วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)เพิ่มยอดขายโปรโมชั่น
งานขายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำกิจธุระเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการนำเสนอให้ลูกค้าทราบได้ว่าหน่วยงานของเรานั้นขายอะไร มีข้อเด่นอย่างไร แต่การ
อธิบายผู้บริโภคด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ชี้แจงได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำสินค้าและการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมรายละเอียด เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้สมัยนี้จะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการเสนอมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความสะดวกโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาสะดวก ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ใหม่ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังทำได้จดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นสิ่งพิมพ์ที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหารายละเอียดเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มชนิดอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
จุดมุ่งหมายการใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นใจความในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละจำพวกขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มอย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการสืบหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานนำเสนอสินค้าเป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและทำจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความประณีตบรรจงเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งองค์ประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นเหล่าที่แสดงและสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การเลือกใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเนื้อหา โดยอาจจะ
ใช้กระดาษแบบอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการตกแต่งใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อรักษาความเยินจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะนี้เป็นด้านนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปรูปประกอบจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถมองดูทะลุเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนผลิตภัณฑ์จริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดตัวปัญหากับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความเข้าใจแจ่มแจ้งพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดสัดส่วนเล่มให้มีขนาดเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องเสนอมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้สึกเอียนและไม่อยากอ่าน เป็นต้น ประการที่สองความสมดุลระหว่าง
สัดส่วนเล่มกับขนาดภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีขนาดที่ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ถนัดตาโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการลงท้ายคือความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับสัดส่วนตัวหนังสือ ส่วนมากการเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีคำถาม แต่สำหรับสินค้าบางพันธุ์หรือสินค้าที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการชี้แจงเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถมองเห็นและอ่านได้ง่ายๆ อาจจะต้องมีเทคนิคการจัดเตรียมรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องคิดร่วมในการออกแบบและกำหนดสัดส่วน
ซึ่งสัดส่วนของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดประมาณกระดาษ A6 โดยสัดส่วนที่ใช้
บ่อยที่สุดคือ A4 เพราะมีสัดส่วนที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงง่ายในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงลู่ทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อให้เกิดผลสูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนมักจะสูง ซึ่งหากให้จัดเตรียมพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะกำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นขาประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างติดต่อกัน หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงชื่อมีความต้องการข้อมูล เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการส่งให้กับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้ตระเตรียมทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการตอบรับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางจำพวกอาจจะใช้การจัดพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยจัดเตรียมแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านค้าเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาสืบถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนจัดจำหน่าย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้



ที่มา : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

รับทำเว็บไซต์|ออกแบบเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สี ต้องสื่อความรู้ความหมายชัดเจน
สำหรับคนที่ทำงาน รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องให้ข้อความสำคัญก็คือ การรับฟังความมุ่งหวังของผู้ที่มาจ้าง
เราให้ รับทำเว็บไซต์ ให้เข้าใจชัดเจน เมื่อทราบเป้าหมายในการใช้งานของเราแล้ว เราจึงจะสามารถเริ่มทำการทำงาน รับทำเว็บไซต์
และออกแบบเว็บไซต์ ได้ตรงจุดตามที่เขาต้องการทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องอื่นที่เราจะต้องใส่ใจที่เป็นรายละเอียดอีก
หลายอย่างเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ตรงจุดตามที่เขาประสงค์มากที่สุด ไม่ต้องกลับมาแก้ไขงานให้เสียเวลา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ เรื่องของ
การติดต่อสื่อสารของเว็บไซต์ !
การติดต่อสื่อสารในการทำงาน รับทำเว็บไซต์ เหนือจากการใช้เนื้อความหรือภาพเสนอให้ผู้ใช้งานทราบ
คำจำกัดความแล้ว ก็ยังมีเรื่องของ “สี” เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีผลกับอารมณ์ความเข้าใจและความราบรื่นของผู้บริโภคใช้งาน
เว็บไซต์เป็นอย่างมาก เว็บที่เรา รับทำเว็บไซต์ ขึ้นมาจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย หากไม่มีสีสันที่น่ามองให้คนอยากใช้งาน และ
จะยิ่งแย่กว่า หากสีของตัวหนังสือและสีของพื้นหลังไม่สัมพันธ์กัน บางทีเราใช้ตัวหนังสือสีอ่อน กับสีของพื้นหลังที่มีความ
สว่าง มันก็ทำให้ข้อความอ่านได้ลำบาก ตัวหนังสือสีเข้มกับพื้นหลังสีทึบก็ด้วย นี่เป็นใจความสำคัญที่ผู้ รับทำเว็บไซต์ ต้อง
เรียนรู้และทำความเข้าใจรอบรู้เป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้สามารถ รับทำเว็บไซต์ และออกแบบเว็บไซต์ ให้มีหน้าตาสีสัน และรูปร่าง
ที่เหมาะสมใช้งานได้ง่าย
นอกจากนี้ สี ยังมีส่วนให้การสนับสนุนความเข้าใจ สี มีผลต่ออารมณ์ความเข้าใจของคนเราจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการบำบัด
ด้วยสี หรือที่เรียกว่า Color Therapy การ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ ก็อย่างงานผลิตหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ต้องมีการ ออกแบบรูปเล่มให้มีสีสันที่น่าพึงพอใจชวนมองและน่าซื้อ เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการเลือกแบบของสีที่
พอเหมาะ การสื่อความหมายเพื่อให้ผู้ที่เข้ามามองดูเกิดความรู้สึกคล้อยตาม ก็จะเป็นไปได้ยาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในตัวปัญหาที่ผู้
รับทำเว็บไซต์ ต้องพบเห็นกับอุปสรรคการถูกขอให้แก้งานจากผู้ว่าจ้างให้ รับทำเว็บไซต์ ที่พบได้บ่อย ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะไม่
เข้าใจในเรื่องการดีไซน์ดีเท่าเรา แต่ หากว่าผู้ว่าจ้างเห็นหน้าตาเว็บไซต์ที่ เรา รับทำเว็บไซต์ ให้ แล้วเกิดความเห็นว่ามันขัดๆ
ยังไม่สวย ไม่น่าใช้ อันนี้ก็ทำให้เกิดการร้องขอให้เราแก้เว็บไซต์ได้เช่นกัน นั่นก็ทำให้งาน รับทำเว็บไซต์ ของเรายากลำบากเข้าไปอีก
เช่นนั้นก่อนที่จะ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่เราควรทำพร้อมๆ กับการซักถามความต้องการในการใช้งานให้ชัดเจนแล้ว
เราจะต้องนำเอารูปร่างของ “สี” และรูปร่างหน้าตาของตัวหนังสือมาให้ผู้จัดจ้างให้ เรา รับทำเว็บไซต์ เขาได้มีส่วนใน
การเลือกด้วย พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นกันในเรื่องความหมายที่ต้องการสื่อ เพื่อที่เราจะได้สามารถดีไซน์เว็บไซต์ที่ตรงกับใจและเหมาะสม
ในการใช้ธุรกิจให้ได้มากที่สุด



เครดิต : https://makezone.co.th/

ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น


กำจัดไรฝุ่น ต้องต้องใช้สารเคมีหรือไม่
ไรฝุ่น เป็นชื่อของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในระดับที่ตาดูไม่เห็น มันเล็กมากมาก ประมาณ 1/100 ของหน่วยวัดความยาวเป็นนิ้ว
แต่ถึงตัวมันจะจี๊ดก็ส่งผลต่อคนเราในระดับที่ไม่อาจละเลย เพราะเจ้าสัตว์ขนาดกระจิดริดชนิดนี้แหละเป็นตัวทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้
ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ได้ เพราะว่าไรฝุ่นจะเกิดสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจอักเสบ เป็นหวัดเรื้อรัง
มีอาการคันแลเคืองในดวงตา ตาแดง มีอาการโรคหอบหืด ไมเกรน และอาการผื่นคันตามผิวหนัง และไรฝุ่นสามารถ
แพร่ขยายขยายพันธุ์ได้อย่างโดยทันทีภายในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะมันชอบอาศัยอยู่ตามผ้า หรือในสิ่งที่มีเส้นใย และที่มันชอบ
มาอยู่ในถิ่นที่มีคนเข้าอยู่อยู่มากก็คือ มันกินเศษผิวหนังที่หลุดออกของมนุษย์เราเป็นอาหาร ! ด้วยเหตุนั้นในที่ๆ มีคน มีเส้นใย
จึงเป็นไปได้ที่จะมีไรฝุ่นเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลร้ายต่อสุขภาพ ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องหาวิธี กำจัดไรฝุ่น
ให้ออกไปให้พ้นจากที่อยู่อาศัย และการ กำจัดไรฝุ่น ที่นิยมกันก็คือสารใช้สารเคมี ซึ่งบางคนก็กังวลในเรื่องผลกระทบ
ต่อร่างกายของเราด้วย อย่างไรก็ตามการ กำจัดไรฝุ่น มีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง ไม่ได้มีแค่ วิธี กำจัดไรฝุ่น ที่ต้องใช้สารเคมีแค่นั้น
วิธีการ กำจัดไรฝุ่น แบบไม่จำเป็นจะต้องใช้สารเคมี ได้แก่...
1.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยแสงแดด ไรฝุ่นมีขนาดที่เล็กไม่ทนทานต่อความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ การนำเอาสิ่งที่เป็นผ้า
หรือเส้นใยไปตากแดด สามารถ กำจัดไรฝุ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยการซักในน้ำร้อน การนำเอาผ้าที่สัมผัสกับร่างกายของเราเป็นประจำจำพวกผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ผ้าห่ม หรืออื่นๆ ไปซักด้วยน้ำร้อน ทุกๆ 2 อาทิตย์ ช่วยในการ กำจัดไรฝุ่น ได้เหมือนกัน
3.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วย เครื่องดูดไรฝุ่น เป็นเครื่องมือที่ถูกปฏิรูปขึ้นมาเพื่อจัดการ กำจัดไรฝุ่น โดยเฉพาะ แต่อาจจะ
มีราคาสูงอยู่บ้างในการที่จะซื้อเอามาใช้งาน แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่คุ้มค่าทีเดียว
4.การใช้ เครื่องฟอกอากาศ ที่มีระบบ กำจัดไรฝุ่น ซึ่งนอกจากสามาร กำจัดไรฝุ่น แล้ว ก็ยังช่วยในเรื่องการดูดกลิ่น
ทำให้อากาศสะอาดสดชื่นได้อีกด้วย แต่ก็แน่นอนว่ามีราคาสูง
5.ใช้ผ้าป้องกันไรฝุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกวิวัฒน์ขึ้นมาเพื่อป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ สมัยปัจจุบันมีปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน
ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ออกมาซื้อขาย
นี่เป็นวิธีการที่คนสามารถใช้ กำจัดไรฝุ่น หรือปกป้องไม่ให้มันกลายมาเป็นปัญหากับอนามัยของเราโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กําจัดไรฝุ่น

ขอบคุณบทความจาก : http://praiya.lnwshop.com/product/4/ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น-สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น-mite-klean

พิมพ์ใบปลิว

พิมพ์ใบปลิวสื่อโฆษณาที่เจอะเจอ

การพิมพ์ใบปลิวนับเป็นโฆษณาที่เจอได้บ่อยมากในแต่ละวัน เชื่อว่าในทุกวันๆที่ท่านเดินทางไปทำงานหรือ
เดินเล่นตามสถานต่างๆ ในวันหยุด คุณจะได้พบเจอการจ่ายแจกใบปลิวเสมอไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า
หรือแม้แต่หน้าออฟฟิศทำงาน เมื่อคุณได้รับแจกจ่ายสิ่งพิมพ์ใบปลิวเหล่านั้นมีบางครั้งคุณอาจจะสนใจในสินค้าหรือการ
พีอาร์ในใบปลิวนั้นหรือบางเวลาอาจจะทิ้งมันไปโดยไม่ใยดีเลยก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างน้อยเมื่อคุณได้รับ
ใบปลิวเข้ามาในมือแล้วคุณก็จะต้องก้มมองดูหรืออ่านใบปลิวผ่านตาบ้าง ซึ่งนั่นเป็นจุดหลักของใบปลิวที่ทำให้การพิมพ์
ใบปลิวยังคงเป็นที่นิยมกันแง่การตลาดอยู่ทุกวันนี้
งานพิมพ์ใบปลิวแต่เดิมตรงนั้นมีรากศัพท์มาจากคำว่า “Fliers”หรือก็คือแผ่นกระดาษที่ใช้โปรยจ่ายแจกนั่นเอง ซึ่งมักจะ
มีประเด็นมากกว่ารูปภาพ โดยจะจุดสำคัญหาในเชิงที่ปกปิดไม่ระบุชื่อผู้เขียนใช้ในการเชิญชวน จูงใจ มักจะเป็นในแง่การเมือง
เป็นต้น ซึ่งอาจจะเคยได้พบตามภาพยนตร์ย้อนสมัย แต่ต่อมาในปัจจุบันสิ่งพิมพ์ใบปลิวได้เปลี่ยนแปลงไปในแง่ความหมายเป็น
คำว่า “Leaflet Handbill”ที่เป็นสิ่งพิมพ์ขนาดเล็กคล้ายกับใบไม้โดยมีขนาดพอดีมือ จากเนื้อหาที่ปกปิดก็ถูกเปลี่ยนไป
ใช้ในการโฆษณาจูงใจโดยเปิดเผย การโปรยก็เปลี่ยนเป็นงานแจกหรือส่งจดหมายเพื่อให้เหมาะตามยุคสมัย เพราะคงไม่ดี
แน่หากจะโปรยทิ้งให้เป็นขยะตามถนนหนทาง
แม้งานเปลี่ยนแปลงด้านการใช้งานจะถูกปรับตามเวลา แต่ลักษณะทางกายภาพของสิ่งพิมพ์ใบปลิวยังคง
เหมือนเดิม สิ่งพิมพ์ใบปลิวนั้นต้องมีเป็นกระดาษหรือเอกสารใบเดียวโดยไม่มีการพับหรือรวมเล่มใดๆ นอกจากนั้นจะ
ปรับแต่งอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา ขนาด หรือกลุ่มของกระดาษก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สร้างเอง ซึ่งสมัยปัจจุบันแล้ว
งานพิมพ์ใบปลิวมักจะไม่ค่อยเน้นเนื้อหาแต่จะเน้นเฉพาะเนื้อความที่สำคัญหรือรูปภาพเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้เกิดความ
น่าสนใจและไม่ทำให้ดูน่าเบื่อเกินไป เช่น หากเป็นงานโฆษณาร้านอาหารใหม่ ก็อาจจะเน้นให้มีรูปบรรยากาศร้านอาหาร
รูปเมนูอาหาร รูปแผนที่การเที่ยว โดยเนื้อหาก็นิยมระบุเพียงคำบรรยายถึงบรรยากาศและรสชาติอาหารเพียงไม่กี่
ประโยค รวมถึงวิธีการไปอย่างย่อและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อสื่อสาร เป็นต้น
งานพิมพ์ใบปลิวนั้นนับได้ว่าเป็นการจัดทำสื่อโฆษณาประเภทสิ่งพิมพ์ที่ถูกที่สุด หากไม่กำหนดประเภทหรือ
ขนาดกระดาษที่แพงจนเกินไป ซึ่งโดยมากมักจะใช้ขนาด A4 เป็นมาตรฐานเพราะความง่ายในด้านการพิมพ์และขนาด
ไม่ใหญ่หรือเล็กจนมากเกินไป รวมถึงกระดาษก็จะใช้กระดาษธรรมดา เช่น กระดาษอาร์ตมัน กระดาษปอนด์ โดยมีความหนา
ประมาณ 80 แกรม เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะงานพิมพ์ใบปลิวตรงนั้นจะเน้นที่ปริมาณมากกว่า ดังนั้นโดยมากจะไม่ค่อย
เน้นในการแต่งเติมพิเศษประเภทการเคลือบผิวเพราะไม่ได้เน้นด้านความทนทานเท่าใดนัก ด้านความเรียบร้อยส่วนใหญ่
จะเรื่องของการของออกแบบไฟล์งานพิมพ์เสียเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ดีความงามเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างแรงดึงดูดในการ
อ่านเป็นอย่างมากจึงไม่น่าละเลย
สำหรับวิธีการใช้งานสิ่งพิมพ์ใบปลิวนั้นมีความสำคัญไม่แพ้กัน พวกคุณเคยพินิจหรือไม่ว่าแม้ทางด้าน
จิตวิทยาแล้วหากมีการรับใบปลิวเข้ามาข้างในมือแล้วอย่างน้อยต้องดูผ่านตาบ้าง ซึ่งคุณจะสนใจหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่มี
หลายครั้งที่พบว่าบางคนได้รับใบปลิวเข้ามาแล้วทิ้งขว้างทันทีทันใดในเวลานั้นเลยหรือปฏิเสธที่จะรับทันที สิ่งที่สำคัญในการแจกจ่าย
ใบปลิวแล้วนอกจากจะเลือกที่มีผู้คนเนืองแน่นแล้วต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของสถานที่และช่วงเวลาด้วย โดย
ส่วนมากผู้จ่ายแจกมักจะละเลยในจุดๆ นี้ เช่น แจกจ่ายใบปลิวตอนช่วงเวลาเร่งด่วนซึ่งโดยมากผู้คนกำลังรีบ เป็นต้น การพิมพ์
ใบปลิวแจกจ่ายนั้นพึงตรวจดูองค์ประกอบต่างๆ ร่วมด้วยเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.pimplernprint.com/เเผ่นพับ_ใบปลิว_Digital_Offset/

