบบมารองรับความต้องการ
ของเราได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นทำให้ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของเราลดลง...
วัตถุประสงค์ในการใช้งาน เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจกันก่อนเป็นอันดับแรกเริ่มเมื่อต้องการหาคน รับทำเว็บไซต์ !
เรื่องนี้อาจจะดูว่ายากและวิตกกังวลกับคนหลายๆ คน เพราะเวลาพูดกับคนที่เขา รับทำเว็บไซต์ หรือโปรแกรมเมอร์ที่
เป็นผู้พัฒนาระบบ ส่วนมากสิ่งที่ออกมาจากปากของเขา จะเป็นศัพท์เจาะจงที่คนนอกแวดวงรู้สึกเหมือนมันเป็นภาษาต่าง
ดาว ! ระบบรายการแบบนั้น ระบบดาต้าเบสแบบนี้ Frontend ใช้แบบนั้น Backend แบบนี้ เขาจะบอกเราในหัวเรื่องงาน
ที่เขาจะจัดการเมื่อ รับทำเว็บไซต์ ให้กับเรา.... แต่ทุกอย่างดูเหมือนเป็นภาษาที่มาจากต่างโลก ! ซึ่งนี่ดูเป็นอุปสรรค์ ในการ
สื่อสารว่าจ้างผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ เป็นอย่างยิ่ง !
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลัวไป เพราะสิ่งที่เราจำเป็นจริงๆ ที่ต้องบรรยายให้คนที่ รับทำเว็บไซต์ ได้ทราบก็คือ
วัตถุประสงค์หลัก ! ในการทำเว็บไซต์ของเรา สิ่งที่เราต้องชี้แจงกับผู้ที่ รับทำเว็บไซต์ ก็คือ เราต้องการใช้เว็บไซต์เพื่อใช้งาน
อะไร ต้องการให้ผู้ซื้อเข้ามาแล้วมองเห็นอะไร สามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น เราต้องการให้เขาทำงาน รับทำเว็บไซต์ ให้กับ
ร้านขายสินค้าออนไลน์ของเรา จะต้องมีอะไรบ้างที่ผู้ใช้ของเราเห็นแล้วจะเกิดความสบายใจ มีรายการสินค้าที่
สามารถเลือกสินค้าได้ง่าย มีภาพแสดงให้เห็นสินค้า มีเนื้อหาย่อ มีราคา และมีระบบตะกร้าสินค้าและระบบการชำระเงิน
ออนไลน์หรือช่องทางโอนเงินและทางเลือกติดต่อเราได้ง่ายๆ โปรแกมพวกนี้ที่เราต้องแจ้งให้ทราบกับโปรแกรมเมอร์ที่ รับทำเว็บไซต์ ให้กับเรา
และทั้งหมดนั่นเป็นสิ่งที่คน รับทำเว็บไซต์ ต้องการรับทราบในเนื้องาน รับทำเว็บไซต์ ของเขา เพื่อที่เขาจะได้สามารถจัดวาง
ระบบ และออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ให้ลงตัว และใช้งานได้ เตรียมเรื่องเหล่านี้ไว้ สาธยายให้ชัดเจนต่อผู้ รับทำเว็บไซต์
ให้กับผู้ซื้อแล้วจะได้เว็บไซต์ที่ต้องการ