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)เพิ่มยอดขาย
งานจัดจำหน่ายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำกิจธุระเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการอธิบายให้ลูกค้าทราบได้ว่าองค์กรของเรานั้นขายอะไร มีจุดแข็งอย่างไร แต่การ
อธิบายลูกค้าด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่บรรยายได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำสินค้าและการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมรายละเอียด เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ปัจจุบันนี้จะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการบรรยายมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความสะดวกโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาคล่อง ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ใหม่ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังอาจจดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีรูปร่างเป็นสิ่งพิมพ์ที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาเรื่องประกอบเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มจำพวกอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
จุดมุ่งหมายการใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นสาระในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละชนิดขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มอย่างแน่ชัดเพื่อให้ง่ายต่อการสืบแสวงหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานเสนอผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและทำจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความละเอียดลออเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งส่วนเพิ่มเติมส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนตรงนี้เป็นด้านที่แสดงและสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การเลือกใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเค้าความ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษลักษณะอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการเสริมแต่งใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องมุ่งเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อปกป้องรักษาความยับเยินจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะตรงนี้เป็นเหล่านี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเปรอะเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปภาพอธิบายจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถสังเกตลอดเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนผลิตภัณฑ์จริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดข้อสงสัยกับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความเก่งพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดขนาดเล่มให้มีสัดส่วนเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องเสนอมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง
ขนาดเล่มกับสัดส่วนภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีขนาดที่ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นได้ชัดเจนโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการสุดท้ายนี้คือความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับขนาดตัวหนังสือ เป็นส่วนใหญ่การเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีคำถาม แต่สำหรับสินค้าบางลักษณะหรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการขยายความในเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถสังเกตเห็นและอ่านได้สบาย อาจจะต้องมีเทคนิคการจัดเตรียมรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องพินิจพิจารณาร่วมในการออกแบบและกำหนดขนาด
ซึ่งขนาดของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดโดยประมาณกระดาษ A6 โดยขนาดที่ใช้
เสมอที่สุดคือ A4 เพราะมีขนาดที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงง่ายในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงโอกาสการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อเกิดคุณค่าสูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนค่อนข้างจะสูง ซึ่งหากให้จัดแจงพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะเจาะจงเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นเจ้าประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างติดต่อ หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงชื่อมีความต้องการข่าวสาร เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการส่งมอบกับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการสนองตอบมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางแบบอาจจะใช้การเตรียมพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยจัดเตรียมแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านค้าเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาซักถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนจัดจำหน่าย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้



เครดิต : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

รับทำเว็บไซต์ ราคาถูก

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สี ต้องสื่อความเข้าใจชัดเจน
สำหรับคนที่ทำงาน รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องให้เหตุสำคัญก็คือ การรับฟังความพึงประสงค์ของผู้ที่มาจ้าง
เราให้ รับทำเว็บไซต์ ให้เข้าใจชัดเจน เมื่อทราบเป้าหมายในการใช้งานของเราแล้ว เราจึงจะสามารถเริ่มการงาน รับทำเว็บไซต์
และออกแบบเว็บไซต์ ได้ตรงตามที่เขาต้องการทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องอื่นที่เราจะต้องตั้งอกตั้งใจที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยอีก
หลายอย่างเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ตรงตามที่เขาประสงค์มากที่สุด ไม่ต้องกลับมาแก้ไขงานให้เสียเวลา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ เรื่องของ
การสื่อสารของเว็บไซต์ !
การติดต่อสื่อสารในการทำงาน รับทำเว็บไซต์ เหนือจากการใช้เนื้อความหรือภาพอธิบายให้ผู้ใช้งานทราบ
คำจำกัดความแล้ว ก็ยังมีเรื่องของ “สี” เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีผลกับอารมณ์ความรู้สึกและความราบรื่นของผู้ใช้งาน
เว็บไซต์เป็นอย่างมาก เว็บที่เรา รับทำเว็บไซต์ ขึ้นมาจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย หากไม่มีสีสันที่ชวนมองให้คนอยากใช้งาน และ
จะยิ่งแย่กว่า หากสีของตัวหนังสือและสีของพื้นหลังไม่เข้ากัน บางทีเราใช้ตัวหนังสือสีอ่อน กับสีของพื้นหลังที่มีความ
สว่าง มันก็ทำให้ข้อความอ่านได้ลำบาก ตัวหนังสือสีเข้มกับพื้นหลังสีทึบก็เช่นเดียวกัน นี่เป็นเรื่องที่ผู้ รับทำเว็บไซต์ ต้อง
ศึกษาและทำความเข้าใจเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้สามารถ รับทำเว็บไซต์ และออกแบบเว็บไซต์ ให้มีหน้าตาสีสัน และโครง
ที่แยบยลใช้งานได้ง่าย
นอกจากนี้ สี ยังมีส่วนให้การจูงใจความเข้าใจ สี มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของคนเราจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการบำบัด
ด้วยสี หรือที่เรียกว่า Color Therapy การ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ ก็เสมือนการผลิตหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ต้องมีการ ออกแบบรูปเล่มให้มีสีสันที่สวยชวนมองและน่าซื้อ เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการเลือกแบบของสีที่
พอเหมาะ การสื่อความหมายเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเห็นเกิดความรู้สึกคล้อยตาม ก็จะเป็นไปได้ยากลำบาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในตัวปัญหาที่ผู้
รับทำเว็บไซต์ ต้องประสบกับตัวปัญหาการถูกขอให้แก้งานจากผู้จ้างให้ รับทำเว็บไซต์ ที่พบได้บ่อย ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะไม่
เข้าใจในเรื่องงานออกแบบดีเท่าเรา แต่ หากว่าผู้จ้างเห็นหน้าตาเว็บไซต์ที่ เรา รับทำเว็บไซต์ ให้ แล้วเกิดความเห็นว่ามันขัดๆ
ยังไม่สวย ไม่น่าใช้ อันนี้ก็ทำให้เกิดการร้องขอให้เราแก้ไขเว็บไซต์ได้เช่นกัน นั่นก็ทำให้งาน รับทำเว็บไซต์ ของเรายากเข้าไปอีก
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่เราควรทำพร้อมๆ กับการซักถามความต้องการในการใช้งานให้ชัดเจนแล้ว
เราจะต้องนำเอาต้นแบบของ “สี” และรูปแบบหน้าตาของตัวหนังสือมาให้ผู้จัดจ้างให้ เรา รับทำเว็บไซต์ เขาได้มีส่วนใน
การเลือกด้วย พร้อมทั้งปรึกษาหารือกันในเรื่องความหมายที่ต้องการสื่อ เพื่อที่เราจะได้สามารถออกแบบเว็บไซต์ที่ตรงกับใจและเหมาะสม
ในการใช้การทำงานให้ได้มากที่สุด

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รับทำเว็บไซต์ ราคาถูก

ที่มา : https://www.makewebzone.com/service-website.html

รับทำเว็บไซต์|ออกแบบเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สี ต้องสื่อความรู้ชัดเจน
สำหรับคนที่ทำงาน รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญก็คือ การรับฟังความต้องการของผู้ที่มาจ้าง
เราให้ รับทำเว็บไซต์ ให้เข้าใจชัดเจน เมื่อทราบจุดมุ่งหมายในการใช้งานของเราแล้ว เราจึงจะสามารถตั้งต้นงาน รับทำเว็บไซต์
และออกแบบเว็บไซต์ ได้ตรงจุดตามที่เขาต้องการทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องอื่นที่เราจะต้องเอาใจจดจ่อที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยอีก
หลายอย่างเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ถูกต้องตามที่เขาต้องประสงค์มากที่สุด ไม่ต้องกลับมาแก้งานให้เสียเวลา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ เรื่องของ
การสื่อสารของเว็บไซต์ !
การติดต่อในการทำงาน รับทำเว็บไซต์ เหนือจากการใช้ข้อความหรือภาพนำเสนอให้ผู้ใช้งานทราบ
ความหมายแล้ว ก็ยังมีเรื่องของ “สี” เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีผลกับอารมณ์ความเข้าใจและความสบายของผู้ซื้อใช้งาน
เว็บไซต์เป็นอย่างมาก เว็บที่เรา รับทำเว็บไซต์ ขึ้นมาจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย หากไม่มีสีสันที่ดึงดูดใจให้คนอยากใช้งาน และ
จะยิ่งแย่กว่า หากสีของตัวหนังสือและสีของพื้นหลังไม่เข้ากัน บางทีเราใช้ตัวหนังสือสีอ่อน กับสีของพื้นหลังที่มีความ
สว่าง มันก็ทำให้ข้อความอ่านได้ยาก ตัวหนังสือสีเข้มกับพื้นหลังสีทึบก็เช่นกัน นี่เป็นใจความสำคัญที่ผู้ รับทำเว็บไซต์ ต้อง
เรียนรู้และทำความเข้าใจเก่งเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้สามารถ รับทำเว็บไซต์ และออกแบบเว็บไซต์ ให้มีหน้าตาสีสัน และรูปแบบ
ที่พอเหมาะใช้งานได้ง่าย
นอกจากนี้ สี ยังมีส่วนให้การสนับสนุนความเข้าใจ สี มีผลต่ออารมณ์ความเข้าใจของคนเราจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการบำบัด
ด้วยสี หรือที่เรียกว่า Color Therapy การ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ ก็ยังกับการผลิตหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ต้องมีการ ออกแบบรูปเล่มให้มีสีสันที่เรียบร้อยชวนมองและน่าซื้อ เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการเลือกแบบของสีที่
พอเหมาะ การสื่อความหมายเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาดูเกิดความรู้สึกคล้อยตาม ก็จะเป็นไปได้ยาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในโจทย์ที่ผู้
รับทำเว็บไซต์ ต้องพบกับปัญหาการถูกขอให้แก้งานจากผู้ว่าจ้างให้ รับทำเว็บไซต์ ที่พบได้บ่อย ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะไม่
เข้าใจในเรื่องการดีไซน์ดีเท่าเรา แต่ หากว่าผู้จ้างเห็นหน้าตาเว็บไซต์ที่ เรา รับทำเว็บไซต์ ให้ แล้วเกิดความเข้าใจว่ามันขัดๆ
ยังไม่สวย ไม่น่าใช้ อันนี้ก็ทำให้เกิดการร้องขอให้เราปรับเว็บไซต์ได้เช่นกัน นั่นก็ทำให้งาน รับทำเว็บไซต์ ของเราลำบากเข้าไปอีก
เช่นนั้นก่อนที่จะ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่เราควรทำพร้อมๆ กับการซักถามความต้องการในการใช้งานให้ชัดเจนแล้ว
เราจะต้องนำเอาแบบของ “สี” และแบบอย่างหน้าตาของตัวหนังสือมาให้ผู้จ้างให้ เรา รับทำเว็บไซต์ เขาได้มีส่วนใน
การเลือกด้วย พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นกันในเรื่องความหมายที่ต้องการสื่อ เพื่อที่เราจะได้สามารถออกแบบเว็บไซต์ที่ตรงกับใจและเหมาะสม
ในการใช้การทำงานให้ได้มากที่สุด



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://makezone.co.th/

ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น


กำจัดไรฝุ่น จำต้องต้องใช้สารเคมีหรือไม่
ไรฝุ่น คือชื่อของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในระดับที่ตาเพ่งดูไม่เห็น มันจี๊ดมาก ประมาณ 1/100 ของหน่วยวัดความยาวเป็นนิ้ว
แต่ถึงตัวมันจะเล็กก็ส่งผลต่อคนเราในระดับที่ไม่อาจละเลย เพราะเจ้าสัตว์ขนาดอนุชนิดนี้แหละเป็นตัวทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้
ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนได้ เพราะไรฝุ่นจะกำเนิดสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจอักเสบ เป็นหวัดเรื้อรัง
มีอาการคันแลระคายเคืองในดวงตา ตาแดง มีอาการโรคหอบหืด ไมเกรน และอาการผื่นคันตามผิวหนัง และไรฝุ่นสามารถ
แพร่กระจายขยายพันธุ์ได้อย่างเร็วภายในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะมันชอบอาศัยอยู่ตามผ้า หรือในสิ่งที่มีเส้นใย และที่มันชอบ
มาอยู่ในที่อยู่ที่มีคนอยู่อาศัยอยู่มากก็คือ มันกินเศษผิวหนังที่หลุดออกของคนเราเป็นอาหาร ! ดังนั้นในที่ๆ มีคน มีเส้นใย
จึงเป็นไปได้ที่จะมีไรฝุ่นเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องหาวิธี กำจัดไรฝุ่น
ให้ออกไปให้พ้นจากที่พักอาศัย และการ กำจัดไรฝุ่น ที่นิยมกันก็คือสารใช้สารเคมี ซึ่งบางคนก็กังวลใจในเรื่องผลกระทบ
ต่อร่างกายของคนด้วย อย่างไรก็ตามการ กำจัดไรฝุ่น มีอยู่ด้วยกันหลายวิถีทาง ไม่ได้มีแค่ วิธี กำจัดไรฝุ่น ที่ต้องใช้สารเคมีอย่างเดียว
วิธีการ กำจัดไรฝุ่น แบบไม่ต้องใช้สารเคมี ได้แก่...
1.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยแสงแดด ไรฝุ่นมีขนาดที่เล็กไม่ทนทานต่อความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ การนำเอาสิ่งที่เป็นผ้า
หรือเส้นใยไปตากแดด สามารถ กำจัดไรฝุ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยการซักในน้ำร้อน การนำเอาผ้าที่สัมผัสกับร่างกายของเราเป็นประจำอย่างผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ผ้าห่ม หรืออื่นๆ ไปซักด้วยน้ำร้อน ทุกๆ 2 อาทิตย์ ช่วยในการ กำจัดไรฝุ่น ได้เช่นเดียวกัน
3.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วย เครื่องดูดไรฝุ่น เป็นเครื่องมือที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาเพื่อจัดการ กำจัดไรฝุ่น โดยเฉพาะ แต่อาจจะ
มีราคาสูงอยู่บ้างในการที่จะซื้อเอามาใช้งาน แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่คุ้มค่าทีเดียว
4.การใช้ เครื่องฟอกอากาศ ที่มีระบบ กำจัดไรฝุ่น ซึ่งนอกจากสามาร กำจัดไรฝุ่น แล้ว ก็ยังสนับสนุนในเรื่องการดูดกลิ่น
ทำให้อากาศใสสะอาดสดชื่นได้อีกด้วย แต่ก็แน่นอนว่ามีสนนราคาสูง
5.ใช้ผ้าป้องกันไรฝุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกเจริญขึ้นมาเพื่อป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ ยุคปัจจุบันมีปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน
ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ออกมาขาย
นี่เป็นวิธีการที่คนสามารถใช้ กำจัดไรฝุ่น หรือปกป้องไม่ให้มันกลายมาเป็นปัญหากับอนามัยของเราโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผลิตภัณฑ์กําจัดไรฝุ่น