ที่มา : https://www.makewebzone.com/

พิมพ์ใบปลิว


การพิมพ์ใบปลิวแจกในอดีต
การพิมพ์ใบปลิวแจกเป็นยุทธวิธีทางการตลาดมาตั้งแต่อดีต เรียกได้ว่าพร้อมกันมากับการค้าขายและการ
จัดทำสิ่งพิมพ์ทีเดียว การพิมพ์ใบปลิวเดิมทีมักจะเป็นการประกาศ ชี้แจง ประชาสัมพันธ์ซึ่งจัดทำโดยทางภาครัฐ
เพื่อแจ้งข่าวคราวให้ผู้รับข่าวสารได้รับทราบ แต่มาถัดจากนั้นการประกอบการด้านสิ่งพิมพ์เริ่มเป็นที่นิยมและมีเอกชนเข้ามาดำเนิน
กิจการจึงริเริ่มที่จะมีการพิมพ์ใบปลิวในรูปแบบการโฆษณามากขึ้น และโดยทั่วๆ ไปเนื้อหาในการพิมพ์ใบปลิวนั้นจะเป็นประเภทการ
ให้ข้อมูลเจาะจงที่จะให้ข้อมูลเพียงเรื่องอย่างเดียวและมักจะเป็นข้อมูลอย่างหยาบที่ต้องให้ไปหารายละเอียดเพิ่มเติม ดังนั้น
การจัดทำสิ่งพิมพ์ใบปลิวจึงต้องเน้นความน่าสนใจมากกว่าเนื้อหารายละเอียดปลีกย่อย
ลักษณะงานพิมพ์ที่เรียกว่าใบปลิวตรงนั้นจะเป็นกระดาษเพียงใบเดียวเท่านั้น โดยจะเตรียมพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้าน
ก็ได้ ซึ่งสัดส่วนและลักษณะกระดาษตรงนั้นขึ้นอยู่กับผู้จัดทำอยากให้เป็นรูปแบบอย่างไรไม่มีรูปแบบเฉพาะ แต่ขนาดต้องไม่
ใหญ่เทอะทะหรือหนามากเกินไปจนเสียจุดเด่นในเรื่องความคล่องตัว เพราะรากศัพท์ของใบปลิวมาจาก
ภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า “Leaflet”ที่มีจำกัดความเป็นสิ่งพิมพ์ที่กะทัดรัดคล้ายใบไม้ หรือ บางชื่อเรียกว่า “Flyers”อันเป็นสิ่งพิมพ์ที่
เบากะทัดรัดจนสามารถลอยตามลมนั่นเอง โดยทั่วไปมักมีขนาดไม่ควรเกินขนาด A3 หรือ A4 ซึ่งว่าใหญ่พอประมาณแล้ว ถ้าใหญ่
กว่านี้จะทำให้ถือและพกพายุ่งยาก และกระดาษที่นิยมใช้จะเป็นกระดาษปอนด์และกระดาษอาร์ตมันความหนา 90 แกรม
ขึ้นไปเพื่อไม่ให้เกิดการซึมของหมึกหากบางจนเกินไป
การใช้งานพิมพ์ใบปลิวนั้นคือเรียกว่าเป็นสื่อโฆษณาประเภทไดเร็คเมลที่เป็นสื่อโฆษณาที่ส่งข่าวคราวถึงผู้บริโภคโดยตรงจาก
ผู้ประกอบการถึงผู้บริโภค นิยมใช้การแจกจ่ายตามบริเวณต่างๆ หรือส่งตรงโดยไปรษณีย์ถึงผู้บริโภค การส่งตรงถึงมือผู้บริโภค
นั้นอย่างน้อยเป็นการเพิ่มแรงชักชวนในการซื้อสินค้าให้กับผู้ใช้ได้ดีขึ้น หากผลิตภัณฑ์รวมถึงใบปลิวนั้นมีความน่าสนใจ
เพียงพอ นอกจากนั้นการแจกจ่ายใบปลิวนั้นในทางการตลาดนับเป็นการทำข้อมูลทางสถิติได้เกี่ยวกับสินค้าได้ดีมากไม่ต่าง
จากการใช้แบบสอบถาม เช่น การส่งใบปลิวหรือจ่ายแจกใบปลิวให้ลูกค้า 100 ใบ โดยอาจจะระบุให้สามารถใช้ใบปลิวในการ
ลดราคาได้หากส่งกลับหรือนำมาซื้อสินค้าที่ร้าน หากผู้ซื้อถือมาซื้อสินค้าหรือส่งกลับมา 20 ใบก็สามารถวัดผลโดยคร่าว
ได้ว่าอัตราผู้สนใจเป็น 20% จากกลุ่มจุดมุ่งหมายทั้งหมด เป็นต้น ทำให้ต่างจากสื่อแบบอื่นๆที่ไม่สามารถจำกัดจำนวนผู้รับ
สื่อที่แน่ชัดได้
รายละเอียดเนื้อหาในการพิมพ์ใบปลิวนั้น ควรจะเน้นให้มีความน่าสนใจมากกว่าเนื้อหารายละเอียด โดยสาระ
พยายามใช้คำที่ดึงดูดจูงใจผู้อ่านโดยภาษาไม่ต้องสละสลวยมากก็ได้ การใช้รูปภาพในการชักชวนหรือการเน้นสีในเนื้อหาที่
ต้องการให้อ่านเป็นสิ่งสำคัญ การพิมพ์ใบปลิวจึงมักใช้การโฆษณาประเภทประชาสัมพันธ์งาน เปิดร้านหรือผลิตภัณฑ์ใหม่
โปรโมชั่นลดราคาและเงื่อนไขดี เป็นต้น เพราะไม่ต้องระบุรายละเอียดมากเพียงแต่ระบุวัน เวลา สถานที่ อัตราส่วนลด
และสรรพคุณอันโดดเด่นของสินค้า เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ประกอบการทั้งหลายไม่ควรโฆษณาเกินจริงแม้ต้องการ
สร้างแรงจูงใจในการบริโภคเท่าไหร่ก็ตาม เพราะผู้ซื้อไม่ได้รับประโยชน์ตามที่โฆษณาไว้ สิ่งพิมพ์ใบปลิวนี้ก็อาจจะเป็น
โทษมากกว่าคุณต่อท่านทั้งหลายได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์ใบปลิวถูก

ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimplernprint.com/เเผ่นพับ_ใบปลิว_Digital_Offset/

พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท


ผลิตภัณฑ์กว่านับพันนับหมื่นชิ้นตลาด ผู้ผลิตกว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา
ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่สะดุดตามากในการชักนำผลิตภัณฑ์ในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท” ซึ่งทุกวันนี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีผู้คนล้มหลาม
เป็นจุดที่สังเกตและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามอาคารสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้ง พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่าง ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทเป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูดความสนใจ การเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากไม่จำกัด
เป้าหมายและมีราคาถูก ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดความสนใจหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปในจุดที่สะดุดตาและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นตึกสิ่งก่อสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีป้ายที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีศักยภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงผู้คนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนสถานที่กำหนดและการเข้าถึงเฉพาะสังคมที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายไวนิลจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดส่วนมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีค่าใช้จ่ายในการผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกกว่า
การแบ่งประเภทพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทสามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของป้ายซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทติดบิลบอร์ด คือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการมองเห็นได้ง่าย แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดผลิตภัณฑ์แต่จะเน้นในด้านทำความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการมองดูในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูดความสนใจ ชักจูงในสนใจสินค้า เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นพื้นที่คนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ล่างอาคาร ห้องอาหาร เป็นต้น
พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่สมควรคำนึงไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การออกแบบและรายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่สลับซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่ต้องการสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่ลงตัวกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทขนาดเล็กบนทางตึกสูงก็ไม่เหมาะสม
3.สถานที่ในการใช้งาน แม้ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาดเล็กที่เป็นการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณภาพของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะการพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้นานมากเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่ชำนาญแล้วก็จะทำให้งานโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องทนทานกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ช่วงปัจจุบันการทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณา พิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทนั้นไม่ได้มีสนนราคาแพงมากเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย และทั้งนั้นพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ทราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ



เครดิต : http://www.pimde.com/

รับพิมพ์กล่อง

 ออกแบบกล่อง | พิมพ์กล่อง
จำได้ว่าครั้นเมื่อช่วงเวลายังเป็นเด็กเคยซื้อช๊อคโกเลตยี่ห้อหนึ่ง หลังกินเสร็จจะไม่ทิ้งกล่องจะเอามาเป่าเล่นเหมือนเสียง
แตรจนกล่องเปื่อยแล้วค่อยทิ้งเพราะเสียดาย ซึ่งระยะเวลานั้นสินค้าใดใช้กล่องบรรจุภัณฑ์นั้นจะมีราคาแพงมาก
ส่วนมากนิยมใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทบรรจุหีบห่อโลหะมากกว่า และช่วงเวลานั้นถ้าไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตรายใหญ่
ที่เป็นระดับอุตสาหกรรม พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์นั้นแทบจะไม่มีการเสริมแต่งลวดลายใดๆ เท่าใดนัก อาจจะเพราะเงินลงทุน
การผลิตที่สูงกว่าปัจจุบันมาก ซึ่งเท่าที่จำได้ก็ขนมโมจิจากนครสวรรค์สมัยก่อนที่จะเป็นกล่องสีขาวๆ พิมพ์สีก็
ประมาณ 4 สีและมีไม่กี่จุดเท่านั้น
แต่ในสมัยนี้พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายและใช้กับผลิตภัณฑ์หลายๆประเภท และไม่ใช่เพียงเฉพาะ
กับสินค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยแม้แต่ร้านขนาดเล็กก็มีการใช้พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ที่เสริมแต่งเป็นลวดลาย
ในแบบฉบับของตนเอง เนื่องจากพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์นั้นยังคงเป็นนิยามแห่งความสวยหรู มีระดับไม่ต่างจากในอดีต
จนบางครั้งรูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์เป็นตัวเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และเป็นแรงเย้ายวนใจให้ลูกค้าเลือกบริโภคสินค้า
ไม่แพ้ รสชาติ คุณสมบัติ หรือความสามารถในการใช้งานของสินค้านั้นๆ เลยแม้แต่น้อย
การเลือกใช้กล่องบรรจุภัณฑ์นั้นต้องคำนึงถึงสัดส่วน ประเภทของสินค้า เพราะความจุที่พอดีนั้นจะช่วยลดต้นทุน
ของกล่องบรรจุภัณฑ์และป้องกันไม่ให้สินค้าเสียหายจากการเคลื่อนที่ของผลิตภัณฑ์ในกล่องที่ใหญ่เกินไปขณะขนส่ง
หรือพยายามบรรจุลงกล่องที่เล็กมากเกินไปจนสินค้าเสียรูป และประเภทผลิตภัณฑ์มีผลต่อการเลือกใช้เครื่องมือในการทำกล่องบรรจุภัณฑ์
เพราะหน้าที่หลักของกล่องบรรจุภัณฑ์คือการป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายในย่อยยับ หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่แตกหักง่ายต้องเสียใช้
เครื่องมือที่ป้องกันการกระแทกได้ดี เช่น กล่องประเภทลูกฟูก เป็นต้น
การออกแบบและประดับกล่องบรรจุภัณฑ์ในปัจจุบันมีให้เห็นมากมายขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของผู้ผลิตสินค้า
แต่ละคน ซึ่งมีทั้งกล่องรูปทรงต่างๆ กันไม่ใช่เฉพาะสี่เหลี่ยมแบบอย่างแต่แรก หรือวิธีปิดผลึกกล่องและแกะกล่องที่ต่างๆ
กันออกไป สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวสนับสนุนภาพลักษณ์ให้ดูน่าสนใจ เพิ่มความน่าศรัทธาให้มากกว่าคู่แข่งให้ผลิตภัณฑ์
ประเภทเดียวกัน สำหรับการพิมพ์ลวดลายบนกล่องบรรจุภัณฑ์นั้นยุคปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากแต่งอย่างใดสามารถ
ออกแบบเองแล้วส่งให้ร้านพิมพ์ และนอกจากนั้นยังสามารถเติมแต่งลวดลายความสวยงามเพิ่มเติม
ตัวอย่าง เช่น เคลือบเงา ปั๊มนูน เป็นต้น
สุดท้ายนี้แม้ความสวยงามกล่องบรรจุภัณฑ์จะช่วยเสริมด้านการขายให้ดีขึ้นแล้ว แต่ต้องอย่าลืมที่จะต้องลงราย
ละเอียดของสินค้าให้แก่ผู้ซื้อ เช่น วันเดือนปีที่หมดอายุหรือผลิต วิธีการใช้ คำเตือนหรือข้อแนะนำสินค้า
การเพิ่มเติมสิ่งเหล่านี้แม้จะทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์ลดความสวยงามลงบ่าง แต่สุดท้ายจะเป็นประโยชน์ต่อ{ผู้บริโภค|ผู้ซื้อ|ลูกค้า|ผู้ใช้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์กล่องครีม