เครดิต : http://praiya.lnwshop.com/product/4/ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น-สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น-mite-klean

พิมพ์ใบปลิว

พิมพ์ใบปลิวโฆษณาที่เจอ

การพิมพ์ใบปลิวนับเป็นสื่อโฆษณาที่พบได้บ่อยมากในแต่ละวัน เชื่อว่าในทุกวันๆที่ท่านเดินทางไปทำงานหรือ
เดินเล่นตามสถานต่างๆ ในวันหยุด คุณจะได้พบเจอการแจกใบปลิวเสมอไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า
หรือแม้แต่หน้าออฟฟิศทำงาน เมื่อคุณได้รับแจกจ่ายสิ่งพิมพ์ใบปลิวเหล่านั้นมีบางครั้งคุณอาจจะสนใจในผลิตภัณฑ์หรือการ
พีอาร์ในใบปลิวนั้นหรือบางครั้งอาจจะทิ้งมันไปโดยไม่ใยดีเลยก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างน้อยเมื่อคุณได้รับ
ใบปลิวเข้ามาในมือแล้วคุณก็จะต้องก้มมองหรืออ่านใบปลิวผ่านตาบ้าง ซึ่งนั่นเป็นข้อดีของใบปลิวที่ทำให้การพิมพ์
ใบปลิวยังคงเป็นที่นิยมกันแง่การตลาดอยู่ทุกวันนี้
การพิมพ์ใบปลิวแต่เดิมตรงนั้นมีรากศัพท์มาจากคำว่า “Fliers”หรือก็คือแผ่นกระดาษที่ใช้โปรยจ่ายแจกนั่นเอง ซึ่งมักจะ
มีประเด็นมากกว่ารูปภาพ โดยจะประเด็นหาในเชิงที่ปกปิดไม่ระบุชื่อผู้เขียนใช้ในการเชิญชวน จูงใจ มักจะเป็นในแง่การเมือง
เป็นต้น ซึ่งอาจจะเคยได้พบตามภาพยนตร์ย้อนยุค แต่ต่อมาในปัจจุบันนี้สิ่งพิมพ์ใบปลิวได้เปลี่ยนไปในแง่ความหมายเป็น
คำว่า “Leaflet Handbill”ที่เป็นงานพิมพ์ขนาดเล็กคล้ายกับใบไม้โดยมีขนาดพอดีมือ จากเนื้อหาที่ปกปิดก็ถูกเปลี่ยนไป
ใช้ในการสื่อโฆษณาจูงใจโดยเปิดเผย การโปรยก็เปลี่ยนเป็นงานจ่ายแจกหรือส่งจดหมายเพื่อให้เหมาะตามยุคสมัย เพราะคงไม่ดี
แน่หากจะโปรยทิ้งให้เป็นขยะตามทางสัญจร
แม้งานเปลี่ยนแปลงพวกการใช้งานจะถูกปรับตามยุคสมัย แต่ประเภททางกายภาพของสิ่งพิมพ์ใบปลิวยังคง
เหมือนเดิม สิ่งพิมพ์ใบปลิวนั้นต้องมีเป็นกระดาษหรืองานพิมพ์ใบเดียวโดยไม่มีงานพับหรือรวมเล่มใดๆ นอกจากนั้นจะ
ปรับแต่งอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา ขนาด หรือประเภทของกระดาษก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้จัดทำเอง ซึ่งประจุบันแล้ว
งานพิมพ์ใบปลิวมักจะไม่ค่อยเน้นเนื้อหาแต่จะเน้นเฉพาะเนื้อความที่สำคัญหรือรูปภาพเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้เกิดความ
น่าสนใจและไม่ทำให้ดูน่าเบื่อเกินไป เช่น หากเป็นงานโฆษณาร้านอาหารใหม่ ก็อาจจะเน้นให้มีรูปบรรยากาศร้านอาหาร
รูปเมนูอาหาร รูปแผนที่การเที่ยว โดยเนื้อหาก็นิยมระบุเพียงคำบรรยายถึงบรรยากาศและรสชาติอาหารเพียงไม่กี่
ประโยค รวมถึงวิธีการไปอย่างย่อและเบอร์โทรศัพท์สื่อสาร เป็นต้น
การพิมพ์ใบปลิวนั้นนับได้ว่าเป็นการจัดทำโฆษณาประเภทสิ่งพิมพ์ที่ถูกที่สุด หากไม่กำหนดประเภทหรือ
ขนาดกระดาษที่แพงจนเกินไป ซึ่งโดยมากมักจะใช้ขนาด A4 เป็นมาตรฐานเพราะความสบายในด้านการพิมพ์และขนาด
ไม่ใหญ่หรือเล็กจนมากเกินไป รวมถึงกระดาษก็จะใช้กระดาษธรรมดา เช่น กระดาษอาร์ตมัน กระดาษปอนด์ โดยมีความหนา
ประมาณ 80 แกรม เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะงานพิมพ์ใบปลิวตรงนั้นจะเน้นที่ปริมาณมากกว่า ดังนั้นโดยมากจะไม่ค่อย
เน้นในการแต่งแต้มพิเศษประเภทการเคลือบผิวเพราะไม่ได้เน้นด้านความทนทานเท่าใดนัก ด้านความสวยงามส่วนใหญ่
จะเรื่องของการของออกแบบไฟล์งานพิมพ์เสียเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ดีความสวยเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างแรงดึงดูดในการ
อ่านเป็นอย่างมากจึงไม่น่าละเลย
สำหรับวิธีการใช้งานสิ่งพิมพ์ใบปลิวนั้นมีความสำคัญไม่แพ้กัน พวกคุณเคยเห็นหรือไม่ว่าแม้ทางด้าน
จิตวิทยาแล้วหากมีการรับใบปลิวเข้ามาภายในมือแล้วอย่างน้อยต้องดูผ่านตาบ้าง ซึ่งคุณจะสนใจหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่มี
หลายครั้งที่พบว่าบางคนได้รับใบปลิวเข้ามาแล้วทิ้งขว้างทันใดในเวลานั้นเลยหรือปฏิเสธที่จะรับทันที สิ่งที่สำคัญในงานจ่ายแจก
ใบปลิวแล้วนอกจากจะเลือกที่มีผู้คนขวักไขว่แล้วต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของสถานที่และช่วงเวลาด้วย โดย
ส่วนมากผู้จ่ายแจกมักจะละเลยในจุดๆ นี้ เช่น แจกจ่ายใบปลิวตอนช่วงเวลาเร่งด่วนซึ่งโดยมากผู้คนกำลังรีบ เป็นต้น งานพิมพ์
ใบปลิวจ่ายแจกนั้นพึงตรวจดูองค์ประกอบต่างๆ ร่วมด้วยเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.pimplernprint.com/เเผ่นพับ_ใบปลิว_Digital_Offset/

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)ราคาถูก
งานขายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจการค้าเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการชี้แจงให้ลูกค้าทราบได้ว่าองค์กรของเรานั้นขายอะไร มีสาระสำคัญอย่างไร แต่การ
อธิบายผู้บริโภคด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ชี้แจงได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมรายละเอียดปลีกย่อย เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ยุคปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการนำเสนอมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความราบรื่นโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาสะดวก ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้อีกครั้ง สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังทำได้จดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีรูปพรรณเป็นเอกสารที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหารายละเอียดเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มพันธุ์อื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
จุดประสงค์การใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นใจความในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละประเภทขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มอย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการสืบแสวงหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานอธิบายสินค้าเป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและสร้างจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความประณีตบรรจงเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งองค์ประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นด้านที่แสดงและสร้างแรงชักชวนใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การเลือกสรรใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเนื้อหาสาระ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษลักษณะอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการแต่งแต้มใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องมุ่งเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อดูแลรักษาความเยินจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะนี้เป็นประเด็นนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเปรอะเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปภาพอธิบายจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถมองทะลุเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนผลิตภัณฑ์จริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหากับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความจัดเจนพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกตรงนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดขนาดเล่มให้มีสัดส่วนเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องบรรยายมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้เซ็งและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง
ขนาดเล่มกับสัดส่วนภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีขนาดที่ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ถนัดตาโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการสุดท้ายคือความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับขนาดตัวหนังสือ ส่วนมากการตระเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีคำถาม แต่สำหรับสินค้าบางลักษณะหรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการชี้แจงเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถเห็นและอ่านได้สบาย อาจจะต้องมีเคล็ดการเตรียมรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องพิจารณาร่วมในการออกแบบและกำหนดสัดส่วน
ซึ่งสัดส่วนของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดคร่าวๆกระดาษ A6 โดยขนาดที่ใช้
เรื่อยที่สุดคือ A4 เพราะมีขนาดที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงสบายในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงลู่ทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อให้เกิดคุณประโยชน์สูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนมักสูง ซึ่งหากให้เตรียมพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มค่าที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะกำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นขาประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างต่อเนื่อง หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงทะเบียนมีความต้องการข่าวคราว เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการส่งมอบกับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการตอบกลับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางแบบอาจจะใช้การจัดพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยตระเตรียมแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านค้าเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาสอบถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนจัดจำหน่าย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์แคตตาล็อก วารสาร

ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

รับทำเว็บไซต์ ราคาถูก

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สี ต้องสื่อความเข้าใจชัดเจน
สำหรับคนที่ทำงาน รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องให้เรื่องสำคัญก็คือ การรับฟังความต้องการของผู้ที่มาจ้าง
เราให้ รับทำเว็บไซต์ ให้เข้าใจชัดเจน เมื่อทราบจุดมุ่งหมายในการใช้งานของเราแล้ว เราจึงจะสามารถเริ่มทำงาน รับทำเว็บไซต์
และออกแบบเว็บไซต์ ได้ตรงจุดตามที่เขาต้องการทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องอื่นที่เราจะต้องเอาใจใส่ที่เป็นรายละเอียดอีก
หลายอย่างเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ถูกต้องตามที่เขาประสงค์มากที่สุด ไม่ต้องกลับมาแก้งานให้เสียเวลา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ เรื่องของ
การสื่อสารของเว็บไซต์ !
การติดต่อในการทำงาน รับทำเว็บไซต์ นอกเหนือจากการใช้หัวเรื่องหรือภาพนำเสนอให้ผู้ใช้งานทราบ
คำอธิบายศัพท์แล้ว ก็ยังมีเรื่องของ “สี” เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีผลกับอารมณ์จิตใจและความสะดวกของผู้ใช้งาน
เว็บไซต์เป็นอย่างมาก เว็บที่เรา รับทำเว็บไซต์ ขึ้นมาจะไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย หากไม่มีสีสันที่ชวนมองให้คนอยากใช้งาน และ
จะยิ่งแย่กว่า หากสีของตัวหนังสือและสีของพื้นหลังไม่สัมพันธน์กัน บางทีเราใช้ตัวหนังสือสีอ่อน กับสีของพื้นหลังที่มีความ
สว่าง มันก็ทำให้ข้อความอ่านได้ยากลำบาก ตัวหนังสือสีเข้มกับพื้นหลังสีทึบก็เหมือนกัน นี่เป็นประเด็นที่ผู้ รับทำเว็บไซต์ ต้อง
เรียนรู้และทำความเข้าใจเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้สามารถ รับทำเว็บไซต์ และออกแบบเว็บไซต์ ให้มีหน้าตาสีสัน และรูปแบบ
ที่พอเหมาะใช้งานได้ง่าย
นอกจากนี้ สี ยังมีส่วนให้การสนับสนุนความเข้าใจ สี มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของคนเราจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการบำบัด
ด้วยสี หรือที่เรียกว่า Color Therapy การ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ ก็เสมอเหมือนงานผลิตหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ต้องมีการ ออกแบบรูปเล่มให้มีสีสันที่สวยชวนมองและน่าซื้อ เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการเลือกแบบของสีที่
เหมาะสม การสื่อความหมายเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาดูเกิดความรู้สึกคล้อยตาม ก็จะเป็นไปได้ยาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในโจทย์ที่ผู้
รับทำเว็บไซต์ ต้องเจอะเจอกับข้อสงสัยการถูกขอให้แก้งานจากผู้จ้างให้ รับทำเว็บไซต์ ที่พบได้บ่อย ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะไม่
เข้าใจในเรื่องงานดีไซน์ดีเท่าเรา แต่ หากว่าผู้ว่าจ้างเห็นหน้าตาเว็บไซต์ที่ เรา รับทำเว็บไซต์ ให้ แล้วเกิดความเห็นว่ามันขัดๆ
ยังไม่สวย ไม่น่าใช้ อันนี้ก็ทำให้เกิดการร้องขอให้เราแก้เว็บไซต์ได้เช่นกัน นั่นก็ทำให้งาน รับทำเว็บไซต์ ของเราลำบากเข้าไปอีก
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่เราควรทำพร้อมๆ กับการติดต่อสอบถามความต้องการในการใช้งานให้ชัดเจนแล้ว
เราจะต้องนำเอารูปร่างของ “สี” และต้นแบบหน้าตาของตัวหนังสือมาให้ผู้จ้างให้ เรา รับทำเว็บไซต์ เขาได้มีส่วนใน
การเลือกด้วย พร้อมทั้งปรึกษาหารือกันในเรื่องความหมายที่ต้องการสื่อ เพื่อที่เราจะได้สามารถดีไซน์เว็บไซต์ที่ตรงกับใจและเหมาะสม
ในการใช้ธุรกิจให้ได้มากที่สุด

 