ขอบคุณบทความจาก : http://www.pim-d.com/category/1/ออกแบบกล่อง-พิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)เพิ่มยอดขายโปรโมชั่น
งานขายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำกิจธุระเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการอธิบายให้ลูกค้าทราบได้ว่าหน่วยงานของเรานั้นขายอะไร มีจุดดีอย่างไร แต่การ
อธิบายผู้บริโภคด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ชี้แจงได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมรายละเอียดปลีกย่อย เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้สมัยนี้จะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการนำเสนอมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความราบรื่นโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาราบรื่น ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ใหม่ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังอาจจะจดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นเอกสารที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาเรื่องประกอบเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มชนิดอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
เป้าหมายการใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นเค้าความในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการแต่ละประเภทขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่สินค้าเป็นกลุ่มอย่างแน่ชัดเพื่อให้ง่ายต่อการสืบหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานเสนอผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและสร้างจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความละเอียดลออเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งองค์ประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นกลุ่มที่แสดงความสามารถและสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การเลือกใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเนื้อความ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษจำพวกอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการแต่งแต้มใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อปกป้องรักษาความยับเยินจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะนี้เป็นเหล่านี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเปรอะเปื้อนเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปรูปประกอบจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถดูลอดเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนผลิตภัณฑ์จริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดข้อสงสัยกับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความถนัดพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้สัดส่วนของการพิมพ์แคตตาล็อกตรงนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดขนาดเล่มให้มีขนาดเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องอธิบายมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้สึกเอียนและไม่อยากอ่าน เป็นต้น ประการที่สองความสมดุลระหว่าง
สัดส่วนเล่มกับขนาดภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีสัดส่วนที่ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นได้เด่นโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการสุดท้ายคือความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับสัดส่วนตัวหนังสือ เป็นส่วนใหญ่การจัดเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีข้อสงสัย แต่สำหรับสินค้าบางชนิดหรือสินค้าที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการบรรยายเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถมองเห็นและอ่านได้สบาย อาจจะต้องมีเทคนิคการตระเตรียมรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องไตร่ตรองร่วมในการออกแบบและกำหนดขนาด
ซึ่งสัดส่วนของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดคร่าวๆกระดาษ A6 โดยสัดส่วนที่ใช้
เสมอที่สุดคือ A4 เพราะมีสัดส่วนที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงสบายในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงลู่ทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อเกิดผลดีสูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีต้นทุนโดยมากโด่ง ซึ่งหากให้จัดแจงพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มค่าที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะกำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นขาประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างติดต่อ หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงทะเบียนมีความต้องการข้อมูล เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการมอบกับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดแจงทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการตอบรับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางจำพวกอาจจะใช้การจัดแจงพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยจัดแจงแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาติดต่อสอบถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนขาย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์แคตตาล็อกสินค้า