ที่มา : https://www.makewebzone.com/

ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น


กำจัดไรฝุ่น ขาดไม่ได้ต้องใช้สารเคมีหรือไม่
ไรฝุ่น คือชื่อของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในระดับที่ตาเพ่งดูไม่เห็น มันจิ๋วมาก ประมาณ 1/100 ของหน่วยวัดความยาวเป็นนิ้ว
แต่ถึงตัวมันจะเล็กกระจิดริดก็ส่งผลต่อคนเราในระดับที่ไม่อาจละเลย เพราะเจ้าสัตว์ขนาดเล็กมากชนิดนี้แหละเป็นตัวทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้
ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ได้ โดยไรฝุ่นจะกำเนิดสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นที่มาของโรคทางเดินหายใจอักเสบ เป็นหวัดเรื้อรัง
มีอาการคันแลระคายเคืองในดวงตา ตาแดง มีอาการโรคหอบหืด ไมเกรน และอาการผื่นคันตามผิวหนัง และไรฝุ่นสามารถ
แพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วภายในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะมันนิยมอาศัยอยู่ตามผ้า หรือในสิ่งที่มีเส้นใย และที่มันชอบ
มาอยู่ในแหล่งที่มีคนเข้าอยู่อยู่มากก็คือ มันกินเศษผิวหนังที่หลุดออกของมนุษย์เราเป็นอาหาร ! ฉันนั้นในที่ๆ มีคน มีเส้นใย
จึงเป็นไปได้ที่จะมีไรฝุ่นเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งโทษต่อสุขภาพ ดังนั้นมนุษย์จำเป็นที่จะต้องหาวิธี กำจัดไรฝุ่น
ให้ออกไปให้พ้นจากบ้านพักอาศัย และการ กำจัดไรฝุ่น ที่นิยมกันก็คือสารใช้สารเคมี ซึ่งบางคนก็หนักใจในเรื่องผลกระทบ
ต่อร่างกายของคนด้วย อย่างไรก็ตามการ กำจัดไรฝุ่น มีอยู่ด้วยกันหลายแบบ ไม่ได้มีแค่ วิธี กำจัดไรฝุ่น ที่ต้องใช้สารเคมีอย่างเดียว
วิธีการ กำจัดไรฝุ่น แบบไม่จำต้องใช้สารเคมี ได้แก่...
1.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยแสงแดด ไรฝุ่นมีขนาดที่เล็กไม่ทนทานต่อความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ การนำเอาสิ่งที่เป็นผ้า
หรือเส้นใยไปตากแดด สามารถ กำจัดไรฝุ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยการซักในน้ำร้อน การนำเอาผ้าที่สัมผัสกับร่างกายของเราเป็นประจำจำพวกผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ผ้าห่ม หรืออื่นๆ ไปซักด้วยน้ำร้อน ทุกๆ 2 อาทิตย์ ช่วยในการ กำจัดไรฝุ่น ได้ด้วย
3.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วย เครื่องดูดไรฝุ่น เป็นเครื่องมือที่ถูกปฏิรูปขึ้นมาเพื่อจัดการ กำจัดไรฝุ่น โดยเฉพาะ แต่อาจจะ
มีราคาสูงอยู่บ้างในการที่จะซื้อเอามาใช้งาน แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือที่คุ้มทีเดียว
4.การใช้ เครื่องฟอกอากาศ ที่มีระบบ กำจัดไรฝุ่น ซึ่งนอกจากสามาร กำจัดไรฝุ่น แล้ว ก็ยังช่วยในเรื่องการดูดกลิ่น
ทำให้อากาศสะอาดสดชื่นได้อีกด้วย แต่ก็แน่นอนว่ามีสนนราคาสูง
5.ใช้ผ้าป้องกันไรฝุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกวิวัฒน์ขึ้นมาเพื่อป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ ยุคปัจจุบันมีปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน
ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ออกมาขาย
นี่เป็นวิธีการที่มนุษย์สามารถใช้ กำจัดไรฝุ่น หรือคุ้มกันไม่ให้มันกลายมาเป็นปัญหากับอนามัยของเราโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กําจัดไรฝุ่น

ขอบคุณบทความจาก : http://praiya.lnwshop.com/product/4/ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น-สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น-mite-klean

รับทำเว็บไซต์|ออกแบบเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สี ต้องสื่อความรู้ชัดเจน
สำหรับคนที่ทำงาน รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องให้ข้อความสำคัญก็คือ การรับฟังความมุ่งหมายของผู้ที่มาจ้าง
เราให้ รับทำเว็บไซต์ ให้เข้าใจชัดเจน เมื่อทราบจุดประสงค์ในการใช้งานของเราแล้ว เราจึงจะสามารถตั้งต้นงาน รับทำเว็บไซต์
และออกแบบเว็บไซต์ ได้ตรงตามที่เขาต้องการทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องอื่นที่เราจะต้องเอาใจจดจ่อที่เป็นรายละเอียดอีก
หลายอย่างเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ตรงจุดตามที่เขามุ่งหมายมากที่สุด ไม่ต้องกลับมาซ่อมแซมงานให้เสียเวลา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ เรื่องของ
การสื่อความหมายของเว็บไซต์ !
การติดต่อในการทำงาน รับทำเว็บไซต์ เหนือจากการใช้หัวข้อหรือภาพเสนอให้ผู้ใช้งานทราบ
ความหมายแล้ว ก็ยังมีเรื่องของ “สี” เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีผลกับอารมณ์ความรู้สึกและความสะดวกของผู้ใช้งาน
เว็บไซต์เป็นอย่างมาก เว็บที่เรา รับทำเว็บไซต์ ขึ้นมาจะไม่ได้ผลอะไรเลย หากไม่มีสีสันที่ชวนมองให้คนอยากใช้งาน และ
จะยิ่งแย่กว่า หากสีของตัวหนังสือและสีของพื้นหลังไม่สัมพันธ์กัน บางทีเราใช้ตัวหนังสือสีอ่อน กับสีของพื้นหลังที่มีความ
สว่าง มันก็ทำให้ข้อความอ่านได้ลำบาก ตัวหนังสือสีเข้มกับพื้นหลังสีทึบก็ด้วย นี่เป็นประเด็นที่ผู้ รับทำเว็บไซต์ ต้อง
ศึกษาและทำความเข้าใจรอบรู้เป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้สามารถ รับทำเว็บไซต์ และออกแบบเว็บไซต์ ให้มีหน้าตาสีสัน และแบบ
ที่ลงตัวใช้งานได้ง่าย
นอกจากนี้ สี ยังมีส่วนให้การสนับสนุนความเข้าใจ สี มีผลต่ออารมณ์จิตใจของคนเราจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการบำบัด
ด้วยสี หรือที่เรียกว่า Color Therapy การ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ ก็ราวกับการผลิตหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ต้องมีการ ออกแบบรูปเล่มให้มีสีสันที่สวยชวนมองและน่าซื้อหา เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการเลือกแบบของสีที่
พอเหมาะ การสื่อความหมายเพื่อให้ผู้ที่เข้ามามองเกิดความรู้สึกคล้อยตาม ก็จะเป็นไปได้ยากลำบาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ผู้
รับทำเว็บไซต์ ต้องประสบกับโจทย์การถูกขอให้แก้งานจากผู้จ้างให้ รับทำเว็บไซต์ ที่พบได้บ่อย ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะไม่
เข้าใจในเรื่องงานออกแบบดีเท่าเรา แต่ หากว่าผู้ว่าจ้างเห็นหน้าตาเว็บไซต์ที่ เรา รับทำเว็บไซต์ ให้ แล้วเกิดความเข้าใจว่ามันขัดๆ
ยังไม่สวย ไม่น่าใช้ อันนี้ก็ทำให้เกิดการร้องขอให้เราเปรียนเว็บไซต์ได้เช่นกัน นั่นก็ทำให้งาน รับทำเว็บไซต์ ของเรายากลำบากเข้าไปอีก
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่เราควรทำพร้อมๆ กับการซักถามความต้องการในการใช้งานให้ชัดเจนแล้ว
เราจะต้องนำเอารูปร่างของ “สี” และรูปแบบหน้าตาของตัวหนังสือมาให้ผู้ว่าจ้างให้ เรา รับทำเว็บไซต์ เขาได้มีส่วนใน
การเลือกด้วย พร้อมทั้งปรึกษากันในเรื่องความหมายที่ต้องการสื่อ เพื่อที่เราจะได้สามารถดีไซน์เว็บไซต์ที่ตรงกับใจและเหมาะสม
ในการใช้ธุรกิจให้ได้มากที่สุด

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : บริการทำเว็บไซต์

ที่มา : https://makezone.co.th/

พิมพ์ใบปลิว

พิมพ์ใบปลิวโฆษณาที่พบเห็น

การพิมพ์ใบปลิวนับเป็นสื่อโฆษณาที่เจอะเจอได้บ่อยมากในแต่ละวัน เชื่อว่าในทุกวันๆที่ท่านเดินทางไปทำงานหรือ
เดินเล่นตามสถานที่ต่างๆ ในวันหยุด คุณจะได้พบเจอการแจกใบปลิวเสมอไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า
หรือแม้แต่หน้าออฟฟิศทำงาน เมื่อคุณได้รับจ่ายแจกสิ่งพิมพ์ใบปลิวเหล่านั้นมีบางครั้งคุณอาจจะสนใจในสินค้าหรือการ
การบอกข่าวในใบปลิวนั้นหรือบางหนอาจจะทิ้งมันไปโดยไม่ใยดีเลยก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างน้อยเมื่อคุณได้รับ
ใบปลิวเข้ามาในมือแล้วคุณก็จะต้องก้มดูหรืออ่านใบปลิวผ่านตาบ้าง ซึ่งนั่นเป็นจุดหลักของใบปลิวที่ทำให้การพิมพ์
ใบปลิวยังคงเป็นที่นิยมกันแง่การตลาดอยู่ทุกวันนี้
งานพิมพ์ใบปลิวแต่เดิมตรงนั้นมีรากศัพท์มาจากคำว่า “Fliers”หรือก็คือแผ่นกระดาษที่ใช้โปรยแจกจ่ายนั่นเอง ซึ่งมักจะ
มีจุดสำคัญมากกว่ารูปภาพ โดยจะเนื้อความหาในเชิงที่ปกปิดไม่ระบุชื่อผู้เขียนใช้ในการเชิญชวน จูงใจ มักจะเป็นในแง่การเมือง
เป็นต้น ซึ่งอาจจะเคยได้ดูตามภาพยนตร์ย้อนยุค แต่ต่อมาในสมัยปัจจุบันสิ่งพิมพ์ใบปลิวได้แปรผันไปในแง่ความหมายเป็น
คำว่า “Leaflet Handbill”ที่เป็นเอกสารขนาดเล็กคล้ายกับใบไม้โดยมีขนาดพอดีมือ จากเนื้อหาที่ปกปิดก็ถูกเปลี่ยนไป
ใช้ในการโฆษณาจูงใจโดยเปิดเผย การโปรยก็เปลี่ยนเป็นงานแจกจ่ายหรือส่งจดหมายเพื่อให้เหมาะตามยุคสมัย เพราะคงไม่ดี
แน่หากจะโปรยทิ้งให้เป็นขยะตามท้องถนน
แม้งานเปลี่ยนแปลงพวกการใช้งานจะถูกปรับตามเวลา แต่ลักษณะทางกายภาพของสิ่งพิมพ์ใบปลิวยังคง
เหมือนเดิม สิ่งพิมพ์ใบปลิวนั้นต้องมีเป็นกระดาษหรือเอกสารใบเดียวโดยไม่มีงานพับหรือรวมเล่มใดๆ นอกจากนั้นจะ
ปรับแต่งอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา ขนาด หรือประเภทของกระดาษก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้จัดทำเอง ซึ่งสมัยปัจจุบันแล้ว
งานพิมพ์ใบปลิวมักจะไม่ค่อยเน้นเนื้อหาแต่จะเน้นเฉพาะเรื่องที่สำคัญหรือรูปภาพเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้เกิดความ
น่าสนใจและไม่ทำให้ดูน่าเบื่อเกินไป เช่น หากเป็นการสื่อโฆษณาร้านอาหารใหม่ ก็อาจจะเน้นให้มีรูปบรรยากาศร้านอาหาร
รูปเมนูอาหาร รูปแผนที่การไป โดยเนื้อหาก็นิยมระบุเพียงคำบรรยายถึงบรรยากาศและรสชาติอาหารเพียงไม่กี่
ประโยค รวมถึงวิธีการไปอย่างย่อและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เป็นต้น
การพิมพ์ใบปลิวนั้นนับได้ว่าเป็นการจัดทำสื่อโฆษณาประเภทสิ่งพิมพ์ที่ถูกที่สุด หากไม่กำหนดประเภทหรือ
ขนาดกระดาษที่แพงจนเกินไป ซึ่งโดยมากมักจะใช้ขนาด A4 เป็นมาตรฐานเพราะความราบรื่นในด้านการพิมพ์และขนาด
ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป รวมถึงกระดาษก็จะใช้กระดาษธรรมดา เช่น กระดาษอาร์ตมัน กระดาษปอนด์ โดยมีความหนา
ประมาณ 80 แกรม เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะการพิมพ์ใบปลิวนั้นจะเน้นที่ปริมาณมากกว่า ดังนั้นโดยมากจะไม่ค่อย
เน้นในการตกแต่งพิเศษประเภทการเคลือบผิวเพราะไม่ได้มุ่งเน้นด้านความคงทนเท่าใดนัก ด้านความงามส่วนใหญ่
จะเรื่องของการของออกแบบไฟล์งานพิมพ์เสียเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ดีความงามเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างแรงดึงดูดในการ
อ่านเป็นอย่างมากจึงไม่ควรจะละเลย
สำหรับวิธีการใช้งานสิ่งพิมพ์ใบปลิวนั้นมีความสำคัญไม่แพ้กัน พวกคุณเคยมองดูหรือไม่ว่าแม้ทางด้าน
จิตวิทยาแล้วหากมีการรับใบปลิวเข้ามาในมือแล้วอย่างน้อยต้องมองผ่านตาบ้าง ซึ่งคุณจะสนใจหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่มี
หลายครั้งที่พบว่าบางคนได้รับใบปลิวเข้ามาแล้วทิ้งรวดเร็วในเวลานั้นเลยหรือปฏิเสธที่จะรับทันที สิ่งที่สำคัญในงานแจกจ่าย
ใบปลิวแล้วนอกจากจะเลือกที่มีผู้คนขวักไขว่แล้วต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของสถานที่และช่วงเวลาด้วย โดย
ส่วนมากผู้แจกจ่ายมักจะละเลยในจุดๆ นี้ เช่น แจกจ่ายใบปลิวตอนช่วงเวลาเร่งด่วนซึ่งโดยมากผู้คนกำลังรีบ เป็นต้น การพิมพ์
ใบปลิวแจกนั้นพึงพินิจองค์ประกอบต่างๆ ร่วมด้วยเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด



เครดิต : http://www.pimplernprint.com/เเผ่นพับ_ใบปลิว_Digital_Offset/

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)เพิ่มยอดขายโปรโมชั่น
งานทำการค้าเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำการทำงานเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการเสนอให้ลูกค้าทราบได้ว่าองค์กรของเรานั้นขายอะไร มีข้อเด่นอย่างไร แต่การ
อธิบายผู้บริโภคด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่อธิบายได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมเรื่องประกอบ เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้สมัยนี้จะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการอธิบายมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความสบายโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาสะดวก ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้อีกครั้ง สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังอาจจดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีรูปร่างเป็นเอกสารที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาข้อปลีกย่อยเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มพวกอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
จุดประสงค์การใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นเค้าความในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละชนิดขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มอย่างแน่ชัดเพื่อให้ง่ายต่อการสำรวจและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานเสนอผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและสร้างจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความประณีตบรรจงเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งองค์ประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นเหล่าที่โชว์และสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การเลือกคัดใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของสาระ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษจำพวกอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการแต่งแต้มใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องมุ่งเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อป้องกันความพังจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะนี้เป็นด้านนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเปรอะเปื้อนเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปรูปประกอบจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถเห็นลอดเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนสินค้าจริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดตัวปัญหากับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความจัดเจนพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดขนาดเล่มให้มีสัดส่วนเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องชี้แจงมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้เบื่อหน่ายและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง
ขนาดเล่มกับสัดส่วนภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีสัดส่วนที่ทำให้ลูกค้าสามารถสังเกตเห็นได้เด่นโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการสุดท้ายนี้คือความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับขนาดตัวหนังสือ เป็นส่วนใหญ่การเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีข้อสงสัย แต่สำหรับสินค้าบางพันธุ์หรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการขยายความในเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถมองเห็นและอ่านได้สบาย อาจจะต้องมีเทคนิคการเตรียมรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องคิดร่วมในการออกแบบและกำหนดขนาด
ซึ่งสัดส่วนของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดโดยประมาณกระดาษ A6 โดยสัดส่วนที่ใช้
เสมอที่สุดคือ A4 เพราะมีขนาดที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงง่ายๆในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงลู่ทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อเกิดผลประโยชน์สูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนค่อนข้างจะสูง ซึ่งหากให้จัดพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะกำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นเจ้าประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างติดต่อกัน หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงทะเบียนมีความต้องการข่าวคราว เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการส่งให้กับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดแจงทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการขานรับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางแบบอาจจะใช้การจัดเตรียมพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยจัดแจงแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านค้าเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาซักถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนจัดจำหน่าย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์แคตตาล็อกสินค้า