ที่มา : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

พิมพ์กล่องสบู่

พิมพ์กล่องกล่องสบู่ | พิมพ์กล่องเครื่องสำอางค์
สมัยนี้ทุกท่านคงได้พบเห็น การดีไซน์กล่อง พิมพ์กล่องสบู่ ต่างๆนาๆรูปแบบตามท้องตลาด ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาการผลิตการพิมพ์กล่องสบู่หลายท่านคงนึกตามในใจเลยว่า
มีแบบไหนบ้างผลิตที่ไหนเป็นอย่างไร ในปัจจุบันเราคงปฏิเสธไม่ได้สินค้าเกี่ยวกับการพิมพ์กล่องสบู่ คือกลุ่มสุขภาพและความงามนับได้ว่ายอดนิยมในทุกเพศทุกวัย และการพิมพ์กล่องสบู่ที่นับได้
ว่าต้องและทุกท่านใช้กันในยุคปัจจุบันนั่นก็คือการดีไซน์กล่องการผลิตการพิมพ์กล่องพิมพ์กล่องสบู่อย่างแน่นอนจึงทำให้มีการพิมพ์กล่องออกมาแข่งกันในทางการตลาดมากมาย ทำให้การออกแบบ
การพิมพ์กล่องสบู่ทีได้งานคุณลักษณะ ระดับ Premium แต่สิ่งหนึ่งที่จะเพิ่มแรงดึงดูดให้การบริโภคสินค้านั้นคือ การออกแบบกล่องและ การพิมพ์กล่องสบู่ ที่ใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ของสินค้านั้น
หากพูดถึง "พิมพ์กล่องสบู่" อันดับแรกในใจแน่นอนว่าจะเป็นการพิมพ์กล่องมาตรฐาน เป็นบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์นั้น ที่ขายตามร้านสะดวกซื้อและศูนย์การค้า ซึ่งเป็นการพิมพ์กล่องสบู่
กระดาษมีความหนาประมาณ 300 แกรมขึ้นไป โดยมีทรงเป็น 4 เหลี่ยมหรือปริมาตรรูปร่างตามผู้บริโภคหรือสินค้าแต่เนื่องจากปัจจุบันการออกแบบกล่อง พิมพ์กล่องสบู่มีให้เลือก
ใช้หลากหลายยิ่งขึ้นในตลาด การวิเคราะห์ถึงภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ การดึงดูดสายตา ความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
การออกแบบกล่อง การพิมพ์กล่องสบู่จึงทำให้กล่องมีต่างๆนาๆขนาดและรูปทรงขึ้นอยู่กับเทคนิคการออกแบบแต่ละผู้ผลิต
แน่นอนว่าจากที่กล่าวไปข้างต้นการออกแบบกล่อง การพิมพ์กล่องสบู่ไม่จำกัดปริมาตรและวัสดุที่ใช้จะเป็นพลาสติกก็ได้ รูปทรงจะเป็น สามเหลี่ยม หกเหลี่ยม ได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ
ผู้ประกอบการแต่ในที่นี้จะยกตัวอย่างกรรมวิธีการทำการออกแบบกล่อง การพิมพ์กล่องกระดาษที่เป็นการตั้งกฎเกณฑ์ที่สุดและประหยัดที่สุด ก่อนอื่นเมื่อท่านได้กำหนดขนาดกล่องแล้วจะทำ
ให้สามารถการดีไซน์กล่องได้แล้วว่าประสงค์ กว้าง ยาว หนา เท่าไหร่ จากนั้นจึงไปออกแบบแพทเทิร์นหรือโครงแบบในการพับกล่องกระดาษ นึกภาพตามง่ายๆคือโครงกระดาษ
เวลาท่านคลี่กล่องออกมาให้เรียบ หลังจากนั้นออกแบบลายที่จะพิมพ์ลงในกระดาษไม่ว่าจะเป็น ตราสินค้า คำอธิบายวิธีการใช้ คุณภาพคำเตือน วันเดือนปีที่ผลิต หรือแม้กระทั่งรูปภาพ
สุดท้ายเมื่อสั่งพิมพ์กล่องก็ตัดกระดาษตามต้นแบบที่วางไว้ พิมพ์ ปั้ม พับและประกอบเป็นกล่องโดยใช้กาวก็เป็นอันสมบูรณ์ตามขั้นตอน
ทั้งนี้ขอแนะนำขั้นตอนการพิมพ์กล่องในปัจจุบันที่นิยมใช้กันนั้นมีกระดาษแบบไหนบ้าง


1.การพิมพ์กล่องสบู่แป้งหน้าขาวหลังเทา แบบนี้หลายยี่ห้อในเชิงอุตสาหกรรมใช้กันมากเนื่องจากต้นทุนที่ประหยัด
2.การพิมพ์กล่องสบู่แป้งหน้าขาวหลังขาว แบบนี้ยังเห็นได้มากอยู่ตามท้องตลาดแม้ราคาแพงกว่าแต่ให้ความรู้สึกสะอาดกว่าเมื่อหลังกล่องเป็นสีขาว
3.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษอาร์ตการ์ด มีราคาอาจจะเหมาะกับกล่องงดงามที่มีราคาแพงมากหรือเครื่องสำอางที่ราคาขายคุ้มเงินลงทุน
4.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษคราฟสีน้ำตาล แบบนี้ใช้กันเยอะมากมายในสินค้าทำเองและมักมีการจัดจำหน่ายแบบกล่องสำเร็จรูป
5.การพิมพ์กล่องสบู่กระดาษฟรอยด์ ซึ่งจะมีสีเงินหรือทองเงาเพิ่มมูลค่างดงามทันสมัยทนทานของสินค้า
นอกจากนั้นการพิมพ์กล่องสบู่จะมีการเลือกใช้สีตั้งแต่ สีเดียว 4 สี สีพิเศษ เป็นต้นทุนราคาก็จะเพิ่มตามจำนวนสีไป และหลังจากพิมพ์เสร็จแล้วสามารถเพิ่มราคาความสวยงามได้โดยการ
เคลือบผิว โดยจะมีการเคลือบ UVเพื่อให้กล่องเงาขึ้นมีมิติ หรือจะเป็นเคลือบแบบลามิเนตด้าน ที่จะทำให้กล่องดูมีระดับและแข็งแรงมากขึ้นเพราะกันน้ำ หรือการทำ
SpotUVเฉพาะจุดซึ่งจะเลือกใช้แบบไหนขึ้นอยู่กับความต้องการต้นทุนของทุกท่านนั่นเอง