ที่มา : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น


กำจัดไรฝุ่น จำต้องต้องใช้สารเคมีหรือไม่
ไรฝุ่น เป็นชื่อของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในระดับที่ตาดูไม่เห็น มันอนุมาก ประมาณ 1/100 ของหน่วยวัดความยาวเป็นนิ้ว
แต่ถึงตัวมันจะกระจิดริดก็ส่งผลต่อคนเราในระดับที่ไม่อาจละเลย เพราะเจ้าสัตว์ขนาดเล็กชนิดนี้แหละเป็นตัวทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้
ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนได้ เพราะว่าไรฝุ่นจะผลิตสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นมูลเหตุของโรคทางเดินหายใจอักเสบ เป็นหวัดเรื้อรัง
มีอาการคันแลเคืองในดวงตา ตาแดง มีอาการโรคหอบหืด ไมเกรน และอาการผื่นคันตามผิวหนัง และไรฝุ่นสามารถ
แพร่กระจายขยายพันธุ์ได้อย่างฉับไวภายในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะมันชอบอาศัยอยู่ตามผ้า หรือในสิ่งที่มีเส้นใย และที่มันชอบ
มาอยู่ในที่ที่มีคนอาศัยอยู่มากก็คือ มันกินเศษผิวหนังที่หลุดออกของคนเราเป็นอาหาร ! เพราะฉะนั้นในที่ๆ มีคน มีเส้นใย
จึงเป็นไปได้ที่จะมีไรฝุ่นเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งโทษต่อสุขภาพ ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องหาวิธี กำจัดไรฝุ่น
ให้ออกไปให้พ้นจากบ้าน และการ กำจัดไรฝุ่น ที่นิยมกันก็คือสารใช้สารเคมี ซึ่งบางคนก็หนักใจในเรื่องผลกระทบ
ต่อร่างกายของเราด้วย อย่างไรก็ตามการ กำจัดไรฝุ่น มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ไม่ได้มีแค่ วิธี กำจัดไรฝุ่น ที่ต้องใช้สารเคมีเท่านั้น
วิธีการ กำจัดไรฝุ่น แบบไม่จำเป็นจะต้องใช้สารเคมี ได้แก่...
1.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยแสงแดด ไรฝุ่นมีขนาดที่เล็กไม่ทนทานต่อความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ การนำเอาสิ่งที่เป็นผ้า
หรือเส้นใยไปตากแดด สามารถ กำจัดไรฝุ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยการซักในน้ำร้อน การนำเอาผ้าที่สัมผัสกับร่างกายของเราเป็นประจำจำพวกผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ผ้าห่ม หรืออื่นๆ ไปซักด้วยน้ำร้อน ทุกๆ 2 อาทิตย์ ช่วยในการ กำจัดไรฝุ่น ได้เช่นเดียวกัน
3.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วย เครื่องดูดไรฝุ่น เป็นเครื่องมือที่ถูกก้าวหน้าขึ้นมาเพื่อจัดการ กำจัดไรฝุ่น โดยเฉพาะ แต่อาจจะ
มีราคาสูงอยู่บ้างในการที่จะซื้อเอามาใช้งาน แต่ก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่คุ้มค่าทีเดียว
4.การใช้ เครื่องฟอกอากาศ ที่มีระบบ กำจัดไรฝุ่น ซึ่งนอกจากสามาร กำจัดไรฝุ่น แล้ว ก็ยังช่วยในเรื่องการดูดกลิ่น
ทำให้อากาศใสสะอาดสดชื่นได้อีกด้วย แต่ก็แน่นอนว่ามีมูลค่าสูง
5.ใช้ผ้าป้องกันไรฝุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาเพื่อป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ สมัยนี้มีปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน
ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ออกมาซื้อขาย
นี่เป็นวิธีการที่มนุษย์สามารถใช้ กำจัดไรฝุ่น หรือปกป้องไม่ให้มันกลายมาเป็นปัญหากับสุขภาพอนามัยของเราโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผลิตภัณฑ์กําจัดไรฝุ่น

เครดิต : http://praiya.lnwshop.com/product/4/ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น-สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น-mite-klean

รับทำเว็บไซต์ ราคาถูก

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สี ต้องสื่อความรู้ชัดเจน
สำหรับคนที่ทำงาน รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องให้ข้อความสำคัญก็คือ การรับฟังความพึงประสงค์ของผู้ที่มาจ้าง
เราให้ รับทำเว็บไซต์ ให้เข้าใจชัดเจน เมื่อทราบเป้าหมายในการใช้งานของเราแล้ว เราจึงจะสามารถขึ้นต้นการทำงาน รับทำเว็บไซต์
และออกแบบเว็บไซต์ ได้ตรงจุดตามที่เขาต้องการทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องอื่นที่เราจะต้องสนใจที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยอีก
หลายอย่างเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ตรงตามที่เขาต้องการมากที่สุด ไม่ต้องกลับมาซ่อมงานให้เสียเวลา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ เรื่องของ
การติดต่อสื่อสารของเว็บไซต์ !
การสื่อความหมายในการทำงาน รับทำเว็บไซต์ นอกเหนือจากการใช้เนื้อความหรือภาพนำเสนอให้ผู้ใช้งานทราบ
คำอธิบายศัพท์แล้ว ก็ยังมีเรื่องของ “สี” เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีผลกับอารมณ์จิตใจและความสบายของผู้ซื้อใช้งาน
เว็บไซต์เป็นอย่างมาก เว็บที่เรา รับทำเว็บไซต์ ขึ้นมาจะไม่ได้ผลอะไรเลย หากไม่มีสีสันที่น่ามองให้คนอยากใช้งาน และ
จะยิ่งแย่กว่า หากสีของตัวหนังสือและสีของพื้นหลังไม่เข้ากัน บางทีเราใช้ตัวหนังสือสีอ่อน กับสีของพื้นหลังที่มีความ
สว่าง มันก็ทำให้ข้อความอ่านได้ยาก ตัวหนังสือสีเข้มกับพื้นหลังสีทึบก็เช่นเดียวกัน นี่เป็นหัวข้อที่ผู้ รับทำเว็บไซต์ ต้อง
เรียนรู้และทำความเข้าใจเก่งเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้สามารถ รับทำเว็บไซต์ และออกแบบเว็บไซต์ ให้มีหน้าตาสีสัน และแบบอย่าง
ที่พอเหมาะใช้งานได้ง่าย
นอกจากนี้ สี ยังมีส่วนให้การโน้มน้าวความเข้าใจ สี มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของคนเราจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการบำบัด
ด้วยสี หรือที่เรียกว่า Color Therapy การ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ ก็ประหนึ่งการผลิตหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ต้องมีการ ออกแบบรูปเล่มให้มีสีสันที่น่าพึงพอใจชวนมองและน่าจับจ่ายใช้สอย เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการเลือกแบบของสีที่
เหมาะสม การสื่อความหมายเพื่อให้ผู้ที่เข้ามามองดูเกิดความรู้สึกคล้อยตาม ก็จะเป็นไปได้ยาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในปัญหาที่ผู้
รับทำเว็บไซต์ ต้องพบกับโจทย์การถูกขอให้แก้งานจากผู้ว่าจ้างให้ รับทำเว็บไซต์ ที่พบได้บ่อย ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะไม่
เข้าใจในเรื่องงานดีไซน์ดีเท่าเรา แต่ หากว่าผู้จัดจ้างเห็นหน้าตาเว็บไซต์ที่ เรา รับทำเว็บไซต์ ให้ แล้วเกิดความเข้าใจว่ามันขัดๆ
ยังไม่สวย ไม่น่าใช้ อันนี้ก็ทำให้เกิดการร้องขอให้เราแก้เว็บไซต์ได้เช่นกัน นั่นก็ทำให้งาน รับทำเว็บไซต์ ของเรายากลำบากเข้าไปอีก
ดังนั้นก่อนที่จะ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่เราควรทำพร้อมๆ กับการไต่ถามความต้องการในการใช้งานให้ชัดเจนแล้ว
เราจะต้องนำเอาแบบอย่างของ “สี” และแบบแผนหน้าตาของตัวหนังสือมาให้ผู้จ้างให้ เรา รับทำเว็บไซต์ เขาได้มีส่วนใน
การเลือกด้วย พร้อมทั้งขอคำแนะนำกันในเรื่องความหมายที่ต้องการสื่อ เพื่อที่เราจะได้สามารถดีไซน์เว็บไซต์ที่ตรงกับใจและเหมาะสม
ในการใช้การทำงานให้ได้มากที่สุด

 



ขอบคุณบทความจาก : https://www.makewebzone.com/service-website.html

รับทำเว็บไซต์|ออกแบบเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สี ต้องสื่อความเข้าใจชัดเจน
สำหรับคนที่ทำงาน รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องให้เหตุสำคัญก็คือ การรับฟังความมุ่งหวังของผู้ที่มาจ้าง
เราให้ รับทำเว็บไซต์ ให้เข้าใจชัดเจน เมื่อทราบวัตถุประสงค์ในการใช้งานของเราแล้ว เราจึงจะสามารถเริ่มต้นงาน รับทำเว็บไซต์
และออกแบบเว็บไซต์ ได้ตรงตามที่เขาต้องการทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องอื่นที่เราจะต้องใส่ใจที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยอีก
หลายอย่างเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ตรงจุดตามที่เขามุ่งหมายมากที่สุด ไม่ต้องกลับมาแก้ไขงานให้เสียเวลา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ เรื่องของ
การติดต่อสื่อสารของเว็บไซต์ !
การติดต่อสื่อสารในการทำงาน รับทำเว็บไซต์ นอกเหนือจากการใช้เนื้อความหรือภาพอธิบายให้ผู้ใช้งานทราบ
คำจำกัดความแล้ว ก็ยังมีเรื่องของ “สี” เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีผลกับอารมณ์ความรู้สึกและความสะดวกของผู้ใช้งาน
เว็บไซต์เป็นอย่างมาก เว็บที่เรา รับทำเว็บไซต์ ขึ้นมาจะไม่ได้ผลอะไรเลย หากไม่มีสีสันที่ชวนมองให้คนอยากใช้งาน และ
จะยิ่งแย่กว่า หากสีของตัวหนังสือและสีของพื้นหลังไม่สัมพันธน์กัน บางทีเราใช้ตัวหนังสือสีอ่อน กับสีของพื้นหลังที่มีความ
สว่าง มันก็ทำให้ข้อความอ่านได้ลำบาก ตัวหนังสือสีเข้มกับพื้นหลังสีทึบก็เช่นเดียวกัน นี่เป็นหลักสำคัญที่ผู้ รับทำเว็บไซต์ ต้อง
ศึกษาและทำความเข้าใจเก่งเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้สามารถ รับทำเว็บไซต์ และออกแบบเว็บไซต์ ให้มีหน้าตาสีสัน และแนวทาง
ที่แยบยลใช้งานได้ง่าย
นอกจากนี้ สี ยังมีส่วนให้การโน้มน้าวจิตใจ สี มีผลต่ออารมณ์ความเข้าใจของคนเราจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการบำบัด
ด้วยสี หรือที่เรียกว่า Color Therapy การ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ ก็เหมือนกับงานผลิตหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ต้องมีการ ออกแบบรูปเล่มให้มีสีสันที่สวยงามชวนมองและน่าซื้อ เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการเลือกแบบของสีที่
แยบยล การสื่อความหมายเพื่อให้ผู้ที่เข้ามามองเกิดความรู้สึกคล้อยตาม ก็จะเป็นไปได้ลำบาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในโจทย์ที่ผู้
รับทำเว็บไซต์ ต้องเจอกับปัญหาการถูกขอให้แก้งานจากผู้ว่าจ้างให้ รับทำเว็บไซต์ ที่พบได้บ่อย ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะไม่
เข้าใจในเรื่องงานออกแบบดีเท่าเรา แต่ หากว่าผู้ว่าจ้างเห็นหน้าตาเว็บไซต์ที่ เรา รับทำเว็บไซต์ ให้ แล้วเกิดความเข้าใจว่ามันขัดๆ
ยังไม่สวย ไม่น่าใช้ อันนี้ก็ทำให้เกิดการร้องขอให้เราแก้เว็บไซต์ได้เช่นกัน นั่นก็ทำให้งาน รับทำเว็บไซต์ ของเราลำบากเข้าไปอีก
เช่นนั้นก่อนที่จะ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่เราควรทำพร้อมๆ กับการซักถามความต้องการในการใช้งานให้ชัดเจนแล้ว
เราจะต้องนำเอาแบบอย่างของ “สี” และแนวทางหน้าตาของตัวหนังสือมาให้ผู้จัดจ้างให้ เรา รับทำเว็บไซต์ เขาได้มีส่วนใน
การเลือกด้วย พร้อมทั้งขอคำแนะนำกันในเรื่องความหมายที่ต้องการสื่อ เพื่อที่เราจะได้สามารถดีไซน์เว็บไซต์ที่ตรงกับใจและเหมาะสม
ในการใช้งานให้ได้มากที่สุด



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://makezone.co.th/

พิมพ์ใบปลิว

พิมพ์ใบปลิวสื่อโฆษณาที่ประสบ

การพิมพ์ใบปลิวนับเป็นสื่อโฆษณาที่เจอได้บ่อยมากในแต่ละวัน เชื่อว่าในทุกวันๆที่ท่านเดินทางไปทำงานหรือ
เดินเล่นตามที่ต่างๆ ในวันหยุด คุณจะได้พบเจอการจ่ายแจกใบปลิวเสมอไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า
หรือแม้แต่หน้าออฟฟิศทำงาน เมื่อคุณได้รับจ่ายแจกสิ่งพิมพ์ใบปลิวเหล่านั้นมีบางครั้งคุณอาจจะสนใจในสินค้าหรือการ
การบอกข่าวในใบปลิวนั้นหรือบางคราอาจจะทิ้งมันไปโดยไม่ใยดีเลยก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างน้อยเมื่อคุณได้รับ
ใบปลิวเข้ามาในมือแล้วคุณก็จะต้องก้มพิจารณาหรืออ่านใบปลิวผ่านตาบ้าง ซึ่งนั่นเป็นจุดสำคัญของใบปลิวที่ทำให้การพิมพ์
ใบปลิวยังคงเป็นที่นิยมกันแง่การตลาดอยู่ทุกวันนี้
การพิมพ์ใบปลิวแต่เดิมตรงนั้นมีรากศัพท์มาจากคำว่า “Fliers”หรือก็คือแผ่นกระดาษที่ใช้โปรยแจกนั่นเอง ซึ่งมักจะ
มีประเด็นมากกว่ารูปภาพ โดยจะเนื้อหาหาในเชิงที่ปกปิดไม่ระบุชื่อผู้เขียนใช้ในการเชิญชวน จูงใจ มักจะเป็นในแง่การเมือง
เป็นต้น ซึ่งอาจจะเคยได้ดูตามภาพยนตร์ย้อนสมัย แต่ต่อมาในสมัยนี้สิ่งพิมพ์ใบปลิวได้กลับกันไปในแง่ความหมายเป็น
คำว่า “Leaflet Handbill”ที่เป็นเอกสารขนาดเล็กคล้ายกับใบไม้โดยมีขนาดพอดีมือ จากเนื้อหาที่ปกปิดก็ถูกเปลี่ยนไป
ใช้ในการโฆษณาจูงใจโดยเปิดเผย การโปรยก็เปลี่ยนเป็นการแจกจ่ายหรือส่งจดหมายเพื่อให้เหมาะตามยุคสมัย เพราะคงไม่ดี
แน่หากจะโปรยทิ้งให้เป็นขยะตามถนนหนทาง
แม้การเปลี่ยนแปลงด้านการใช้งานจะถูกปรับตามยุคสมัย แต่รูปร่างทางกายภาพของสิ่งพิมพ์ใบปลิวยังคง
เหมือนเดิม สิ่งพิมพ์ใบปลิวนั้นต้องมีเป็นกระดาษหรือสิ่งพิมพ์ใบเดียวโดยไม่มีงานพับหรือรวมเล่มใดๆ นอกจากนั้นจะ
ปรับแต่งอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา ขนาด หรือชนิดของกระดาษก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้จัดทำเอง ซึ่งปัจจุบันนี้แล้ว
การพิมพ์ใบปลิวมักจะไม่ค่อยเน้นเนื้อหาแต่จะเน้นเฉพาะเนื้อความที่สำคัญหรือรูปภาพเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้เกิดความ
น่าสนใจและไม่ทำให้ดูน่าเบื่อเกินไป เช่น หากเป็นงานโฆษณาร้านอาหารใหม่ ก็อาจจะเน้นให้มีรูปบรรยากาศร้านอาหาร
รูปเมนูอาหาร รูปแผนที่การเดินทาง โดยเนื้อหาก็นิยมระบุเพียงคำบรรยายถึงบรรยากาศและรสชาติอาหารเพียงไม่กี่
ประโยค รวมถึงวิธีการไปอย่างย่อและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อสื่อสาร เป็นต้น
การพิมพ์ใบปลิวนั้นนับได้ว่าเป็นการจัดทำสื่อโฆษณาประเภทสิ่งพิมพ์ที่ถูกที่สุด หากไม่กำหนดประเภทหรือ
ขนาดกระดาษที่แพงจนเกินไป ซึ่งโดยมากมักจะใช้ขนาด A4 เป็นมาตรฐานเพราะความราบรื่นในด้านการพิมพ์และขนาด
ไม่เทอะทะหรือเล็กจนเกินไป รวมถึงกระดาษก็จะใช้กระดาษธรรมดา เช่น กระดาษอาร์ตมัน กระดาษปอนด์ โดยมีความหนา
ประมาณ 80 แกรม เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะการพิมพ์ใบปลิวตรงนั้นจะเน้นที่ปริมาณมากกว่า ดังนั้นส่วนใหญ่จะไม่ค่อย
เน้นในการเติมแต่งพิเศษประเภทการเคลือบผิวเพราะไม่ได้มุ่งเน้นด้านความทนเท่าใดนัก ด้านความเรียบร้อยส่วนใหญ่
จะเรื่องของงานของออกแบบไฟล์งานพิมพ์เสียเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ดีความเป็นระเบียบเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างแรงดึงดูดในการ
อ่านเป็นอย่างมากจึงไม่เหมาะละเลย
สำหรับวิธีการใช้งานสิ่งพิมพ์ใบปลิวนั้นมีความสำคัญไม่แพ้กัน พวกคุณเคยมองดูหรือไม่ว่าแม้ทางด้าน
จิตวิทยาแล้วหากมีการรับใบปลิวเข้ามาภายในมือแล้วอย่างน้อยต้องมองผ่านตาบ้าง ซึ่งคุณจะสนใจหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่มี
หลายครั้งที่พบว่าบางคนได้รับใบปลิวเข้ามาแล้วทิ้งขว้างทันทีทันควันในเวลานั้นเลยหรือปฏิเสธที่จะรับทันที สิ่งที่สำคัญในการจ่ายแจก
ใบปลิวแล้วนอกจากจะเลือกที่มีผู้คนขวักไขว่แล้วต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของสถานที่และช่วงเวลาด้วย โดย
ส่วนมากผู้แจกมักจะละเลยในจุดๆ นี้ เช่น แจกใบปลิวตอนช่วงเวลาเร่งด่วนซึ่งโดยมากผู้คนกำลังรีบ เป็นต้น งานพิมพ์
ใบปลิวแจกจ่ายนั้นพึงสังเกตองค์ประกอบต่างๆ ร่วมด้วยเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์ใบปลิว ถูก

ที่มา : http://www.pimplernprint.com/เเผ่นพับ_ใบปลิว_Digital_Offset/

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)เพิ่มยอดขายโปรโมชั่น
งานจัดจำหน่ายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำการทำงานเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการบรรยายให้ลูกค้าทราบได้ว่าหน่วยงานของเรานั้นขายอะไร มีสาระสำคัญอย่างไร แต่การ
อธิบายลูกค้าด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เสนอได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมเรื่องประกอบ เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการบรรยายมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความราบรื่นโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาคล่อง ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ซ้ำ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังทำได้จดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีรูปพรรณเป็นงานพิมพ์ที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาเรื่องเบ็ดเตล็ดเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มพันธุ์อื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
จุดมุ่งหมายการใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นสาระในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าและการบริการแต่ละพันธุ์ขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่สินค้าเป็นกลุ่มอย่างแน่ชัดเพื่อให้ง่ายต่อการสืบหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานชี้แจงผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและจัดทำจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความละเอียดลออเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งส่วนประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นด้านที่แสดงและสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การคัดใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเนื้อหาสาระ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษชนิดอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการเติมแต่งใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องมุ่งเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อป้องกันความเยินจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะตรงนี้เป็นประเด็นนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเลอะเทอะเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปภาพอธิบายจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถเห็นลอดเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนสินค้าจริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดอุปสรรคกับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความเชี่ยวชาญพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้ขนาดของการพิมพ์แคตตาล็อกตรงนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดสัดส่วนเล่มให้มีสัดส่วนเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องนำเสนอมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง
ขนาดเล่มกับสัดส่วนภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีขนาดที่ทำให้ลูกค้าสามารถสังเกตเห็นได้เด่นโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการสุดท้ายคือความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับสัดส่วนตัวหนังสือ ส่วนใหญ่การจัดเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีคำถาม แต่สำหรับสินค้าบางลักษณะหรือสินค้าที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการบรรยายเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถเห็นและอ่านได้ไม่ยาก อาจจะต้องมีเทคนิคการจัดรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องคำนึงร่วมในการออกแบบและกำหนดสัดส่วน
ซึ่งขนาดของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดประมาณกระดาษ A6 โดยสัดส่วนที่ใช้
เสมอที่สุดคือ A4 เพราะมีขนาดที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงง่ายๆในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงช่องทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อเกิดผลประโยชน์สูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนมักโด่ง ซึ่งหากให้จัดแจงพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มค่าที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะเจาะจงเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นขาประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างติดต่อกัน หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงบัญชีมีความต้องการข้อมูล เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการแจกกับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้ตระเตรียมทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการขานรับมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางชนิดอาจจะใช้การจัดแจงพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยเตรียมแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านรวงเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาไต่ถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนขาย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : พิมพ์แคตตาล็อก วารสาร

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น


กำจัดไรฝุ่น จำเป็นต้องใช้สารเคมีหรือไม่
ไรฝุ่น เป็นชื่อของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในระดับที่ตาดูไม่เห็น มันจี๊ดมาก ประมาณ 1/100 ของหน่วยวัดความยาวเป็นนิ้ว
แต่ถึงตัวมันจะเล็กกระจิดริดก็ส่งผลต่อคนเราในระดับที่ไม่อาจละเลย เพราะเจ้าสัตว์ขนาดกระจิดริดชนิดนี้แหละเป็นตัวทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้
ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนได้ เพราะว่าไรฝุ่นจะผลิตสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นมูลเหตุของโรคทางเดินหายใจอักเสบ เป็นหวัดเรื้อรัง
มีอาการคันแลเคืองในดวงตา ตาแดง มีอาการโรคหอบหืด ไมเกรน และอาการผื่นคันตามผิวหนัง และไรฝุ่นสามารถ
แพร่กระจายขยายพันธุ์ได้อย่างเร็วภายในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะมันชอบอาศัยอยู่ตามผ้า หรือในสิ่งที่มีเส้นใย และที่มันชอบ
มาอยู่ในที่อยู่ที่มีคนอยู่อาศัยอยู่มากก็คือ มันกินเศษผิวหนังที่หลุดออกของมนุษย์เราเป็นอาหาร ! ด้วยเหตุนั้นในที่ๆ มีคน มีเส้นใย
จึงเป็นไปได้ที่จะมีไรฝุ่นเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งโทษต่อสุขภาพ ดังนั้นมนุษย์จำเป็นที่จะต้องหาวิธี กำจัดไรฝุ่น
ให้ออกไปให้พ้นจากอาคารบ้านเรือน และการ กำจัดไรฝุ่น ที่นิยมกันก็คือสารใช้สารเคมี ซึ่งบางคนก็วิตกกังวลในเรื่องผลกระทบ
ต่อร่างกายของเราด้วย อย่างไรก็ตามการ กำจัดไรฝุ่น มีอยู่ด้วยกันหลายทาง ไม่ได้มีแค่ วิธี กำจัดไรฝุ่น ที่ต้องใช้สารเคมีแค่นั้น
วิธีการ กำจัดไรฝุ่น แบบไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี ได้แก่...
1.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยแสงแดด ไรฝุ่นมีขนาดที่เล็กไม่แข็งแรงต่อความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ การนำเอาสิ่งที่เป็นผ้า
หรือเส้นใยไปตากแดด สามารถ กำจัดไรฝุ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยการซักในน้ำร้อน การนำเอาผ้าที่สัมผัสกับร่างกายของเราเป็นประจำจำพวกผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ผ้าห่ม หรืออื่นๆ ไปซักด้วยน้ำร้อน ทุกๆ 2 อาทิตย์ ช่วยในการ กำจัดไรฝุ่น ได้เช่นเดียวกัน
3.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วย เครื่องดูดไรฝุ่น เป็นเครื่องมือที่ถูกเจริญขึ้นมาเพื่อจัดการ กำจัดไรฝุ่น โดยเฉพาะ แต่อาจจะ
มีราคาสูงอยู่บ้างในการที่จะซื้อเอามาใช้งาน แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องใช้ไม้สอยที่คุ้มค่าทีเดียว
4.การใช้ เครื่องฟอกอากาศ ที่มีระบบ กำจัดไรฝุ่น ซึ่งนอกจากสามาร กำจัดไรฝุ่น แล้ว ก็ยังสนับสนุนในเรื่องการดูดกลิ่น
ทำให้อากาศใสสะอาดสดชื่นได้อีกด้วย แต่ก็แน่นอนว่ามีราคาสูง
5.ใช้ผ้าป้องกันไรฝุ่น เป็นสินค้าที่ถูกปฏิรูปขึ้นมาเพื่อป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ สมัยปัจจุบันมีปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน
ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ออกมาจำหน่าย
นี่เป็นวิธีการที่มนุษย์สามารถใช้ กำจัดไรฝุ่น หรือปกป้องไม่ให้มันกลายมาเป็นปัญหากับอนามัยของเราโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผลิตภัณฑ์กําจัดไรฝุ่น

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://praiya.lnwshop.com/

รับทำเว็บไซต์ ราคาถูก

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สี ต้องสื่อความเข้าใจชัดเจน
สำหรับคนที่ทำงาน รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องให้เหตุสำคัญก็คือ การรับฟังความมุ่งหวังของผู้ที่มาจ้าง
เราให้ รับทำเว็บไซต์ ให้เข้าใจชัดเจน เมื่อทราบวัตถุประสงค์ในการใช้งานของเราแล้ว เราจึงจะสามารถเริ่มต้นงาน รับทำเว็บไซต์
และออกแบบเว็บไซต์ ได้ตรงจุดตามที่เขาต้องการทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องอื่นที่เราจะต้องตั้งอกตั้งใจที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยอีก
หลายอย่างเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ตรงจุดตามที่เขามุ่งหมายมากที่สุด ไม่ต้องกลับมาแก้ไขงานให้เสียเวลา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ เรื่องของ
การสื่อสารของเว็บไซต์ !
การติดต่อในการทำงาน รับทำเว็บไซต์ เหนือจากการใช้หัวเรื่องหรือภาพอธิบายให้ผู้ใช้งานทราบ
คำอธิบายศัพท์แล้ว ก็ยังมีเรื่องของ “สี” เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีผลกับอารมณ์ความรู้สึกและความสะดวกของผู้บริโภคใช้งาน
เว็บไซต์เป็นอย่างมาก เว็บที่เรา รับทำเว็บไซต์ ขึ้นมาจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย หากไม่มีสีสันที่ดึงดูดใจให้คนอยากใช้งาน และ
จะยิ่งแย่กว่า หากสีของตัวหนังสือและสีของพื้นหลังไม่สัมพันธ์กัน บางทีเราใช้ตัวหนังสือสีอ่อน กับสีของพื้นหลังที่มีความ
สว่าง มันก็ทำให้ข้อความอ่านได้ยาก ตัวหนังสือสีเข้มกับพื้นหลังสีทึบก็เช่นกัน นี่เป็นกรณีที่ผู้ รับทำเว็บไซต์ ต้อง
ศึกษาและทำความเข้าใจเก่งเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้สามารถ รับทำเว็บไซต์ และออกแบบเว็บไซต์ ให้มีหน้าตาสีสัน และแนวทาง
ที่พอเหมาะใช้งานได้ง่าย
นอกจากนี้ สี ยังมีส่วนให้การสนับสนุนความรู้สึก สี มีผลต่ออารมณ์ความเข้าใจของคนเราจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการบำบัด
ด้วยสี หรือที่เรียกว่า Color Therapy การ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ ก็ยังกับงานผลิตหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ต้องมีการ ออกแบบรูปเล่มให้มีสีสันที่สวยงามชวนมองและน่าซื้อ เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการเลือกแบบของสีที่
ลงตัว การสื่อความหมายเพื่อให้ผู้ที่เข้ามามองเกิดความรู้สึกคล้อยตาม ก็จะเป็นไปได้ยากลำบาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในคำถามที่ผู้
รับทำเว็บไซต์ ต้องพบเห็นกับตัวปัญหาการถูกขอให้แก้งานจากผู้จัดจ้างให้ รับทำเว็บไซต์ ที่พบได้บ่อย ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะไม่
เข้าใจในเรื่องการดีไซน์ดีเท่าเรา แต่ หากว่าผู้จ้างเห็นหน้าตาเว็บไซต์ที่ เรา รับทำเว็บไซต์ ให้ แล้วเกิดความเข้าใจว่ามันขัดๆ
ยังไม่สวย ไม่น่าใช้ อันนี้ก็ทำให้เกิดการร้องขอให้เราแก้เว็บไซต์ได้เช่นกัน นั่นก็ทำให้งาน รับทำเว็บไซต์ ของเราลำบากเข้าไปอีก
ดังนั้นก่อนที่จะ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่เราควรทำพร้อมๆ กับการถามความต้องการในการใช้งานให้ชัดเจนแล้ว
เราจะต้องนำเอารูปร่างของ “สี” และต้นแบบหน้าตาของตัวหนังสือมาให้ผู้จ้างให้ เรา รับทำเว็บไซต์ เขาได้มีส่วนใน
การเลือกด้วย พร้อมทั้งปรึกษาหารือกันในเรื่องความหมายที่ต้องการสื่อ เพื่อที่เราจะได้สามารถดีไซน์เว็บไซต์ที่ตรงกับใจและเหมาะสม
ในการใช้ธุรกิจให้ได้มากที่สุด

 