เครดิต : http://www.pim-d.com/product/1/พิมพ์กล่องสบู่-กล่องเครื่องสำอางค์

ป้ายไวนิล

 

ป้ายโฆษณาป้ายไวนิล

ผลิตภัณฑ์กว่านับพันนับหมื่นชิ้นท้องตลาดผู้ประกอบการกว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้ซื้อเลือกบริโภคสินค้าตัวนี้มากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา
ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่โดดเด่นมากในการแนะนำสินค้าในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงประชากรได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “ป้ายโฆษณา” ซึ่งตอนนี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีผู้คนล้มหลาม
เป็นจุดที่สังเกตและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามอาคารสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้งป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่าง ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีมากมายขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ
สาเหตุที่ป้ายโฆษณาเป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูด การเข้าถึงผู้ซื้อจำนวนมากไม่จำกัด
เป้าหมายและมีราคาถูก ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ


ในการดึงดูดหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปในจุดที่สะดุดตาและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นตึกสิ่งปลูกสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีป้ายที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีประสิทธิภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงประชาชนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนในที่เล็กและการเข้าถึงเฉพาะวงการที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายไวนิลจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดกลุ่มมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีรายการจ่ายในการผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบป้ายราคาถูกกว่า
การจัดประเภทป้ายโฆษณาสามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของป้ายซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.ป้ายโฆษณาบิลบอร์ด คือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการสังเกตเห็นได้ง่าย แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
ป้ายโฆษณาชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดสินค้าแต่จะเน้นในด้านทำกระแสความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นป้ายโฆษณาที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการเห็นในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูดความสนใจ ชักจูงในสนใจผลิตภัณฑ์ เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นสถานที่คนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ใต้ตึก ห้องอาหาร เป็นต้น
ป้ายโฆษณานั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่ควรพิจารณาไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การออกแบบและรายละเอียดสินค้าที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่ลึกลับซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่ตั้งใจสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่เหมาะสมกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าติดป้ายโฆษณาขนาดเล็กบนทางอาคารสูงก็ไม่เหมาะสม
3.ทำเลในการใช้งาน แม้ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาดเล็กที่เป็นป้ายโฆษณาราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณภาพของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะป้ายโฆษณาไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้นานเป็นเดือน


หากใช้วัสดุไม่แม่นยำแล้วก็จะทำให้งานโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องทนทานกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องทนเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ประจุบันการทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณานั้นไม่ได้มีราคาแพงมากเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้มาก และทั้งนั้นป้ายโฆษณาราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ



เครดิต : http://www.pimde.com/category/2/ป้ายไวนิล-ป้ายอิงค์เจ็ท-inkjet

ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น


กำจัดไรฝุ่น จำต้องต้องใช้สารเคมีหรือไม่
ไรฝุ่น หมายถึงชื่อของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในระดับที่ตาดูไม่เห็น มันจี๊ดมาก ประมาณ 1/100 ของหน่วยวัดความยาวเป็นนิ้ว
แต่ถึงตัวมันจะเล็กก็ส่งผลต่อคนเราในระดับที่ไม่อาจละเลย เพราะเจ้าสัตว์ขนาดจี๊ดชนิดนี้แหละเป็นตัวทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้
ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนได้ โดยไรฝุ่นจะกำเนิดสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นตัวการของโรคทางเดินหายใจอักเสบ เป็นหวัดเรื้อรัง
มีอาการคันแลระคายเคืองในดวงตา ตาแดง มีอาการโรคหอบหืด ไมเกรน และอาการผื่นคันตามผิวหนัง และไรฝุ่นสามารถ
แพร่กระจายขยายพันธุ์ได้อย่างฉับไวภายในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะมันชอบอาศัยอยู่ตามผ้า หรือในสิ่งที่มีเส้นใย และที่มันชอบ
มาอยู่ในที่อยู่ที่มีคนอาศัยอยู่อยู่มากก็คือ มันกินเศษผิวหนังที่หลุดออกของมนุษย์เราเป็นอาหาร ! ฉันนั้นในที่ๆ มีคน มีเส้นใย
จึงเป็นไปได้ที่จะมีไรฝุ่นเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งโทษต่อสุขภาพ ดังนั้นคนจำเป็นที่จะต้องหาวิธี กำจัดไรฝุ่น
ให้ออกไปให้พ้นจากที่อยู่ และการ กำจัดไรฝุ่น ที่นิยมกันก็คือสารใช้สารเคมี ซึ่งบางคนก็หวาดวิตกในเรื่องผลกระทบ
ต่อร่างกายของมนุษย์ด้วย อย่างไรก็ตามการ กำจัดไรฝุ่น มีอยู่ด้วยกันหลายแนวทาง ไม่ได้มีแค่ วิธี กำจัดไรฝุ่น ที่ต้องใช้สารเคมีแค่นั้น
วิธีการ กำจัดไรฝุ่น แบบไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี ได้แก่...
1.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยแสงแดด ไรฝุ่นมีขนาดที่เล็กไม่ทนทานต่อความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ การนำเอาสิ่งที่เป็นผ้า
หรือเส้นใยไปตากแดด สามารถ กำจัดไรฝุ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยการซักในน้ำร้อน การนำเอาผ้าที่สัมผัสกับร่างกายของเราเป็นประจำอย่างผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ผ้าห่ม หรืออื่นๆ ไปซักด้วยน้ำร้อน ทุกๆ 2 อาทิตย์ ช่วยในการ กำจัดไรฝุ่น ได้เช่นเดียวกัน
3.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วย เครื่องดูดไรฝุ่น เป็นเครื่องมือที่ถูกก้าวหน้าขึ้นมาเพื่อจัดการ กำจัดไรฝุ่น โดยเฉพาะ แต่อาจจะ
มีราคาสูงอยู่บ้างในการที่จะซื้อเอามาใช้งาน แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือที่คุ้มทีเดียว
4.การใช้ เครื่องฟอกอากาศ ที่มีระบบ กำจัดไรฝุ่น ซึ่งนอกจากสามาร กำจัดไรฝุ่น แล้ว ก็ยังช่วยในเรื่องการดูดกลิ่น
ทำให้อากาศใสสะอาดสดชื่นได้อีกด้วย แต่ก็แน่นอนว่ามีมูลค่าสูง
5.ใช้ผ้าป้องกันไรฝุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกวิวัฒน์ขึ้นมาเพื่อป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ สมัยปัจจุบันมีปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน
ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ออกมาจำหน่าย
นี่เป็นวิธีการที่คนสามารถใช้ กำจัดไรฝุ่น หรือดูแลรักษาไม่ให้มันกลายมาเป็นปัญหากับสุขภาพอนามัยของเราโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผลิตภัณฑ์กําจัดไรฝุ่น

ที่มา : http://praiya.lnwshop.com/product/4/ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น-สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น-mite-klean

ป้ายอิงค์เจ็ท

 

ป้ายโฆษณาพิมพ์ป้ายอิงค์เจ็ท (inkjet)

สินค้ากว่านับพันนับหมื่นชิ้นท้องตลาด ผู้ผลิตกว่านับร้อยนับพันรายที่เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าและบริการ ปัญหาคือจะทำ
อย่างไรให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และจะทำอย่างไรให้ผู้ซื้อเลือกบริโภคสินค้าตัวนี้มากกว่าสินค้าตัวอื่นแน่นอนว่าจำเป็นต้องมีการโฆษณา
ทั้งนั้นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่สะดุดตามากในการแนะนำตัวผลิตภัณฑ์ในด้านการเข้าถึงและสร้างความรู้จักให้กับผู้คนผ่านการมองเห็น สามารถ
เข้าถึงประชาชนได้หลากหลายและเป็นจำนวนมากนั่นคือ “ป้ายโฆษณา” ซึ่งทุกวันนี้สามารถเห็นสื่อชนิดนี้ได้ตามบริเวณที่มีกลุ่มคนคับคั่ง
เป็นจุดที่ดูและมองเห็นได้ง่าย เช่น ตามอาคารสูง ทางด่วน เป็นต้นจะมีทั้งป้ายโครงเหล็ก ป้ายบิลบอร์ด ป้ายแบนเนอร์ฝังผนัง หรือ
จะเป็นป้ายราคาถูกอย่าง ป้ายอิงค์เจ็ท ป้ายไวนิล เป็นต้น ทั้งนั้นเดี๋ยวนี้งานแผ่นป้ายรับทำป้ายนั้นมีหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ
และการใช้งานเป็นสำคัญ