ขอบคุณบทความจาก : https://www.makewebzone.com/service-website.html

รับทำเว็บไซต์|ออกแบบเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สี ต้องสื่อความเข้าใจชัดเจน
สำหรับคนที่ทำงาน รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องให้กระแสความสำคัญก็คือ การรับฟังความประสงค์ของผู้ที่มาจ้าง
เราให้ รับทำเว็บไซต์ ให้เข้าใจชัดเจน เมื่อทราบเป้าหมายในการใช้งานของเราแล้ว เราจึงจะสามารถขึ้นต้นการทำงาน รับทำเว็บไซต์
และออกแบบเว็บไซต์ ได้ถูกต้องตามที่เขาต้องการทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องอื่นที่เราจะต้องตั้งใจที่เป็นข้อปลีกย่อยอีก
หลายอย่างเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ถูกต้องตามที่เขามุ่งหมายมากที่สุด ไม่ต้องกลับมาซ่อมงานให้เสียเวลา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ เรื่องของ
การติดต่อสื่อสารของเว็บไซต์ !
การสื่อความหมายในการทำงาน รับทำเว็บไซต์ เหนือจากการใช้เนื้อความหรือภาพอธิบายให้ผู้ใช้งานทราบ
คำจำกัดความแล้ว ก็ยังมีเรื่องของ “สี” เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีผลกับอารมณ์จิตใจและความราบรื่นของลูกค้าใช้งาน
เว็บไซต์เป็นอย่างมาก เว็บที่เรา รับทำเว็บไซต์ ขึ้นมาจะไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย หากไม่มีสีสันที่ดึงดูดใจให้คนอยากใช้งาน และ
จะยิ่งแย่กว่า หากสีของตัวหนังสือและสีของพื้นหลังไม่สัมพันธน์กัน บางทีเราใช้ตัวหนังสือสีอ่อน กับสีของพื้นหลังที่มีความ
สว่าง มันก็ทำให้ข้อความอ่านได้ลำบาก ตัวหนังสือสีเข้มกับพื้นหลังสีทึบก็เช่นเดียวกัน นี่เป็นประเด็นที่ผู้ รับทำเว็บไซต์ ต้อง
เรียนรู้และทำความเข้าใจเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้สามารถ รับทำเว็บไซต์ และออกแบบเว็บไซต์ ให้มีหน้าตาสีสัน และแบบอย่าง
ที่พอเหมาะใช้งานได้ง่าย
นอกจากนี้ สี ยังมีส่วนให้การส่งเสริมจิตใจ สี มีผลต่ออารมณ์จิตใจของคนเราจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการบำบัด
ด้วยสี หรือที่เรียกว่า Color Therapy การ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ ก็เทียบเท่าการผลิตหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ต้องมีการ ออกแบบรูปเล่มให้มีสีสันที่เป็นระเบียบชวนมองและน่าจับจ่ายใช้สอย เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการเลือกแบบของสีที่
เหมาะสม การสื่อความหมายเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเห็นเกิดความรู้สึกคล้อยตาม ก็จะเป็นไปได้ลำบาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ผู้
รับทำเว็บไซต์ ต้องพบเห็นกับข้อสงสัยการถูกขอให้แก้งานจากผู้จัดจ้างให้ รับทำเว็บไซต์ ที่พบได้บ่อย ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะไม่
เข้าใจในเรื่องงานดีไซน์ดีเท่าเรา แต่ หากว่าผู้จ้างวานเห็นหน้าตาเว็บไซต์ที่ เรา รับทำเว็บไซต์ ให้ แล้วเกิดความรู้สึกว่ามันขัดๆ
ยังไม่สวย ไม่น่าใช้ อันนี้ก็ทำให้เกิดการร้องขอให้เราปรับเว็บไซต์ได้เช่นกัน นั่นก็ทำให้งาน รับทำเว็บไซต์ ของเราลำบากเข้าไปอีก
เช่นนั้นก่อนที่จะ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่เราควรทำพร้อมๆ กับการถามความต้องการในการใช้งานให้ชัดเจนแล้ว
เราจะต้องนำเอารูปร่างของ “สี” และแบบแผนหน้าตาของตัวหนังสือมาให้ผู้จ้างให้ เรา รับทำเว็บไซต์ เขาได้มีส่วนใน
การเลือกด้วย พร้อมทั้งปรึกษาหารือกันในเรื่องความหมายที่ต้องการสื่อ เพื่อที่เราจะได้สามารถดีไซน์เว็บไซต์ที่ตรงกับใจและเหมาะสม
ในการใช้การทำงานให้ได้มากที่สุด



เครดิต : https://makezone.co.th/

พิมพ์ใบปลิว

พิมพ์ใบปลิวสื่อโฆษณาที่พบเห็น

งานพิมพ์ใบปลิวนับเป็นโฆษณาที่พบได้บ่อยมากในแต่ละวัน เชื่อว่าในทุกวันๆที่ท่านเดินทางไปทำงานหรือ
เดินเล่นตามที่ต่างๆ ในวันหยุด คุณจะได้พบเจอการจ่ายแจกใบปลิวเสมอไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า
หรือแม้แต่หน้าออฟฟิศทำงาน เมื่อคุณได้รับแจกสิ่งพิมพ์ใบปลิวเหล่านั้นมีบางครั้งคุณอาจจะสนใจในสินค้าหรือการ
พีอาร์ในใบปลิวตรงนั้นหรือบางคราวอาจจะทิ้งมันไปโดยไม่ใยดีเลยก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างน้อยเมื่อคุณได้รับ
ใบปลิวเข้ามาในมือแล้วคุณก็จะต้องก้มมองดูหรืออ่านใบปลิวผ่านตาบ้าง ซึ่งนั่นเป็นจุดเด่นของใบปลิวที่ทำให้การพิมพ์
ใบปลิวยังคงเป็นที่นิยมกันแง่การตลาดอยู่ทุกวันนี้
งานพิมพ์ใบปลิวแต่เดิมตรงนั้นมีรากศัพท์มาจากคำว่า “Fliers”หรือก็คือแผ่นกระดาษที่ใช้โปรยแจกนั่นเอง ซึ่งมักจะ
มีจุดสำคัญมากกว่ารูปภาพ โดยจะเนื้อหาหาในเชิงที่ปกปิดไม่ระบุชื่อผู้เขียนใช้ในการเชิญชวน จูงใจ มักจะเป็นในแง่การเมือง
เป็นต้น ซึ่งอาจจะเคยได้สังเกตตามภาพยนตร์ย้อนยุค แต่ต่อมาในประจุบันสิ่งพิมพ์ใบปลิวได้แปรผันไปในแง่ความหมายเป็น
คำว่า “Leaflet Handbill”ที่เป็นงานพิมพ์ขนาดเล็กคล้ายกับใบไม้โดยมีขนาดพอดีมือ จากเนื้อหาที่ปกปิดก็ถูกเปลี่ยนไป
ใช้ในการโฆษณาจูงใจโดยเปิดเผย การโปรยก็เปลี่ยนเป็นงานจ่ายแจกหรือส่งจดหมายเพื่อให้เหมาะตามยุคสมัย เพราะคงไม่ดี
แน่หากจะโปรยทิ้งให้เป็นขยะตามถนน
แม้การเปลี่ยนแปลงด้านการใช้งานจะถูกปรับตามเวลา แต่ลักษณะทางกายภาพของสิ่งพิมพ์ใบปลิวยังคง
เหมือนเดิม สิ่งพิมพ์ใบปลิวนั้นต้องมีเป็นกระดาษหรือสิ่งพิมพ์ใบเดียวโดยไม่มีงานพับหรือรวมเล่มใดๆ นอกจากนั้นจะ
ปรับแต่งอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา ขนาด หรือประเภทของกระดาษก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ทำเอง ซึ่งสมัยปัจจุบันแล้ว
งานพิมพ์ใบปลิวมักจะไม่ค่อยเน้นเนื้อหาแต่จะเน้นเฉพาะประเด็นที่สำคัญหรือรูปภาพเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้เกิดความ
น่าสนใจและไม่ทำให้ดูน่าเบื่อเกินไป เช่น หากเป็นการโฆษณาร้านอาหารใหม่ ก็อาจจะเน้นให้มีรูปบรรยากาศร้านอาหาร
รูปเมนูอาหาร รูปแผนที่การไป โดยเนื้อหาก็นิยมระบุเพียงคำบรรยายถึงบรรยากาศและรสชาติอาหารเพียงไม่กี่
ประโยค รวมถึงวิธีการไปอย่างย่อและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เป็นต้น
งานพิมพ์ใบปลิวนั้นนับได้ว่าเป็นการจัดทำสื่อโฆษณาประเภทสิ่งพิมพ์ที่ถูกที่สุด หากไม่กำหนดประเภทหรือ
ขนาดกระดาษที่แพงจนเกินไป ซึ่งโดยมากมักจะใช้ขนาด A4 เป็นมาตรฐานเพราะความราบรื่นในด้านการพิมพ์และขนาด
ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป รวมถึงกระดาษก็จะใช้กระดาษธรรมดา เช่น กระดาษอาร์ตมัน กระดาษปอนด์ โดยมีความหนา
ประมาณ 80 แกรม เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะงานพิมพ์ใบปลิวนั้นจะเน้นที่ปริมาณมากกว่า ดังนั้นโดยมากจะไม่ค่อย
เน้นในการแต่งเติมพิเศษประเภทการเคลือบผิวเพราะไม่ได้เน้นด้านความคงทนเท่าใดนัก ด้านความเป็นระเบียบส่วนใหญ่
จะเรื่องของการของออกแบบไฟล์งานพิมพ์เสียเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ดีความเรียบร้อยเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างแรงดึงดูดในการ
อ่านเป็นอย่างมากจึงไม่สมควรละเลย
สำหรับวิธีการใช้งานสิ่งพิมพ์ใบปลิวนั้นมีความสำคัญไม่แพ้กัน พวกคุณเคยตรวจสอบหรือไม่ว่าแม้ทางด้าน
จิตวิทยาแล้วหากมีการรับใบปลิวเข้ามาข้างในมือแล้วอย่างน้อยต้องมองดูผ่านตาบ้าง ซึ่งคุณจะสนใจหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่มี
หลายครั้งที่พบว่าบางคนได้รับใบปลิวเข้ามาแล้วสลัดทิ้งทันใดในเวลานั้นเลยหรือปฏิเสธที่จะรับทันที สิ่งที่สำคัญในการแจก
ใบปลิวแล้วนอกจากจะเลือกที่มีผู้คนพลุกพล่านแล้วต้องคำนึงถึงความถูกที่ของสถานที่และช่วงเวลาด้วย โดย
ส่วนมากผู้แจกมักจะละเลยในจุดๆ นี้ เช่น แจกใบปลิวตอนช่วงเวลาเร่งด่วนซึ่งโดยมากผู้คนกำลังรีบ เป็นต้น การพิมพ์
ใบปลิวแจกจ่ายนั้นพึงพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ร่วมด้วยเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด



ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimplernprint.com/เเผ่นพับ_ใบปลิว_Digital_Offset/

พิมพ์แคตตาล็อก

พิมพ์แคตตาล็อก (Catalogues)ราคาถูก
งานขายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจการค้าเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการอธิบายให้ลูกค้าทราบได้ว่าองค์กรของเรานั้นขายอะไร มีจุดเด่นอย่างไร แต่การ
อธิบายผู้บริโภคด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เสนอได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำสินค้าและการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมรายละเอียด เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ยุคปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการอธิบายมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการพิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความสะดวกโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาง่าย ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ซ้ำ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังสามารถจดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งานพิมพ์แคตตาล็อก (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีประเภทเป็นงานพิมพ์ที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาข้อปลีกย่อยเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มชนิดอื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
วัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นสาระในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการแต่ละจำพวกขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มอย่างแน่ชัดเพื่อให้ง่ายต่อการแสวงหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานอธิบายสินค้าเป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและสร้างจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความประณีตบรรจงเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งส่วนเพิ่มเติมส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนนี้เป็นหมวดที่โชว์และสร้างแรงชักชวนใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การเลือกคัดใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเค้าความ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษประเภทอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการตกแต่งใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อดูแลรักษาความพังจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะตรงนี้เป็นประเด็นนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเลอะเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปรูปประกอบจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถเห็นลอดเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนสินค้าจริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดตัวปัญหากับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความช่ำชองพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้สัดส่วนของการพิมพ์แคตตาล็อกตรงนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดสัดส่วนเล่มให้มีขนาดเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องอธิบายมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้เซ็งและไม่อยากอ่าน เป็นต้น ประการที่สองความสมดุลระหว่าง
สัดส่วนเล่มกับสัดส่วนภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีขนาดที่ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ชัดเจนโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการสุดท้ายคือความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับขนาดตัวหนังสือ ส่วนใหญ่การเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีปัญหา แต่สำหรับสินค้าบางจำพวกหรือสินค้าที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการบรรยายเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดขนาดตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถมองเห็นและอ่านได้สบาย อาจจะต้องมีเคล็ดลับการตระเตรียมรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องพิจารณาร่วมในการออกแบบและกำหนดสัดส่วน
ซึ่งขนาดของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดคร่าวๆกระดาษ A6 โดยสัดส่วนที่ใช้
เสมอที่สุดคือ A4 เพราะมีสัดส่วนที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงสบายในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงทางการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีทุนโดยมากสูง ซึ่งหากให้จัดพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มค่าที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะกำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นขาประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างติดต่อ หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงบัญชีมีความต้องการข่าว เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการนำไปให้กับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดเตรียมทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการสนองตอบมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางแบบอาจจะใช้การจัดพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยจัดแจงแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านขายของเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาไต่ถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนขาย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้



ขอบคุณบทความจาก : http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/

ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น


กำจัดไรฝุ่น จำเป็นต้องต้องใช้สารเคมีหรือไม่
ไรฝุ่น หมายถึงชื่อของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในระดับที่ตาเพ่งดูไม่เห็น มันอนุมาก ประมาณ 1/100 ของหน่วยวัดความยาวเป็นนิ้ว
แต่ถึงตัวมันจะอนุก็ส่งผลต่อคนเราในระดับที่ไม่อาจละเลย เพราะเจ้าสัตว์ขนาดเล็กชนิดนี้แหละเป็นตัวทำให้เราเกิดอาการภูมิแพ้
ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ได้ เพราะไรฝุ่นจะกำเนิดสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นเหตุผลของโรคทางเดินหายใจอักเสบ เป็นหวัดเรื้อรัง
มีอาการคันแลระคายในดวงตา ตาแดง มีอาการโรคหอบหืด ไมเกรน และอาการผื่นคันตามผิวหนัง และไรฝุ่นสามารถ
แพร่ขยายขยายพันธุ์ได้อย่างโดยทันทีภายในบ้านที่อยู่อาศัย เพราะมันนิยมอาศัยอยู่ตามผ้า หรือในสิ่งที่มีเส้นใย และที่มันชอบ
มาอยู่ในถิ่นที่มีคนอาศัยอยู่มากก็คือ มันกินเศษผิวหนังที่หลุดออกของมนุษย์เราเป็นอาหาร ! ฉันนั้นในที่ๆ มีคน มีเส้นใย
จึงเป็นไปได้ที่จะมีไรฝุ่นเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งโทษต่อสุขภาพ ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องหาวิธี กำจัดไรฝุ่น
ให้ออกไปให้พ้นจากที่อาศัย และการ กำจัดไรฝุ่น ที่นิยมกันก็คือสารใช้สารเคมี ซึ่งบางคนก็หนักใจในเรื่องผลกระทบ
ต่อร่างกายของเราด้วย อย่างไรก็ตามการ กำจัดไรฝุ่น มีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง ไม่ได้มีแค่ วิธี กำจัดไรฝุ่น ที่ต้องใช้สารเคมีแค่นั้น
วิธีการ กำจัดไรฝุ่น แบบไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี ได้แก่...
1.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยแสงแดด ไรฝุ่นมีขนาดที่เล็กไม่ทนทานต่อความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ การนำเอาสิ่งที่เป็นผ้า
หรือเส้นใยไปตากแดด สามารถ กำจัดไรฝุ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วยการซักในน้ำร้อน การนำเอาผ้าที่สัมผัสกับร่างกายของเราเป็นประจำอย่างผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
ผ้าห่ม หรืออื่นๆ ไปซักด้วยน้ำร้อน ทุกๆ 2 อาทิตย์ ช่วยในการ กำจัดไรฝุ่น ได้เช่นกัน
3.การ กำจัดไรฝุ่น ด้วย เครื่องดูดไรฝุ่น เป็นเครื่องมือที่ถูกเจริญขึ้นมาเพื่อจัดการ กำจัดไรฝุ่น โดยเฉพาะ แต่อาจจะ
มีราคาสูงอยู่บ้างในการที่จะซื้อเอามาใช้งาน แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่คุ้มค่าทีเดียว
4.การใช้ เครื่องฟอกอากาศ ที่มีระบบ กำจัดไรฝุ่น ซึ่งนอกจากสามาร กำจัดไรฝุ่น แล้ว ก็ยังช่วยในเรื่องการดูดกลิ่น
ทำให้อากาศหมดจดสดชื่นได้อีกด้วย แต่ก็แน่นอนว่ามีราคาสูง
5.ใช้ผ้าป้องกันไรฝุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาเพื่อป้องกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ ล่าสุดมีปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน
ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ออกมาซื้อขาย
นี่เป็นวิธีการที่คนสามารถใช้ กำจัดไรฝุ่น หรือดูแลรักษาไม่ให้มันกลายมาเป็นปัญหากับสุขภาพของเราโดยที่ไม่ต้องใช้สารเคมี

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผลิตภัณฑ์กําจัดไรฝุ่น

ที่มา : http://praiya.lnwshop.com/product/4/ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น-สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น-mite-klean

รับทำเว็บไซต์ ราคาถูก

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สี ต้องสื่อความเข้าใจชัดเจน
สำหรับคนที่ทำงาน รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องให้เรื่องสำคัญก็คือ การรับฟังความตั้งใจของผู้ที่มาจ้าง
เราให้ รับทำเว็บไซต์ ให้เข้าใจชัดเจน เมื่อทราบจุดมุ่งหมายในการใช้งานของเราแล้ว เราจึงจะสามารถเริ่มต้นการทำงาน รับทำเว็บไซต์
และออกแบบเว็บไซต์ ได้ตรงตามที่เขาต้องการทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องอื่นที่เราจะต้องเอาใจใส่ที่เป็นข้อปลีกย่อยอีก
หลายอย่างเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ตรงจุดตามที่เขาต้องประสงค์มากที่สุด ไม่ต้องกลับมาซ่อมแซมงานให้เสียเวลา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ เรื่องของ
การติดต่อของเว็บไซต์ !
การสื่อความหมายในการทำงาน รับทำเว็บไซต์ นอกเหนือจากการใช้ข้อความหรือภาพเสนอให้ผู้ใช้งานทราบ
ความสำคัญแล้ว ก็ยังมีเรื่องของ “สี” เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีผลกับอารมณ์จิตใจและความราบรื่นของลูกค้าใช้งาน
เว็บไซต์เป็นอย่างมาก เว็บที่เรา รับทำเว็บไซต์ ขึ้นมาจะไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย หากไม่มีสีสันที่ชวนมองให้คนอยากใช้งาน และ
จะยิ่งแย่กว่า หากสีของตัวหนังสือและสีของพื้นหลังไม่สัมพันธ์กัน บางทีเราใช้ตัวหนังสือสีอ่อน กับสีของพื้นหลังที่มีความ
สว่าง มันก็ทำให้ข้อความอ่านได้ลำบาก ตัวหนังสือสีเข้มกับพื้นหลังสีทึบก็ด้วย นี่เป็นหัวข้อที่ผู้ รับทำเว็บไซต์ ต้อง
เรียนรู้และทำความเข้าใจเก่งเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้สามารถ รับทำเว็บไซต์ และออกแบบเว็บไซต์ ให้มีหน้าตาสีสัน และโครง
ที่เหมาะสมใช้งานได้ง่าย
นอกจากนี้ สี ยังมีส่วนให้การโน้มน้าวความรู้สึก สี มีผลต่ออารมณ์ความเข้าใจของคนเราจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการบำบัด
ด้วยสี หรือที่เรียกว่า Color Therapy การ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ ก็เปรียบเสมือนงานผลิตหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ต้องมีการ ออกแบบรูปเล่มให้มีสีสันที่ดูดีชวนมองและน่าซื้อ เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการเลือกแบบของสีที่
พอเหมาะ การสื่อความหมายเพื่อให้ผู้ที่เข้ามามองเกิดความรู้สึกคล้อยตาม ก็จะเป็นไปได้ยากลำบาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในคำถามที่ผู้
รับทำเว็บไซต์ ต้องประสบกับอุปสรรคการถูกขอให้แก้งานจากผู้ว่าจ้างให้ รับทำเว็บไซต์ ที่พบได้บ่อย ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะไม่
เข้าใจในเรื่องงานดีไซน์ดีเท่าเรา แต่ หากว่าผู้จ้างเห็นหน้าตาเว็บไซต์ที่ เรา รับทำเว็บไซต์ ให้ แล้วเกิดความเห็นว่ามันขัดๆ
ยังไม่สวย ไม่น่าใช้ อันนี้ก็ทำให้เกิดการร้องขอให้เราเปรียนเว็บไซต์ได้เช่นกัน นั่นก็ทำให้งาน รับทำเว็บไซต์ ของเรายากลำบากเข้าไปอีก
ดังนั้นก่อนที่จะ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่เราควรทำพร้อมๆ กับการติดต่อสอบถามความต้องการในการใช้งานให้ชัดเจนแล้ว
เราจะต้องนำเอารูปร่างของ “สี” และแนวทางหน้าตาของตัวหนังสือมาให้ผู้จ้างให้ เรา รับทำเว็บไซต์ เขาได้มีส่วนใน
การเลือกด้วย พร้อมทั้งปรึกษากันในเรื่องความหมายที่ต้องการสื่อ เพื่อที่เราจะได้สามารถออกแบบเว็บไซต์ที่ตรงกับใจและเหมาะสม
ในการใช้การทำงานให้ได้มากที่สุด

 



ขอบคุณบทความจาก : https://www.makewebzone.com/

รับทำเว็บไซต์|ออกแบบเว็บไซต์

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สี ต้องสื่อความรู้ชัดเจน
สำหรับคนที่ทำงาน รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องให้เหตุสำคัญก็คือ การรับฟังความพึงประสงค์ของผู้ที่มาจ้าง
เราให้ รับทำเว็บไซต์ ให้เข้าใจชัดเจน เมื่อทราบเป้าหมายในการใช้งานของเราแล้ว เราจึงจะสามารถเริ่มต้นการงาน รับทำเว็บไซต์
และออกแบบเว็บไซต์ ได้ตรงจุดตามที่เขาต้องการทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องอื่นที่เราจะต้องตั้งใจที่เป็นข้อปลีกย่อยอีก
หลายอย่างเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ถูกต้องตามที่เขามุ่งหมายมากที่สุด ไม่ต้องกลับมาซ่อมงานให้เสียเวลา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ เรื่องของ
การติดต่อของเว็บไซต์ !
การสื่อความหมายในการทำงาน รับทำเว็บไซต์ นอกเหนือจากการใช้หัวเรื่องหรือภาพอธิบายให้ผู้ใช้งานทราบ
ความหมายแล้ว ก็ยังมีเรื่องของ “สี” เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีผลกับอารมณ์ความเข้าใจและความราบรื่นของผู้ซื้อใช้งาน
เว็บไซต์เป็นอย่างมาก เว็บที่เรา รับทำเว็บไซต์ ขึ้นมาจะไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย หากไม่มีสีสันที่น่ามองให้คนอยากใช้งาน และ
จะยิ่งแย่กว่า หากสีของตัวหนังสือและสีของพื้นหลังไม่สัมพันธน์กัน บางทีเราใช้ตัวหนังสือสีอ่อน กับสีของพื้นหลังที่มีความ
สว่าง มันก็ทำให้ข้อความอ่านได้ลำบาก ตัวหนังสือสีเข้มกับพื้นหลังสีทึบก็เช่นเดียวกัน นี่เป็นประเด็นที่ผู้ รับทำเว็บไซต์ ต้อง
เรียนรู้และทำความเข้าใจรอบรู้เป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้สามารถ รับทำเว็บไซต์ และออกแบบเว็บไซต์ ให้มีหน้าตาสีสัน และแบบอย่าง
ที่พอเหมาะใช้งานได้ง่าย
นอกจากนี้ สี ยังมีส่วนให้การสนับสนุนจิตใจ สี มีผลต่ออารมณ์ความเข้าใจของคนเราจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการบำบัด
ด้วยสี หรือที่เรียกว่า Color Therapy การ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ ก็อย่างการผลิตหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ต้องมีการ ออกแบบรูปเล่มให้มีสีสันที่ดูดีชวนมองและน่าจับจ่ายใช้สอย เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการเลือกแบบของสีที่
เหมาะสม การสื่อความหมายเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเห็นเกิดความรู้สึกคล้อยตาม ก็จะเป็นไปได้ลำบาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในตัวปัญหาที่ผู้
รับทำเว็บไซต์ ต้องประสบกับอุปสรรคการถูกขอให้แก้งานจากผู้ว่าจ้างให้ รับทำเว็บไซต์ ที่พบได้บ่อย ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะไม่
เข้าใจในเรื่องการดีไซน์ดีเท่าเรา แต่ หากว่าผู้ว่าจ้างเห็นหน้าตาเว็บไซต์ที่ เรา รับทำเว็บไซต์ ให้ แล้วเกิดความเข้าใจว่ามันขัดๆ
ยังไม่สวย ไม่น่าใช้ อันนี้ก็ทำให้เกิดการร้องขอให้เราแก้ไขเว็บไซต์ได้เช่นกัน นั่นก็ทำให้งาน รับทำเว็บไซต์ ของเรายากเข้าไปอีก
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะ รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ สิ่งที่เราควรทำพร้อมๆ กับการสอบถามความต้องการในการใช้งานให้ชัดเจนแล้ว
เราจะต้องนำเอาแบบแผนของ “สี” และแบบอย่างหน้าตาของตัวหนังสือมาให้ผู้จ้างให้ เรา รับทำเว็บไซต์ เขาได้มีส่วนใน
การเลือกด้วย พร้อมทั้งปรึกษากันในเรื่องความหมายที่ต้องการสื่อ เพื่อที่เราจะได้สามารถออกแบบเว็บไซต์ที่ตรงกับใจและเหมาะสม
ในการใช้การทำงานให้ได้มากที่สุด



เครดิต : https://makezone.co.th/

พิมพ์ใบปลิว

พิมพ์ใบปลิวสื่อโฆษณาที่ประสบ

งานพิมพ์ใบปลิวนับเป็นสื่อโฆษณาที่พบเห็นได้บ่อยมากในแต่ละวัน เชื่อว่าในทุกวันๆที่ท่านเดินทางไปทำงานหรือ
เดินเล่นตามที่ต่างๆ ในวันหยุด คุณจะได้พบเจอการจ่ายแจกใบปลิวเสมอไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า
หรือแม้แต่หน้าออฟฟิศทำงาน เมื่อคุณได้รับแจกสิ่งพิมพ์ใบปลิวเหล่านั้นมีบางครั้งคุณอาจจะสนใจในผลิตภัณฑ์หรือการ
พีอาร์ในใบปลิวนั้นหรือบางหนอาจจะทิ้งมันไปโดยไม่ใยดีเลยก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างน้อยเมื่อคุณได้รับ
ใบปลิวเข้ามาในมือแล้วคุณก็จะต้องก้มสังเกตหรืออ่านใบปลิวผ่านตาบ้าง ซึ่งนั่นเป็นจุดหลักของใบปลิวที่ทำให้การพิมพ์
ใบปลิวยังคงเป็นที่นิยมกันแง่การตลาดอยู่ทุกวันนี้
งานพิมพ์ใบปลิวแต่เดิมนั้นมีรากศัพท์มาจากคำว่า “Fliers”หรือก็คือแผ่นกระดาษที่ใช้โปรยแจกจ่ายนั่นเอง ซึ่งมักจะ
มีสาระสำคัญใจความมากกว่ารูปภาพ โดยจะเค้าความหาในเชิงที่ปกปิดไม่ระบุชื่อผู้เขียนใช้ในการเชิญชวน จูงใจ มักจะเป็นในแง่การเมือง
เป็นต้น ซึ่งอาจจะเคยได้พบตามภาพยนตร์ย้อนสมัย แต่ต่อมาในปัจจุบันสิ่งพิมพ์ใบปลิวได้เปลี่ยนไปในแง่ความหมายเป็น
คำว่า “Leaflet Handbill”ที่เป็นเอกสารขนาดเล็กคล้ายกับใบไม้โดยมีขนาดพอดีมือ จากเนื้อหาที่ปกปิดก็ถูกเปลี่ยนไป
ใช้ในการสื่อโฆษณาจูงใจโดยเปิดเผย การโปรยก็เปลี่ยนเป็นงานแจกจ่ายหรือส่งจดหมายเพื่อให้เหมาะตามยุคสมัย เพราะคงไม่ดี
แน่หากจะโปรยทิ้งให้เป็นขยะตามถนน
แม้งานเปลี่ยนแปลงด้านการใช้งานจะถูกปรับตามยุคสมัย แต่ประเภททางกายภาพของสิ่งพิมพ์ใบปลิวยังคง
เหมือนเดิม สิ่งพิมพ์ใบปลิวนั้นต้องมีเป็นกระดาษหรือสิ่งพิมพ์ใบเดียวโดยไม่มีการพับหรือรวมเล่มใดๆ นอกจากนั้นจะ
ปรับแต่งอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา ขนาด หรือขนานของกระดาษก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ทำเอง ซึ่งประจุบันแล้ว
งานพิมพ์ใบปลิวมักจะไม่ค่อยเน้นเนื้อหาแต่จะเน้นเฉพาะข้อความที่สำคัญหรือรูปภาพเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้เกิดความ
น่าสนใจและไม่ทำให้ดูน่าเบื่อเกินไป เช่น หากเป็นการสื่อโฆษณาร้านอาหารใหม่ ก็อาจจะเน้นให้มีรูปบรรยากาศร้านอาหาร
รูปเมนูอาหาร รูปแผนที่การไป โดยเนื้อหาก็นิยมระบุเพียงคำบรรยายถึงบรรยากาศและรสชาติอาหารเพียงไม่กี่
ประโยค รวมถึงวิธีการท่องเที่ยวอย่างย่อและเบอร์โทรศัพท์สื่อสาร เป็นต้น
การพิมพ์ใบปลิวนั้นนับได้ว่าเป็นการจัดทำโฆษณาประเภทสิ่งพิมพ์ที่ถูกที่สุด หากไม่กำหนดประเภทหรือ
ขนาดกระดาษที่แพงจนเกินไป ซึ่งโดยมากมักจะใช้ขนาด A4 เป็นมาตรฐานเพราะความสะดวกในด้านการพิมพ์และขนาด
ไม่ใหญ่หรือเล็กจนมากเกินไป รวมถึงกระดาษก็จะใช้กระดาษธรรมดา เช่น กระดาษอาร์ตมัน กระดาษปอนด์ โดยมีความหนา
ประมาณ 80 แกรม เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะงานพิมพ์ใบปลิวตรงนั้นจะเน้นที่ปริมาณมากกว่า ดังนั้นส่วนมากจะไม่ค่อย
เน้นในการเติมแต่งพิเศษประเภทการเคลือบผิวเพราะไม่ได้มุ่งเน้นด้านความทนทานเท่าใดนัก ด้านความงามส่วนใหญ่
จะเรื่องของงานของออกแบบไฟล์งานพิมพ์เสียเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ดีความสวยหรูเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างแรงดึงดูดในการ
อ่านเป็นอย่างมากจึงไม่ควรจะละเลย
สำหรับวิธีการใช้งานสิ่งพิมพ์ใบปลิวนั้นมีความสำคัญไม่แพ้กัน พวกคุณเคยตรวจดูหรือไม่ว่าแม้ทางด้าน
จิตวิทยาแล้วหากมีการรับใบปลิวเข้ามาที่มือแล้วอย่างน้อยต้องมองผ่านตาบ้าง ซึ่งคุณจะสนใจหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่มี
หลายครั้งที่พบว่าบางคนได้รับใบปลิวเข้ามาแล้ววางมือโดยทันทีในเวลานั้นเลยหรือปฏิเสธที่จะรับทันที สิ่งที่สำคัญในงานแจก
ใบปลิวแล้วนอกจากจะเลือกที่มีผู้คนคับคั่งแล้วต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของสถานที่และช่วงเวลาด้วย โดย
ส่วนมากผู้แจกมักจะละเลยในจุดๆ นี้ เช่น จ่ายแจกใบปลิวตอนช่วงเวลาเร่งด่วนซึ่งโดยมากผู้คนกำลังรีบ เป็นต้น การพิมพ์
ใบปลิวแจกจ่ายนั้นพึงพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ร่วมด้วยเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด



เครดิต : http://www.pimplernprint.com/เเผ่นพับ_ใบปลิว_Digital_Offset/