สาเหตุที่ป้ายโฆษณาเป็นที่นิยมกันมากนั้นอันเนื่องมาจากความสามารถในการดึงดูด การเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากไม่จำกัด
เป้าหมายและประกอบด้วยมูลค่าย่อมเยา ซึ่งทั้งสามประการนี้เป็นจุดแข็งของสื่อชนิดนี้ โดยสามารถแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้ ข้อแรก ด้านความสามารถ
ในการดึงดูดความสนใจหรือเรียกร้องความสนใจ อันเนื่องมาจากมนุษย์มักมองและสังเกตไปในจุดที่โดดเด่นและดูแตกต่างอยู่เสมอ สมมติว่าพื้นที่
ปกตินั้นเป็นตึกสิ่งปลูกสร้างโดยทั่วไปแต่เมื่อมีป้ายที่มีความแตกต่างคนก็มักจะต้องเบนไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้ามีข้อความหรือ
รูปภาพที่น่าสนใจแล้วยิ่งมีประสิทธิภาพ ข้อสอง ด้านการเข้าถึงประชาชนจำนวน หากเปรียบเทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน เช่น ใบปลิว แผ่นพับ
ซึ่งมีจำนวนที่เล็กและการเข้าถึงโดยเจาะจงวงการที่เป็นเป้าหมาย การใช้ป้ายไวนิลจะเข้าถึงได้โดยไม่จำกัดจำนวนและผู้คนหลากหลาย
ประเภทไม่จำกัดสังคมมากกว่า และสุดท้ายข้อสาม ด้านราคา สำหรับสื่อโฆษณาแบบเน้นการเข้าถึงในวงกว้างอย่าง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ
นั้นมีรายการจ่ายในงานผลิตที่สูงมากเมื่อเทียบป้ายราคาถูกกว่า
การแบ่งชนิดป้ายโฆษณาสามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ด้านพื้นที่ใช้งาน เช่น ป้ายใช้ภายใน ภายนอกอาคาร เป็นต้น
หรือ ด้านวัสดุแผ่นป้ายรับทำป้าย เช่น ป้ายไวนิล ป้ายโลหะ ป้ายหลอดไฟ ป้ายอิงค์เจ็ทแบบกระดาษ เป็นต้น แต่ที่นี้จะแบ่งตามขนาด
ของป้ายซึ่งจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท
1.ป้ายโฆษณาบิลบอร์ด คือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่ที่เห็นตามถนน บนทางด่วน ซึ่งต้องสามารถการเห็นได้สะดวก แม้ในขณะนั่งรถที่วิ่งด้วยความเร็ว
ป้ายโฆษณาชนิดนี้จะไม่เน้นในการแสดงรายละเอียดผลิตภัณฑ์แต่จะเน้นในด้านทำกระแสความรู้จักมากกว่า
2.ป้ายคัตเอาท์ เป็นป้ายโฆษณาที่จะเน้นในอยู่ระดับสายตามีขนาดใหญ่พอประมาณเพื่อให้ง่ายในการพิจารณาในการเดินผ่านไปมา โดยมักจะมี
วัตถุประสงค์ในการดึงดูดความสนใจ ชักจูงในสนใจสินค้า เช่น โปรโมชั่น แนะนำร้าน เป็นต้น
3.ป้ายโปสเตอร์ เป็นป้ายโฆษณาดึงดูดความสนใจที่มีขนาดใหญ่แต่ไม่มากเท่าคัตเอาท์ซึ่งเป็นตามพื้นที่ต่างๆ ที่จะเน้นในที่คนมักจะยืน
รอหรือมีเวลาในการอ่านมาก เช่น ตามป้ายรถเมล์ ล่างตึก ห้องอาหาร เป็นต้น
ป้ายโฆษณานั้นจะได้ผลต้องมีสิ่งที่น่าจะทบทวนไว้เป็นองค์ประกอบ คือ
1.การออกแบบและรายละเอียดสินค้าที่เหมาะสม เนื้อหาและรูปภาพต้องเข้าใจง่าย ชัดเจนไม่สลับซับซ้อน คนดูเข้าใจในสิ่งที่มุ่งหมายสื่อได้ชัดเจน
2.ขนาด ที่ควรกับเนื้อหากับตำแหน่งที่ต้องใช้ติด สมมติถ้าติดป้ายโฆษณาขนาดเล็กบนทางตึกสูงก็ไม่เหมาะสม
3.ทำเลในการใช้งาน แม้ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่หากติดผิดตำแหน่งอาจจะมีศักยภาพไม่เท่าป้ายขนาดเล็กที่เป็นป้ายโฆษณาราคาถูกหากในตำแหน่งที่ใช่ก็ได้
4.วัสดุที่เลือกใช้ คุณลักษณะของวัสดุมีผลอย่างมากในด้านอายุการใช้งาน เพราะป้ายโฆษณาไม่ได้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง บางครั้งติดไว้เป็นเวลายาวนานเป็นเดือน
หากใช้วัสดุไม่ถูกต้องแล้วก็จะทำให้งานโฆษณาเสียหายได้ อย่างเช่น งานที่ใช้ภายนอกต้องทนทานกับสภาพแวดล้อม แสงแดด ฝน ควรจะเป็น
วัสดุที่ต้องทนทานเป็นหลัก หากเป็นภายในอาคารป้ายสติ๊กเกอร์ ป้ายอิงค์เจ็ทก็นับว่าเพียงพอ
ปัจจุบันนี้การทำแผ่นป้ายรับทำป้ายโฆษณานั้นไม่ได้มีราคาแพงเท่าในอดีตเพราะมีเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก
สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย และทั้งนั้นป้ายโฆษณาราคาถูกไม่ได้ความว่าป้ายไม่มีคุณภาพ ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในหลายๆด้านเป็นสำคัญ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์ป้ายไวนิล

ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimde.com/category/2/ป้ายไวนิล-ป้ายอิงค์เจ็ท-inkjet